“บิ๊กตู่” ลั่นขอทำต่อ พลิกโฉมประเทศไทยใน 2 ปี

ชุมพร 28 ม.ค. – สัญญาลูกผู้ชาย “พล.อ.ประยุทธ์” ลั่นขอทำต่อ พลิกโฉมประเทศไทยใน 2 ปี สานต่อรถไฟรางคู่ถึงปาดังเบซาร์ ด้าน “พีระพันธุ์” ยก “บิ๊กตู่” Super หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะนักการเมืองครั้งแรก ที่ จ.ชุมพร โดยเริ่มประโยคแรกของการปราศรัยว่า “รักคนชุมพร” ยืนยันหัวใจอยู่กับประชาชนทุกคน วันนี้มาเยี่ยมชุมพร เพราะชุมพรคือประตูสู่ภาคใต้ และวันนี้มีรถไฟรางคู่เชื่อมมาสู่ภาคใต้ ปีนี้เสร็จแน่นอน มาชุมพรและทำไว้ล่วงหน้าจากชุมพรไปสงขลา ไปปาดังเบซาร์ ยืนยันหัวใจร่างกายนายกฯ อยู่กับพวกเราทุกคน และทำเพื่อคนทั้งประเทศ หลายเรื่องที่ทำยังไม่เสร็จ จึงขอทำต่อ ทั้งนี้ ตนทราบดีถึงปัญหาของประชาชน ทำงานมาหลายปีแล้ว ไม่ลืมคำสัญญาว่าจะพลิกประเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้โดยเร็วภายใน 2 ปี อย่างที่ตนบอก ถ้ามองด้วยความเป็นธรรม หลายอย่างเกิดขึ้นแล้ว และตนจะเป็นคนทำต่อให้ดีที่สุด ถ้ามีโอกาส

“นี่คำสัญญาของผมลูกผู้ชายคนหนึ่งที่จะทำให้คนไทยทั้งชาติดีขึ้น และใน 2 ปีข้างหน้า ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นไปอีก วันนี้ผมมาในฐานะนักการเมือง ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมรักคนชุมพร ทุกช่วงทุกวัย เด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ คนชรา ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ก่อนหน้านี้จนถึงวันนี้ ผมไม่เคยลืมคำสัญญาที่สัญญาไว้ว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อจะเปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปในวันข้างหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อประชาชน อนาคตของประเทศไทย และลูกหลานของท่าน ถ้าเราไม่ทำให้ต่อเนื่อง มันก็ไปไม่ได้ เหมือนเราทำถนนเส้นทางไปเส้นหนึ่ง ถ้าทำไม่ต่อเนื่องก็ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่อาสาสมัครเข้ามาในวันนี้ เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และขีดความสามารถของหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ตลอดจน ส.ส.ทุกคนที่ลงเลือกตั้ง ตนเชื่อมั่นว่า เราจะทำการเมืองของเราให้ดีที่สุด หลายปีที่ผ่านมาได้พยายามทำหลายอย่าง ต้องยอมรับว่ามากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายพรรคหลายปีได้หลายเท่าด้วยซ้ำไป ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง แก้ปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง ทำต่อมาเรื่อยๆ แต่มันยังไม่สิ้นสุด ต้องอาศัยการทำงานสานต่อสืบต่อไปให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนทำงานทุกอย่างทุกด้านอย่างละเอียดถี่ถ้วนในการกำหนดนโยบายต่างๆ และดูแลทั้งในส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ตนพูดในนามของนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่สังเกตเห็นว่าหลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างพอใจมากขึ้น แต่เราหยุดไม่ได้ หลายอย่างที่ทำมาแล้วต้องทำต่อ ทำใหม่ แก้ไข นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องการความต่อเนื่องในการทำงานในรัฐบาลต่อไป ซึ่งจะเป็นใครผมไม่ทราบ ระวังต่อจิ๊กซอว์ของเรา ภาพใหญ่ของประเทศ มีคน มีพื้นดิน ฟ้า อากาศ อะไรก็แล้วแต่ นี่คือประเทศไทย และที่นั่งอยู่ตรงนี้ ถ้ามองภาพรวมประเทศไทยเป็นขวาน 1 เล่ม ชุมพรคือด้ามขวาน หากไม่มีด้ามก็คือสากกะเบือนั่นเอง ขณะนี้โครงการสนามบิน ถนน ท่าเรือ ทุกอย่างเกิดแล้ว แต่ยังไม่เสร็จ 100% ถ้าตนได้อยู่ก็จะทำต่อให้ ซึ่งความต้องการของประชาชนมีมากมาย ทั้งในส่วนที่โดยตรง โดยอ้อม โดยตรงคือความเดือดร้อนที่รายได้ไม่เพียงพอ จึงจะพัฒนาไปสู่การมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ลดช่องว่างตรงกลาง ลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำไว้ให้ ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้คือโอกาสที่เท่าเทียม

“ที่นี่น่าจะมีผู้ได้รับบัตรประชารัฐ 80,000 กว่าคน เราทำต่อ โครงการคนละครึ่ง โครงการบัตรสวัสดิการฯ โครงการที่ทำไว้แล้วในวันนี้ ผมจะสานต่อ ถ้าผมได้อยู่ต่อ และจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเราต้องร่วมมือร่วมใจกันในการทำให้ภาพใหญ่ของประเทศ ผมรู้ทุกคนทนผมอยู่มา 8 ปี ถ้าได้อยู่ก็จะทำของเก่าที่ค้างต่อ ถ้าเราไม่วางพื้นฐานไว้ ก็จะกลับไปอยู่ที่เดิม จะสร้างรถไฟฟ้า 1 ล้านคัน/ปี ไม่ใช่เพราะประกอบอย่างเดียว ต้องสร้างระบบในประเทศด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหาเสียงวันนี้ไม่ใช่เกทับบลัฟแหลกแจกของกันเยอะแยะไปหมด ขอให้เชื่อมั่นความบริสุทธิ์ใจ ตนจะทำให้ดีที่สุด ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นดิน ผืนน้ำ อากาศ และคน ซึ่งคนถือว่าสำคัญที่สุด ต้องให้ตั้งแต่เด็ก การศึกษา การเรียนรู้ ซึ่งเราเริ่มระบบการศึกษาไว้หมดแล้ว ตนไม่ใช่ให้พรรคนี้อยู่ 2 ปี ทำดีก็ให้ทำต่อ ไม่ใช่ตั้งมาแล้วก็เลิก

ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีพยายามพูดภาษาใต้ว่า “รักคนใต้จังฮู้ รักชาวชุมพรจังฮู้ อาหารใต้ชอบกิน แต่เผ็ดจังเลย ผมรักคนชุมพรนะครับ ผมรักคนชุมพรนะครับ คนชุมพรรักลุงตู่ ตั้งแต่พรุ่งนี้จะไปเรียนภาษาใต้แล้ว และวันนี้ก็ฝากความรักไว้กับพวกเรา ความปรารถนาดีไว้กับพวกเรา ฝากหัวใจไว้กับพวกเรา จะดูแลหัวใจนายกฯ ได้ไหม” ชาวชุมพรตะโกนตอบว่าได้ นายกฯ ยังย้ำว่า ขอฝากหัวใจไว้กับพวกเรา หัวใจสมาชิกคนนี้ และปิดท้ายเวทีด้วยเพลงศรัทธา และเพลงสรรเสริญพระบารมี

ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงต้นกำเนิดของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เป็นจริงขึ้นมาได้ในวันนี้เพราะชาวชุมพร ซึ่งตอนนี้ความฝันอยากทำพรรคที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ร่วมกันสู้ทุกปัญหาเพื่อประชาชนทั้งประเทศ และเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักสู้ทุกปัญหา ที่มาร่วมทำงาน พร้อมประกาศว่า ต่อไปรวมไทยสร้างชาติจะเป็นหลักของประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ไม่ต้องการตำแหน่งในพรรค แต่สำหรับตนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็น Super หัวหน้าพรรค ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง มีแนวนโยบายว่า รื้ออะไรที่ไม่ดี ให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ความเหลื่อมล้ำให้หมดไป ลดภาระหนี้สินค่าใช้จ่าย สร้างบ้านเมืองที่ดี มีความเท่าเทียมเสมอภาค มีความเป็นธรรม ยืนยันจะซื่อสัตย์ ไม่โกง ไม่กิน ตั้งใจทำงานให้ชาติบ้านเมือง

ทั้งนี้ บรรยากาศที่เวทีเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนมาเต็มพื้นที่ลานเทศบาลเมืองชุมพร จนทะลักไปถึงหน้าศาลาเมืองชุมพร และก่อนขึ้นเวที พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินฝ่าประชาชนมาตั้งแต่ด้านหลัง เพื่อทักทายพี่น้องประชาชน โดยตลอดทางที่เดิน มีประชาชนชูป้าย “ลุงตู่ สู้ๆ” “ลุงตู่ไปต่อ” พร้อมขอถ่ายรูปและสวมกอดจำนวนมาก แถมยังบอกด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ หล่อกว่าที่เห็นในทีวี. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย