นายกฯ ขอให้ทุกคนมีความสุขร่วมกิจกรรมวันเด็ก

​ทำเนียบฯ 14 ม.ค.- โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติอย่างปลอดภัย ฝากผู้ปกครองช่วยกันดูแลเด็กใกล้ชิด สร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายและอุบัติเหตุกับเด็ก


วันที่ 14 มกราคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยในความปลอดภัยของเด็กสืบเนื่องจากข้อมูลอุบัติภัยในเด็กที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานว่าในแต่ละปีมีเด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุประมาณ 3,000-4,000 คน ทั้งจากการจมน้ำ อุบัติเหตุทางถนน และไฟฟ้าดูด โดยมีสาเหตุจากความซุกซน และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก นายกรัฐมนตรีจึงฝากความห่วงใยมาถึงเด็ก ๆ ทุกคน โดยขอให้ผู้ปกครองและครอบครัวช่วยกันดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเน้นย้ำให้ผู้ปกครองต้องเตรียมตัวก่อนพาบุตรหลานเที่ยวงานวันเด็กเพื่อความปลอดภัย

“นายกรัฐมนตรีฝากความห่วงใยมาถึงเด็ก ๆ ทุกคน พร้อมขอให้ผู้ปกครองและครอบครัว ช่วยกันดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด สร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กให้ปลอดภัย สอนเด็กให้เรียนรู้วิธีป้องกันอุบัติภัย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับเด็กได้ และในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 นี้ หลายหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเป็นปีแรกภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ซึ่งจะมีผู้ปกครองจำนวนมากพาบุตรหลานออกมาเที่ยวงานวันเด็ก ดังนั้น จึงขอย้ำให้ผู้ปกครองต้องเตรียมตัวก่อนพาบุตรหลานเที่ยว โดยควรบันทึกรูปพรรณของบุตรหลาน ส่วนสูง น้ำหนัก สีเสื้อผ้า ทำป้ายชื่อและเบอร์ติดต่อครอบครัวติดตัวเด็กไว้ ให้ถ่ายรูปล่าสุดพร้อมชุดที่เด็กสวมใส่ก่อนออกจากบ้าน เน้นย้ำกับเด็ก ๆ หากตกอยู่ในอันตราย มีคนจูงมือไปให้ตะโกนขอความช่วยเหลือ รวมทั้งให้นัดแนะจุดนัดพบหากเกิดการพลัดหลง และให้เด็กแจ้งขอความช่วยเหลือ โดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 8 ปี ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด จึงขอให้ผู้ปกครองได้เตรียมความพร้อม เพื่อให้เด็ก ๆ มีความสุขกับการร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติได้อย่างปลอดภัย” นายอนุชา กล่าว


ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตือนอุบัติภัยที่มักก่อให้เกิดอันตรายกับเด็ก และมีข้อแนะนำการดูแลเด็ก ดังนี้

  1. อุบัติภัยจากการจมน้ำ ไม่ให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง เช่น เล่นน้ำในอ่างน้ำ ถังน้ำ หรืออาบน้ำในห้องน้ำ ควรดูแลเด็กในขณะเล่นน้ำอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เด็กเล่นใกล้แหล่งน้ำ เพราะเด็กอาจลื่นตกน้ำทำให้จมน้ำเสียชีวิต ให้เด็กสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่ท่องเที่ยวทางน้ำและว่ายน้ำ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะช่วยพยุงตัวเด็กไม่ให้จมน้ำ
  2. อุบัติภัยจากไฟฟ้า ควรติดตั้งปลั๊กไฟให้พ้นมือเด็ก โดยติดตั้งให้สูงจากพื้นประมาณ 1.5 เมตร หากปลั๊กไฟอยู่ในระดับต่ำ ควรหาที่ครอบปลั๊กไฟ เพื่อป้องกันเด็กเล่นปลั๊กไฟ ทำให้ถูกไฟฟ้าดูด ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังบริเวณที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า หลังจากใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้ว ให้ถอดปลั๊กเครื่องไฟฟ้าและจัดเก็บให้พ้นมือเด็ก
  3. อุบัติเหตุทางถนน การพาเด็กเดินถนน ให้เด็กเดินชิดด้านในของถนนหรือบนฟุตบาท พร้อมจูงมือเด็กให้แน่น ไม่พาเด็กเดินบนถนน เพื่อป้องกันเด็กถูกรถเฉี่ยวชน การพาเด็กข้ามถนน พาเด็กข้ามตรงทางม้าลาย สะพานลอยหรือบริเวณที่มีสัญญาณไฟจราจร โดยมองด้านซ้ายและขวา ให้แน่ใจว่าปลอดภัย จึงค่อยพาเด็กข้ามถนน
  4. การนำเด็กโดยสารรถจักรยานยนต์ ให้เด็กสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานและมีขนาดพอดีกับศีรษะ ไม่นำเด็กเล็กโดยสารรถจักรยานยนต์ เพราะเด็กอาจพลัดตกจากรถ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  5. การนำเด็กโดยสารรถยนต์ ให้เด็กนั่งที่นั่งสำหรับเด็ก (Car Seat) บริเวณตอนกลางของเบาะหลังรถ ไม่ควรนำเด็กนั่งตักขณะขับรถเพราะส่งผลต่อสมรรถนะและสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ นายอนุชา กล่าวว่าในช่วงวันหยุด ผู้ปกครองมักจะพาเด็กไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งความซุกซนของเด็ก และการไม่ดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้เสี่ยงต่อการได้รับอุบัติเหตุ ซึ่ง ปภ. มีคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการพาเด็กท่องเที่ยวปลอดภัย ลดเสี่ยงอันตราย ดังนี้

  1. สวนสนุก ควรเล่นเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับวัย ขนาดและรูปร่างของเด็ก ไม่เล่นเครื่องเล่นที่เสี่ยงอันตราย ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่เล่นเครื่องเล่น
  2. สวนน้ำ เลือกใช้บริการสวนน้ำที่มีมาตรฐาน และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต ใช้อุปกรณ์ชูชีพทุกครั้งเมื่อประกอบกิจกรรมทางน้ำ ดูและการเล่นน้ำของเด็กอย่างใกล้ชิดในระยะที่มองเห็นและเข้าถึงเด็กได้ทันที
  3. สวนสัตว์ ปฏิบัติตามคำแนะนำและป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เด็กเข้าใกล้ หรือยื่นแขน ขา เข้าไปในกรงสัตว์ ไม่ป้อนอาหารสัตว์ หรือแหย่สัตว์ให้หงุดหงิด
  4. ห้างสรรพสินค้า ไม่ให้เด็กวิ่งเล่นบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ไม่ให้เด็กขึ้น-ลงบันไดเลื่อนตามลำพัง ควรอุ้มแทนการจูงมือ ไม่ให้เด็กปีนป่ายหรือเอานิ้วแหย่ตามช่องต่าง ๆ ของบันไดเลื่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]