หนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น-ยกระดับวิสาหกิจชุมชน

กทม. 8 ม.ค. – โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เชื่อมั่นสินค้าท้องถิ่นไทยมีศักยภาพ ได้รับการยอมรับในตลาดโลก เร่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นและยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดขาย และมูลค่าการส่งออกสินค้าที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications: GI) ของไทยในปี 2565 คาดว่าจะถึงยอด 48,000 ล้านบาท โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการมุ่งเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ชุมชน สนับสนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่นและยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนใช้ประโยชน์และต่อยอดจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยอดขายสินค้า GI รวมถึงการส่งออกจะอยู่ที่ประมาณ 48,000 ล้านบาทในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 39,000 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าการขึ้นทะเบียนสินค้าที่ GI ใหม่ 22 รายการในปีนี้ และทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนแล้ว อาทิ ปลาเม็งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขมิ้นชันจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มะม่วงเบาจากจังหวัดสงขลา มะขามหวานเพชรบูรณ์ เผือกบ้านหมอจากจังหวัดสระบุรี มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ครกหินแกรนิตจากจังหวัดตาก ผ้าไหมปักธงชัยจากจังหวัดนครราชสีมา ส้มโอปราจีนจากจังหวัดปราจีนบุรี และพุทรานมบ้านโพนจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI แล้วกว่า 195 รายการ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ (https://www.ipthailand.go.th/th/gi-011.html)


นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีสินค้าไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ อาทิ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ในสหภาพยุโรป กาแฟดอยช้าง ในสหภาพยุโรป กาแฟดอยตุง ในสหภาพยุโรปและกัมพูชา ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ในสหภาพยุโรป เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ในเวียดนาม ผ้าไหมยกดอกลําพูน ในอินเดียและอินโดนีเซีย มะขามหวานเพชรบูรณ์ ในเวียดนาม และลําไยอบแห้งเนื้อสีทองลําพูน ในเวียดนาม เป็นต้น

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในเอกลักษณ์ และคุณภาพสินค้า GI ไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็น Soft Power ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างงาน และรายได้ให้กับเกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการในท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าสินค้าไทยที่มีอัตลักษณ์ และหลากหลาย สามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจเพิ่มมูลค่า พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้าส่งเสริมโอกาสทางการค้าของสินค้าไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก สร้างมูลค่าทางการตลาด และนำรายได้เข้าสู่ชุมชนท้องถิ่น ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” นายอนุชา กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก