ผลโพลชี้ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสั่นคลอนรัฐบาล

กทม. 7 ม.ค.-โพลชี้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสั่นคลอนรัฐบาล ระบุหน่วยงานภาครัฐปราบปรามล้มเหลว คนอยากเห็นฟัน จนท. รับเงินทุนจีนสีเทา อธิบดีอุทยานรับส่วย-โกงสอบตำรวจ ประชาชนหวังเลือกตั้ง นายกฯ คนใหม่ชูธงล้างโกง ปฏิรูปราชการขนานใหญ่

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ปัญหาทุจริต วิกฤติซ้อนวิกฤติประเทศ”กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,020 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-7 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นน่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.7 ระบุ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เกิดขึ้นสั่นคลอนรัฐบาล และระบบราชการไทยอย่างมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 18.5 ระบุปานกลาง และร้อยละ 4.8 ระบุน้อยถึงไม่สั่นคลอนเลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.5 ระบุ การรับรู้ต่อ ความล้มเหลวของหน่วยงานรัฐบริหารจัดการนโยบายปราบปรามการทุจริตคอรัปชัน ล้มเหลวมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ  21.9 ระบุปานกลาง และร้อยละ 5.6 ระบุน้อยถึงไม่ล้มเหลว


ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 ระบุ เชื่อว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คือต้นตอของปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรงต่างๆ มากถึงมากที่สุดได้แก่ ค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ การพนันทุกรูปแบบทั้งออนไลน์ บ่อนวิ่ง เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุ ปานกลาง และร้อยละ 11.8 ระบุ น้อย ถึง น้อยที่สุด

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.1 ระบุ เจ้าหน้าที่รัฐ รับเงินขบวนการค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน ร้อยละ 76.4 ระบุ ข่าวปัญหาทุจริตที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขเร่งด่วน ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ทุนจีนสีเทาและการฟอกเงิน ร้อยละ 76.2 ระบุ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง รู้เห็นเป็นใจสนับสนุนกลุ่มทุนจีนสีเทาและบ่อนต่าง ๆ ร้อยละ 75.0 ระบุ ข่าวอธิบดีกรมอุทยานฯ พัวพันเรียกรับส่วย สินบน ร้อยละ 73.6 ระบุ ข่าวเรียกรับเงินใต้โต๊ะ ทุจริตสอบตำรวจ  ร้อยละ 73.5 ระบุ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง อยู่เบื้องหลังเรียกรับผลประโยชน์ ส่วย สินบน และร้อยละ 72.0 ระบุ การทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ 


ที่น่าสนใจคือ เกือบร้อยละร้อยคือร้อยละ 97.3 เห็นด้วยและสนับสนุน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉ กลุ่มทุนจีนสีเทา และกระบวนการฟอกเงิน ในขณะที่เพียงร้อยละ 2.7 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.3 ระบุ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เด็ดขาด จริงจังกับปัญหาทุจริตเหมือน สมัย คสช.  ร้อยละ 77.0 ต้องการเห็น ทุกพรรคการเมือง ชูความเด็ดขาดแนวนโยบายปราบปรามการทุจริตคอรัปชัน  ร้อยละ 75.7 ต้องการเห็นและคาดหวัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ นำร่องปฏิรูประบบราชการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชัน ให้สง่างามเป็นที่พึ่งของประชาชน  ร้อยละ 74.4 ต้องการให้ ปปง.สำนักงานอัยการ และทุกหน่วยงานรัฐ ที่กำกับควบคุมการใช้กฎหมาย ทำความจริงให้ปรากฏ ร้อยละ 74.1 ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ ไม่ปกป้องคนผิด ข้าราชการพัวพันกลุ่มทุนจีนสีเทา การฟอกเงินและ เรียกรับส่วยอุทยาน และร้อยละ 71.5 ต้องการเห็น รัฐบาล เข้มแข็งเอาจริงกับนโยบายปราบปรามทุจริต คอรัปชัน
 
เมื่อถามถึงความต้องการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.2 ต้องการ นายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังเลือกตั้ง  ถือธงนำ ปฏิรูประบบราชการ จัดการ ปัญหาทุจริตคอรัปชันเด็ดขาดจริงจัง ในขณะที่เพียงร้อยละ 4.8 ไม่ต้องการ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ สะท้อนกระแสสังคมมากถึงมากที่สุด  เชื่อว่ายังมีการทุจริตฝังรากลึกในระบบราชการทุกส่วนราชการ และไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมในการสืบสวน สอบสวน เอาผิดกับผู้กระทำผิดทุจริต ในระบบราชการ โดยมี เจ้าหน้าที่รัฐ และการเมืองสมประโยชน์ร่วมกัน  ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำคัญของประเทศและเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด บ่อนการพนัน ค้าอาวุธ และจี้ปล้น เป็นต้น  และยังเชื่อว่า มีการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง สมคมคิด อยู่เบื้องหลังปัญหาทุจริตคอรัปชันฝังลึกในทุกระบบราชการไทย

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ เกือบร้อยละร้อยเห็นด้วยและสนับสนุน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉกลุ่มทุนจีนสีเทา และผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนขบวนการที่ทำผิดกฎหมายทั้งยาเสพติด และบ่อนการพนัน และ ไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของความเสมอภาคของกระบวนการยุติธรรม


ข้อมูลผลโพล บ่งชี้ให้เห็นได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มากกว่า หน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชันอย่างมาก ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องการให้รัฐจริงจังทำความจริงให้ปรากฏ และต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือธงนำปฏิรูประบบราชการ ขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชันให้เด็ดขาดมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย