fbpx

ผลโพลชี้ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสั่นคลอนรัฐบาล

กทม. 7 ม.ค.-โพลชี้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสั่นคลอนรัฐบาล ระบุหน่วยงานภาครัฐปราบปรามล้มเหลว คนอยากเห็นฟัน จนท. รับเงินทุนจีนสีเทา อธิบดีอุทยานรับส่วย-โกงสอบตำรวจ ประชาชนหวังเลือกตั้ง นายกฯ คนใหม่ชูธงล้างโกง ปฏิรูปราชการขนานใหญ่

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ปัญหาทุจริต วิกฤติซ้อนวิกฤติประเทศ”กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,020 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-7 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นน่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.7 ระบุ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เกิดขึ้นสั่นคลอนรัฐบาล และระบบราชการไทยอย่างมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 18.5 ระบุปานกลาง และร้อยละ 4.8 ระบุน้อยถึงไม่สั่นคลอนเลย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.5 ระบุ การรับรู้ต่อ ความล้มเหลวของหน่วยงานรัฐบริหารจัดการนโยบายปราบปรามการทุจริตคอรัปชัน ล้มเหลวมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ  21.9 ระบุปานกลาง และร้อยละ 5.6 ระบุน้อยถึงไม่ล้มเหลว


ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 ระบุ เชื่อว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คือต้นตอของปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรงต่างๆ มากถึงมากที่สุดได้แก่ ค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ การพนันทุกรูปแบบทั้งออนไลน์ บ่อนวิ่ง เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุ ปานกลาง และร้อยละ 11.8 ระบุ น้อย ถึง น้อยที่สุด

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.1 ระบุ เจ้าหน้าที่รัฐ รับเงินขบวนการค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน ร้อยละ 76.4 ระบุ ข่าวปัญหาทุจริตที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขเร่งด่วน ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ทุนจีนสีเทาและการฟอกเงิน ร้อยละ 76.2 ระบุ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง รู้เห็นเป็นใจสนับสนุนกลุ่มทุนจีนสีเทาและบ่อนต่าง ๆ ร้อยละ 75.0 ระบุ ข่าวอธิบดีกรมอุทยานฯ พัวพันเรียกรับส่วย สินบน ร้อยละ 73.6 ระบุ ข่าวเรียกรับเงินใต้โต๊ะ ทุจริตสอบตำรวจ  ร้อยละ 73.5 ระบุ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง อยู่เบื้องหลังเรียกรับผลประโยชน์ ส่วย สินบน และร้อยละ 72.0 ระบุ การทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ 


ที่น่าสนใจคือ เกือบร้อยละร้อยคือร้อยละ 97.3 เห็นด้วยและสนับสนุน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉ กลุ่มทุนจีนสีเทา และกระบวนการฟอกเงิน ในขณะที่เพียงร้อยละ 2.7 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.3 ระบุ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เด็ดขาด จริงจังกับปัญหาทุจริตเหมือน สมัย คสช.  ร้อยละ 77.0 ต้องการเห็น ทุกพรรคการเมือง ชูความเด็ดขาดแนวนโยบายปราบปรามการทุจริตคอรัปชัน  ร้อยละ 75.7 ต้องการเห็นและคาดหวัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ นำร่องปฏิรูประบบราชการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชัน ให้สง่างามเป็นที่พึ่งของประชาชน  ร้อยละ 74.4 ต้องการให้ ปปง.สำนักงานอัยการ และทุกหน่วยงานรัฐ ที่กำกับควบคุมการใช้กฎหมาย ทำความจริงให้ปรากฏ ร้อยละ 74.1 ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ ไม่ปกป้องคนผิด ข้าราชการพัวพันกลุ่มทุนจีนสีเทา การฟอกเงินและ เรียกรับส่วยอุทยาน และร้อยละ 71.5 ต้องการเห็น รัฐบาล เข้มแข็งเอาจริงกับนโยบายปราบปรามทุจริต คอรัปชัน
 
เมื่อถามถึงความต้องการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.2 ต้องการ นายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังเลือกตั้ง  ถือธงนำ ปฏิรูประบบราชการ จัดการ ปัญหาทุจริตคอรัปชันเด็ดขาดจริงจัง ในขณะที่เพียงร้อยละ 4.8 ไม่ต้องการ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ สะท้อนกระแสสังคมมากถึงมากที่สุด  เชื่อว่ายังมีการทุจริตฝังรากลึกในระบบราชการทุกส่วนราชการ และไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมในการสืบสวน สอบสวน เอาผิดกับผู้กระทำผิดทุจริต ในระบบราชการ โดยมี เจ้าหน้าที่รัฐ และการเมืองสมประโยชน์ร่วมกัน  ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำคัญของประเทศและเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด บ่อนการพนัน ค้าอาวุธ และจี้ปล้น เป็นต้น  และยังเชื่อว่า มีการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง สมคมคิด อยู่เบื้องหลังปัญหาทุจริตคอรัปชันฝังลึกในทุกระบบราชการไทย

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ เกือบร้อยละร้อยเห็นด้วยและสนับสนุน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉกลุ่มทุนจีนสีเทา และผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนขบวนการที่ทำผิดกฎหมายทั้งยาเสพติด และบ่อนการพนัน และ ไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของความเสมอภาคของกระบวนการยุติธรรม


ข้อมูลผลโพล บ่งชี้ให้เห็นได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มากกว่า หน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชันอย่างมาก ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องการให้รัฐจริงจังทำความจริงให้ปรากฏ และต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือธงนำปฏิรูประบบราชการ ขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชันให้เด็ดขาดมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง เกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูล เพิ่มความรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วน จ.ภูเก็ต ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลบริเวณปฎักซอย 8 บ้านกะตะ ต.กะรน ที่เคยเกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด ปรากฏภาพน้ำและดินโคลนไหลลงมาจากบนเขา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน เพราะยังไม่มีมาตรการป้องกัน

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยชาวเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ปัญหาที่ชาวเชียงรายต้องเผชิญคือดินโคลนที่ยังต้องรอการฟื้นฟู หลายคนยังทำใจไม่ได้ แต่ฮึดสู้จากธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ส่งไปช่วยเหลือและให้กำลังใจสู้วิกฤติครั้งนี้

ชายแดนเสียหายหนัก “แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ยังจมโคลน

น้ำท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเกือบสัปดาห์ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายอย่างหนัก ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เต็มไปด้วยโคลนมหาศาลท่วมอาคารบ้านเรือน ทำให้หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

เร่งสูบน้ำบรรเทาน้ำท่วมตัวเมืองหนองคาย

หลังแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าสู่วันที่ 5 วันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำถาวรแล้ว ทำให้สามารถสูบน้ำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะเห็นน้ำในตัวเมืองหนองคาย ลดระดับลงอย่างชัดเจน