นายกฯ ขอให้ทุกคนมีความสุขร่วมกิจกรรมวันเด็ก

​ทำเนียบฯ 14 ม.ค.- โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติอย่างปลอดภัย ฝากผู้ปกครองช่วยกันดูแลเด็กใกล้ชิด สร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายและอุบัติเหตุกับเด็ก


วันที่ 14 มกราคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยในความปลอดภัยของเด็กสืบเนื่องจากข้อมูลอุบัติภัยในเด็กที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานว่าในแต่ละปีมีเด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุประมาณ 3,000-4,000 คน ทั้งจากการจมน้ำ อุบัติเหตุทางถนน และไฟฟ้าดูด โดยมีสาเหตุจากความซุกซน และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก นายกรัฐมนตรีจึงฝากความห่วงใยมาถึงเด็ก ๆ ทุกคน โดยขอให้ผู้ปกครองและครอบครัวช่วยกันดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเน้นย้ำให้ผู้ปกครองต้องเตรียมตัวก่อนพาบุตรหลานเที่ยวงานวันเด็กเพื่อความปลอดภัย

“นายกรัฐมนตรีฝากความห่วงใยมาถึงเด็ก ๆ ทุกคน พร้อมขอให้ผู้ปกครองและครอบครัว ช่วยกันดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด สร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กให้ปลอดภัย สอนเด็กให้เรียนรู้วิธีป้องกันอุบัติภัย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับเด็กได้ และในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 นี้ หลายหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเป็นปีแรกภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ซึ่งจะมีผู้ปกครองจำนวนมากพาบุตรหลานออกมาเที่ยวงานวันเด็ก ดังนั้น จึงขอย้ำให้ผู้ปกครองต้องเตรียมตัวก่อนพาบุตรหลานเที่ยว โดยควรบันทึกรูปพรรณของบุตรหลาน ส่วนสูง น้ำหนัก สีเสื้อผ้า ทำป้ายชื่อและเบอร์ติดต่อครอบครัวติดตัวเด็กไว้ ให้ถ่ายรูปล่าสุดพร้อมชุดที่เด็กสวมใส่ก่อนออกจากบ้าน เน้นย้ำกับเด็ก ๆ หากตกอยู่ในอันตราย มีคนจูงมือไปให้ตะโกนขอความช่วยเหลือ รวมทั้งให้นัดแนะจุดนัดพบหากเกิดการพลัดหลง และให้เด็กแจ้งขอความช่วยเหลือ โดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 8 ปี ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด จึงขอให้ผู้ปกครองได้เตรียมความพร้อม เพื่อให้เด็ก ๆ มีความสุขกับการร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติได้อย่างปลอดภัย” นายอนุชา กล่าว


ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตือนอุบัติภัยที่มักก่อให้เกิดอันตรายกับเด็ก และมีข้อแนะนำการดูแลเด็ก ดังนี้

  1. อุบัติภัยจากการจมน้ำ ไม่ให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง เช่น เล่นน้ำในอ่างน้ำ ถังน้ำ หรืออาบน้ำในห้องน้ำ ควรดูแลเด็กในขณะเล่นน้ำอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เด็กเล่นใกล้แหล่งน้ำ เพราะเด็กอาจลื่นตกน้ำทำให้จมน้ำเสียชีวิต ให้เด็กสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่ท่องเที่ยวทางน้ำและว่ายน้ำ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะช่วยพยุงตัวเด็กไม่ให้จมน้ำ
  2. อุบัติภัยจากไฟฟ้า ควรติดตั้งปลั๊กไฟให้พ้นมือเด็ก โดยติดตั้งให้สูงจากพื้นประมาณ 1.5 เมตร หากปลั๊กไฟอยู่ในระดับต่ำ ควรหาที่ครอบปลั๊กไฟ เพื่อป้องกันเด็กเล่นปลั๊กไฟ ทำให้ถูกไฟฟ้าดูด ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังบริเวณที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า หลังจากใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้ว ให้ถอดปลั๊กเครื่องไฟฟ้าและจัดเก็บให้พ้นมือเด็ก
  3. อุบัติเหตุทางถนน การพาเด็กเดินถนน ให้เด็กเดินชิดด้านในของถนนหรือบนฟุตบาท พร้อมจูงมือเด็กให้แน่น ไม่พาเด็กเดินบนถนน เพื่อป้องกันเด็กถูกรถเฉี่ยวชน การพาเด็กข้ามถนน พาเด็กข้ามตรงทางม้าลาย สะพานลอยหรือบริเวณที่มีสัญญาณไฟจราจร โดยมองด้านซ้ายและขวา ให้แน่ใจว่าปลอดภัย จึงค่อยพาเด็กข้ามถนน
  4. การนำเด็กโดยสารรถจักรยานยนต์ ให้เด็กสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานและมีขนาดพอดีกับศีรษะ ไม่นำเด็กเล็กโดยสารรถจักรยานยนต์ เพราะเด็กอาจพลัดตกจากรถ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  5. การนำเด็กโดยสารรถยนต์ ให้เด็กนั่งที่นั่งสำหรับเด็ก (Car Seat) บริเวณตอนกลางของเบาะหลังรถ ไม่ควรนำเด็กนั่งตักขณะขับรถเพราะส่งผลต่อสมรรถนะและสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ นายอนุชา กล่าวว่าในช่วงวันหยุด ผู้ปกครองมักจะพาเด็กไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งความซุกซนของเด็ก และการไม่ดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้เสี่ยงต่อการได้รับอุบัติเหตุ ซึ่ง ปภ. มีคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการพาเด็กท่องเที่ยวปลอดภัย ลดเสี่ยงอันตราย ดังนี้

  1. สวนสนุก ควรเล่นเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับวัย ขนาดและรูปร่างของเด็ก ไม่เล่นเครื่องเล่นที่เสี่ยงอันตราย ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่เล่นเครื่องเล่น
  2. สวนน้ำ เลือกใช้บริการสวนน้ำที่มีมาตรฐาน และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต ใช้อุปกรณ์ชูชีพทุกครั้งเมื่อประกอบกิจกรรมทางน้ำ ดูและการเล่นน้ำของเด็กอย่างใกล้ชิดในระยะที่มองเห็นและเข้าถึงเด็กได้ทันที
  3. สวนสัตว์ ปฏิบัติตามคำแนะนำและป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เด็กเข้าใกล้ หรือยื่นแขน ขา เข้าไปในกรงสัตว์ ไม่ป้อนอาหารสัตว์ หรือแหย่สัตว์ให้หงุดหงิด
  4. ห้างสรรพสินค้า ไม่ให้เด็กวิ่งเล่นบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ไม่ให้เด็กขึ้น-ลงบันไดเลื่อนตามลำพัง ควรอุ้มแทนการจูงมือ ไม่ให้เด็กปีนป่ายหรือเอานิ้วแหย่ตามช่องต่าง ๆ ของบันไดเลื่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]