รัฐสภา 24 ม.ค.- ส.ส.- ส.ว.ซัดกันวุ่น ฝั่งไหนกันแน่ทำองค์ประชุมล่ม หลังเสียเวลารอ 1 ชั่วโมง ถกร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ด้าน “ขจิตร” ยัน เพื่อไทยยืนข้างครู ชี้ เป็นหน้าที่ ส.ส.รัฐบาล-ส.ว.ผ่านร่างกฎหมาย ขณะที่ ”ชินวรณ์” ขอทุกฝ่ายร่วมปฏิรูปการศึกษา
การประชุมร่วมรัฐสภา วันนี้ (24 ม.ค.66) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ พ.ศ. …. โดยทันทีที่ถึงเวลาการประชุมในเวลา 09.00 น. ปรากฏว่าไม่สามารถเปิดการประชุมได้ เนื่องจากองค์ประชุมยังไม่ครบ จนต้องกดออดเรียกสมาชิกเพื่อเข้าห้องประชุมใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมงจึงสามารถเปิดการประชุมได้ในเวลา 10.00 น. มีจำนวนสมาชิกเป็นองค์ประชุม 341 คน เกินจำนวนกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภาคือ 337 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุมนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกรัฐสภา ได้ขอหารือต่อที่ประชุมเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ ว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเกิดปัญหาที่ทำให้ประชาชนรู้สึกคับข้องใจ ระอาใจกรณีสภาล่ม หากเป็นสภาผู้แทนราษฎรลงจากองค์ประชุมไม่ครบ ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่หากเป็นที่ประชุมร่วมรัฐสภาล่ม การเสื่อมเสียภาพลักษณ์เกิดขึ้นทั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อยากบอกว่าส.ว. รู้สึกอับอายคับข้องใจ ไม่น้อยกว่าประชาชน และทุกครั้งที่เกิดเหตุรัฐสภาล่มไม่ได้เกิดจากวุฒิสภา ทำให้มีสมาชิกรัฐสภาหลายคนขอหารือในประเด็นนี้
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกรัฐสภา กล่าวว่า การพูดในลักษณะว่าส.ส. ทำสภาล่มและวุฒิสภาไม่เคยมาต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง เป็นการพูดเหมือนเอาดีใส่ตัว และโยนชั่วใส่ผู้อื่น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรพูดในบรรยากาศแบบนี้ ซึ่ง ส.ส. มีภารกิจทั้งการลงพื้นที่ การประชุมกรรมาธิการ ทำให้บางครั้งต้องวิ่งเข้ามาเพื่อประคับประคององค์ประชุม แต่วุฒิสภาไม่ได้มีภารกิจอะไรเลย การพูดแบบนี้ไม่ใช่การสร้างสรรค์อะไรเลย คนที่มีอายุมากแล้วไม่ควรมาพูดอะไรแบบนี้ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น พร้อมขอให้ถอนคำพูดนี้ อย่าพูดแบบนี้ในสภาอีกเลย
นายพรเพชร กล่าวว่า ตนอนุญาตให้หารือทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ขอให้ระงับการโต้เถียงกัน
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกรัฐสภา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่ประธานรัฐสภาจัดให้นัดประชุมพิเศษ เพื่อร่วมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา ถึงมุ่งหวังให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาเพื่อประกาศใช้ พร้อมขอเรื่องนี้อย่าไปโทษใคร เพราะเป็นวันสำคัญในการพิจารณาร่างกฏหมายฉบับนี้ เพียงแค่วันเดียว จากนั้นในวันพรุ่งนี้(25 ม.ร.) จะมีร่างกฏหมายที่สำคัญอีกสองฉบับ โดยเฉพาะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“อยากให้ทุกคนตระหนักว่าร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติเหมือนธรรมนูญการศึกษาที่เราต้องร่วมมือกันในการลงมติ และเมื่อผ่านมาตราสำคัญที่ถูกเถียงกันอย่างกว้างขวางแล้ว เชื่อว่าการพิจารณาจะเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว วันนี้ผมยอมรับความเป็นจริงว่าใครมา ไม่มาก็ปรากฏชัดเจน แต่อยากจะย้ำอีกครั้งว่าเรื่ององค์ประชุม เป็นเรื่องความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐสภา ส่วนความคิดเห็นจะแตกต่างกันไม่เป็นไร พร้อมเรียกร้อง ใครก็ตามที่เห็นแก่อนาคตของลูกหลาน ต้องร่วมกันสนับสนุนและติดตามการพิจารณาร่างกฏหมายฉบับนี้” นายชินวรณ์ กล่าว
นายกิติศักดิ์ วัฒนสิงห์ดำรงค์ ส.ว.ขอหารือที่ประชุม แต่นายพรเพชรไม่อนุญาต โดยระบุว่าได้เปิดประชุมไปแล้วทำให้นายกิตติศักดิ์ ประท้วง พร้อมถามว่า แปลว่าประธานจะไม่ยอมให้มีการประชุมต่อใช่หรือไม่ โดยนายพรเพชร ยืนยันว่าได้กล่าวเปิดการประชุมไปแล้วจึงไม่อนุญาตให้หารืออีก นายกิตติศักดิ์จึงระบุว่า “จะจำไว้”
นายพรเพชร จึงดำเนินการประชุมต่อ เพื่อลงมติเพิ่มมาตรา 8/1 ในร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ผลปรากฎที่ประชุม 310 ต่อ 57 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่เห็นด้วยให้เพิ่มมาตรา 8/1
จากนั้นนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.พรรคเพื่อไทย สมาชิกรัฐสภา ลุกขึ้นชี้แจงว่า ในการประชุมของพรรคเพื่อไทย ตนในฐานะกรรมาธิการร่างกฏหมายฉบับนี้ได้ชี้แจงข้อดีของกฎหมายฉบับนี้ ว่ามีอะไรบ้าง แต่ที่ประชุมพรรคไม่เห็นด้วยกับร่าง กฏหมายการศึกษา อยากให้ที่ประชุมรู้ว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายปฏิรูปคนเสนอกฎหมายนี้คือรัฐบาล โดยความเห็นชอบของ ส.ส.รัฐบาลและ ส.ว. ดังนั้น ต้องเข้าใจว่าองค์ประชุมที่จะผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้คือส.ส. รัฐบาลและ ส.ว. ส่วน ส.ส.ฝ่ายค้านไม่มีหน้าที่มาสนับสนุนร่างกฏหมายของรัฐบาลอีกครั้ง ตนเรียกร้องไปยังประธานกรรมาธิการและประธานวิปรัฐบาลว่าหากจะผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ให้เอาส.ส. มา160 เสียง ส.ว.190 เสียง เพื่อให้ได้ 350 เสียงจะผ่านร่างกฎหมาย
“ผมพูดไม่ได้จะเอาใจใคร แต่พูดถึงสัจธรรมของการออกกฏหมายปฏิรูปต้องโดยเสียงส.วและส.ส.รัฐบาลเป็นหลัก ส่วนผมจะพิจารณาโดยอิสระ เพราะผมเห็นด้วยกับการผ่านกฎหมายฉบับนี้แต่ลงมติให้ไม่ได้ เพราะมติของพรรคเพื่อไทยเชื่อตามคำเรียกร้องของครู ถึงไม่อยากให้มาตำหนิอะไรกันที่ผิดหลักการ” นายขจิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย