พรรคภูมิใจไทย 11 ม.ค.- “พุทธิพงษ์” ยังไม่ตัดสินใจลง ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ภูมิใจไทย ระบุ ขอฟังยุทธศาสตร์ของ กก.บห.พรรคก่อน มั่นใจคุณสมบัติสมัครได้ ด้าน “ศักดิ์สยาม” พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งเมืองกรุงฯ หวังกวาดเก้าอี้ ส.ส.กทม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงความพร้อมสนามเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังที่นายพุทธิพงษ์ เปิดตัวเป็นหัวหน้าทีม กทม.ของพรรคภูมิใจไทย
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นโยบายที่เปิดตัวต้องทำงานร่วมกันระหว่างพี่น้องกรุงเทพฯ และรัฐบาล ความคาดหวังพื้นที่ใน กทม. นั้น เราหวังเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ เพราะพรรคภูมิใจไทยส่งครบ 400 เขต ดังนั้น จะทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนได้ต้องได้รับชัยชนะทุกเขต ส่วนจะรักษาแชมป์เดิม ส.ส. กทม.ได้หรือไม่ ขอให้ประชาชนตัดสิน แม้ว่า เราไม่มี ส.ส.กทม. แต่ก็มี ส.ส.ที่เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยทำงานได้ จึงมาร่วมงาน ย้ำว่า เราไม่ได้รักษาแชมป์ เราต้องการเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ
ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนเองมาด้วยความตั้งใจ วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เดินเข้ามาในพรรค และได้รับการต้อนรับที่ดี ส่วนอนาคตจะลงสมัครแบบเขต หรือบัญชีรายชื่อยังพอมีเวลา ต้องฟังยุทธศาสตร์ และกรรมการบริหารพรรคด้วย ตนเองถือเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยมีระบบบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม ไม่มีอภิสิทธิ์ พร้อมยืนยันว่า อดีต 8 ส.ส.กทม.เดิม ที่มาอยู่พรรคภูมิใจไทย ต้องรักษาพื้นที่เดิมให้ได้
ส่วนข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณสมบัติ ส.ส.จะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า หลังเคยต้องคดีชุมนุมทางการเมืองกับ กปปส. ที่ต่อต้านรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ได้ตรวจสอบข้อกฎหมายแล้ว สามารถลงสมัครส.ส.ได้ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่ตนเคยถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพ ส.ส. ก็เป็นการร้องในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.อยู่ และเหตุการณ์จบไปแล้ว ซึ่งหากได้เป็นส.ส.ในครั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ไม่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นั้น ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญได้ระบุคุณสมบัติรัฐมนตรี ต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษา โดยไม่คำนึงว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนจะลงสมัครส.ส.หรือไม่อยู่ที่พรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาอีกครั้ง
เมื่อถามว่ากระแสของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังขายได้อยู่หรือไม่ในกทม. นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นเสน่ห์ของระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้น นายกฯมาเปิดตัวกับประชาชนชัดเจน ถือเป็นสิ่งที่ดี และเป็นทางเลือกประชาชน แต่เราก็มีทางเลือกของเราที่แต่ละคนจะนำเสนอนโยบาย
“ไม่มีใครดีกว่าใคร อยู่ที่สถานการณ์วันนั้น ใครเหมาะจะนำพาประเทศ ณ วันที่กำลังจะต้องเดินไปถึง” นายพุทธิพงษ์ กล่าว.
ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า “พรรคนี้ไม่ต้องมีอภิสิทธิ์ มีอนุทินก็พอ” และกล่าวต่ออีกว่า เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนมีทางเลือกทางการเมือง เมื่อนั้นประโยชน์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน การเสนอตัวรับใช้พี่น้องกรุงเทพฯ ไม่ได้สักแต่ว่าเอาคนมารวมกัน แต่เราเตรียมตัวมาอย่างดี กว่าจะมาถึงวันนี้เราเตรียมตัวมาหลายเดือน วางแผนยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ รวมถึงบุคลากรที่มีความเหมาะสม ประกอบกับนโยบายต่าง ๆ ที่นายพุทธิพงษ์ นำเสนอ ทั้งการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย และให้โอกาส ผลพลอยได้ไม่ได้ตกที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่จะขยายไปถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ