ผลโพลชี้ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสั่นคลอนรัฐบาล

กทม. 7 ม.ค.-โพลชี้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสั่นคลอนรัฐบาล ระบุหน่วยงานภาครัฐปราบปรามล้มเหลว คนอยากเห็นฟัน จนท. รับเงินทุนจีนสีเทา อธิบดีอุทยานรับส่วย-โกงสอบตำรวจ ประชาชนหวังเลือกตั้ง นายกฯ คนใหม่ชูธงล้างโกง ปฏิรูปราชการขนานใหญ่

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ปัญหาทุจริต วิกฤติซ้อนวิกฤติประเทศ”กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,020 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-7 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นน่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.7 ระบุ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เกิดขึ้นสั่นคลอนรัฐบาล และระบบราชการไทยอย่างมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 18.5 ระบุปานกลาง และร้อยละ 4.8 ระบุน้อยถึงไม่สั่นคลอนเลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.5 ระบุ การรับรู้ต่อ ความล้มเหลวของหน่วยงานรัฐบริหารจัดการนโยบายปราบปรามการทุจริตคอรัปชัน ล้มเหลวมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ  21.9 ระบุปานกลาง และร้อยละ 5.6 ระบุน้อยถึงไม่ล้มเหลว


ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 ระบุ เชื่อว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คือต้นตอของปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรงต่างๆ มากถึงมากที่สุดได้แก่ ค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ การพนันทุกรูปแบบทั้งออนไลน์ บ่อนวิ่ง เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุ ปานกลาง และร้อยละ 11.8 ระบุ น้อย ถึง น้อยที่สุด

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.1 ระบุ เจ้าหน้าที่รัฐ รับเงินขบวนการค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน ร้อยละ 76.4 ระบุ ข่าวปัญหาทุจริตที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขเร่งด่วน ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ทุนจีนสีเทาและการฟอกเงิน ร้อยละ 76.2 ระบุ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง รู้เห็นเป็นใจสนับสนุนกลุ่มทุนจีนสีเทาและบ่อนต่าง ๆ ร้อยละ 75.0 ระบุ ข่าวอธิบดีกรมอุทยานฯ พัวพันเรียกรับส่วย สินบน ร้อยละ 73.6 ระบุ ข่าวเรียกรับเงินใต้โต๊ะ ทุจริตสอบตำรวจ  ร้อยละ 73.5 ระบุ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง อยู่เบื้องหลังเรียกรับผลประโยชน์ ส่วย สินบน และร้อยละ 72.0 ระบุ การทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ 


ที่น่าสนใจคือ เกือบร้อยละร้อยคือร้อยละ 97.3 เห็นด้วยและสนับสนุน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉ กลุ่มทุนจีนสีเทา และกระบวนการฟอกเงิน ในขณะที่เพียงร้อยละ 2.7 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.3 ระบุ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เด็ดขาด จริงจังกับปัญหาทุจริตเหมือน สมัย คสช.  ร้อยละ 77.0 ต้องการเห็น ทุกพรรคการเมือง ชูความเด็ดขาดแนวนโยบายปราบปรามการทุจริตคอรัปชัน  ร้อยละ 75.7 ต้องการเห็นและคาดหวัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ นำร่องปฏิรูประบบราชการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชัน ให้สง่างามเป็นที่พึ่งของประชาชน  ร้อยละ 74.4 ต้องการให้ ปปง.สำนักงานอัยการ และทุกหน่วยงานรัฐ ที่กำกับควบคุมการใช้กฎหมาย ทำความจริงให้ปรากฏ ร้อยละ 74.1 ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ ไม่ปกป้องคนผิด ข้าราชการพัวพันกลุ่มทุนจีนสีเทา การฟอกเงินและ เรียกรับส่วยอุทยาน และร้อยละ 71.5 ต้องการเห็น รัฐบาล เข้มแข็งเอาจริงกับนโยบายปราบปรามทุจริต คอรัปชัน
 
เมื่อถามถึงความต้องการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.2 ต้องการ นายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังเลือกตั้ง  ถือธงนำ ปฏิรูประบบราชการ จัดการ ปัญหาทุจริตคอรัปชันเด็ดขาดจริงจัง ในขณะที่เพียงร้อยละ 4.8 ไม่ต้องการ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ สะท้อนกระแสสังคมมากถึงมากที่สุด  เชื่อว่ายังมีการทุจริตฝังรากลึกในระบบราชการทุกส่วนราชการ และไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมในการสืบสวน สอบสวน เอาผิดกับผู้กระทำผิดทุจริต ในระบบราชการ โดยมี เจ้าหน้าที่รัฐ และการเมืองสมประโยชน์ร่วมกัน  ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำคัญของประเทศและเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด บ่อนการพนัน ค้าอาวุธ และจี้ปล้น เป็นต้น  และยังเชื่อว่า มีการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง สมคมคิด อยู่เบื้องหลังปัญหาทุจริตคอรัปชันฝังลึกในทุกระบบราชการไทย

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ เกือบร้อยละร้อยเห็นด้วยและสนับสนุน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉกลุ่มทุนจีนสีเทา และผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนขบวนการที่ทำผิดกฎหมายทั้งยาเสพติด และบ่อนการพนัน และ ไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของความเสมอภาคของกระบวนการยุติธรรม


ข้อมูลผลโพล บ่งชี้ให้เห็นได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มากกว่า หน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชันอย่างมาก ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องการให้รัฐจริงจังทำความจริงให้ปรากฏ และต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือธงนำปฏิรูประบบราชการ ขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชันให้เด็ดขาดมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]