นายกฯ ร่วมรำลึกบรรพชนไทยเสียสละเลือดเนื้อปกป้องเอกราช

ทำเนียบ 18 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ “วันกองทัพไทย” 18 มกราคม น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณวีรกรรมความกล้าหาญ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมร่วมรำลึกถึงเหล่าบรรพชนไทยที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติ


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในโอกาส “วันกองทัพไทย” 18 มกราคม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับวันกองทัพไทย ที่นับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในวงการทหารของไทย โดยนายกรัฐมนตรีขอร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณถึงวีรกรรมความกล้าหาญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ปกป้องเอกราชและแผ่นดินไทย พร้อมร่วมรำลึกถึงเหล่าบรรพชนไทย ที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติ

“นายกรัฐมนตรีขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องทหารหาญและครอบครัวทุกคน ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเสียสละ สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กันและกัน ในการทำหน้าที่ป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน การรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาผลประโยชน์ของชาติ การพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่องที่ผ่านมา พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีขอให้ข้าราชการทหารและกำลังพลทุกนาย มีความภาคภูมิใจในเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร ยึดมั่นและรักษาสัจจะวาจาที่ให้ไว้ต่อการเป็นทหารสืบไป รวมทั้งขอให้ข้าราชการทหารและกำลังพลทุกนาย เป็นกำลังที่เข้มแข็ง เพื่อร่วมกันปกป้องเอกราช อธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติให้มั่นคงถาวรสืบไป” นายอนุชาฯ กล่าว


ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123 ตอนที่ 100ง หน้า 1/26 กันยายน 2549 ได้ลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย ความว่า ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2523 กำหนดวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทย นั้น บัดนี้ กระทรวงกลาโหมเห็นสมควรให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทย จากวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่ 18 มกราคม เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้วันที่ 18 มกราคมของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถีและวันรัฐพิธี แทนวันที่ 25 มกราคม คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2549 เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทย จากวันที่ 25 มกราคมของทุกปี เป็นวันที่ 18 มกราคมของทุกปี และอนุมัติให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดกระทรวงกลาโหม หยุดราชการในวันกองทัพไทยได้ 1 วันประกาศ ณ วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2549 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที