จี้รัฐเปิด TOR เปลี่ยนป้ายสถานีบางซื่อ

พรรคไทยสร้างไทย 5 ม.ค.-ไทยสร้างไทยกางข้อมูล บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ เผย นับแต่ปี 58 ได้งานจากภาครัฐรวม 9 ครั้ง มูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาท โดย 2 ใน 9 ครั้งเป็นวิธีเฉพาะเจาะจง จี้รัฐเปิด TOR ทั้งหมดโดยเฉพาะโครงการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ


นายนรุตม์ชัย บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยมีมูลค่า 33,169,726.39 บาท หรือหากคิดเป็นรายตัวอักษร จะตกตัวอักษรละ 589,286 บาท ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมด้านราคาและความโปร่งใสของโครงการดังกล่าวเป็นวงกว้าง ทำไมการจัดทำป้ายจึงมีราคาแพงขนาดนี้ แพงด้วยเหตุผลอะไร วิธีการติดตั้ง วิธีการจัดทำ หรือเป็นเพราะมีเหตุผลแอบแฝง

“โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ลงนามระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โครงการนี้ถูกจับตามอง เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วย “วิธีเฉพาะเจาะจง” ตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ปี พ.ศ. 2560 หรือกล่าวอย่างง่ายคือเป็นวิธีที่สามารถเลือกบริษัทที่จะได้รับงานได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการประกวดราคา” นายนรุตม์ชัย กล่าว


นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2558 บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างจากภาครัฐ ไปแล้วทั้งหมด 9 โครงการ โดยรวมมูลค่างานที่ได้รับจากภาครัฐทั้งหมดกว่าสองหมื่นสามพันล้านบาท ในจำนวน 9 โครงการนี้ มี 2 โครงการที่ได้รับคัดเลือกโดยวิธีเฉพาะเจาะจง คือ โครงการ “จ้างการจัดทำทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีกลางบางซื่อ (รฟท.) กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ (รฟม.) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง” โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจ้าง มีมูลค่าวงเงินสัญญาอยู่ที่ 19,992,000 บาท โดยลงนามทำสัญญาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564

“บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ได้รับสัญญาจ้างงานจากภาครัฐ 2 ด้านหลัก คืองานด้านชลประทานและงานด้านการคมนาคมทางราง ในจำนวน 9 โครงการ มี 2 โครงการที่เกี่ยวข้องกับการชลประทาน และ อีก 4 โครงการที่เกียวข้องกับการคมนาคมทางราง(ไม่รวมโครงการล่าสุด) โดยสัญญาว่าจ้างฉบับที่มีมูลค่าสูงสุดที่บริษัทฯได้รับคือ โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 4-2 งานโยธาสำหรับช่วง ดอนเมือง – นวนครในปี 2564 จากรฟท.โดยมีมูลค่าทั้งหมดกว่า 1 หมื่นล้านบาท” นายนรุตม์ชัย กล่าว

นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า สัญญาของ ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น กับรัฐ มีทั้งหมด 9 ฉบับ ได้แก่ 1. ประกวดราคาจ้างก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ และ อาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น อุโมงค์ส่น้ำช่วงแม่งัด – แม่กวงสัญญาที่ 2 โครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวอุดมธาราจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2558 มูลค่าสัญญา 1,880,800,000 บาท กับ กรมชลประทาน 2. จ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองในพื้นที่จังหวัดกลุ่มที่ 1 จำนวน 19 จังหวัด โดยวิธีคัดเลือก ปี 2560 มูลค่าสัญญา 45,600,000 บาท กับ กรมโยธาธิการและผังเมือง


“3. จ้างก่อสร้างงานก่อสร้างวางท่อประปา และงานที่เกี่ยวข้องสัญญา สศป-28 โดยวิธีคัดเลือก ปี 2562 มูลค่าสัญญา 435,548,080 บาท กับ การประปานครหลวง 4. ประกวดราคาก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 366 สายทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ ตอน 2 ด้วยวิธีปรกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในปี 2563 มูลค่าสัญญา 849,000,000 บาท กับกรมทางหลวง 5. จ้างเหมาบริการซ่อมบำรุงรักษาประแจสับราง ซ่อมบำรุงรักษาลิฟท์ และบันไดเลื่อน ของโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง)ช่วง-บางซื่อตลิ่งชั่น ในปี 2564 โดยวิธีคัดเลือกมูลค่าสัญญา 86,000,000 บาท กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย”  นายนรุตม์ชัย กล่าว

นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า 6. ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธาราณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วง กรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 4-6 งานโยธาสำหรับช่วง พระแก้ว – สระบุรี ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในปี 2564 มูลค่าสัญญา9,428,999,969 บาท กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย 7. จ้างการจัดทำทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีกลางบางซื่อ (รฟท.) กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซ่อ (รฟม.) โดยวิธีเฉพาะเจาะจงโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ในปี 2564 มูลค่าสัญญา 19,992,000 บาท กับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  8. ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 4-2 งานโยธาสำหรับช่วงดอนเมือง – นวนคร ด้วยวิธีประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ปี 2564 มูลค่าสัญญา 10,570,000,000 บาท

“9. จ้างก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และ ตราสัญญลักษณ์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ปี 2565 มูลค่าสัญญา 33,169,726.39 บาท รวมมูลค่าโครงการทั้งหมด ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ได้รับจากภาครัฐ คือ 23,349,109,775.39 บาท ในจำนวนสัญญาดังกล่าว มี 2 สัญญาที่เป็นการว่าจ้างโดยเฉพาะเจาะจง 2 สัญญา เป็นเจ้าเดียวที่ยื่นซองเสนอราคา และ อีก 1 สัญญา ที่เป็นเจ้าเดียวที่ผ่านคุณสมบัติ  นอกจากสัญญญาที่มีชื่อของ ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับเหมาแต่เพียงรายเดียวแล้วยังมีบริษัทร่วมทุนที่มีชื่อ ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ร่วมทุน ได้รับสัมปทานจากภาครัฐอีก จำนวน 7 โครงการ” นายนรุตม์ชัย กล่าว

นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า 7 โครงการดังกล่าวประกอบด้วย 1. ก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ – โคกกะเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) มูลค่ารวม 10,050 ล้านบาท ในปี 2560 กับการรถไฟแห่งประเทศไทย 2. การก่อสร้างโครงการจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ มูลค่า 2,768 ล้านบาท ในปี 2562 กับการรถไฟแห่งประเทศไทย 3. กรมชลประทาน ในการก่อสร้างขุดคลองระบายน้ำ หลากพร้อมอาคารประกอบ สัญญาที่ 1 โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มูลค่า 2,758.085 ล้านบาท ในปี 2563 กับกรมชลประทาน

นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า 4. โครงการเปลี่ยน ระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการส่วนต่อขยายตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี  -ถ.ติวานนท์ มูลค่า 1,871.965 ล้านบาท ในปี 2563 กับการไฟฟ้านครหลวง 5. จ้างก่อสร้างโครงการทางพิเศษสาย พระราม 3- ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 1 กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มูลค่า 7,350 ล้านบาท ในปี 2564 กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 6. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 6 มูลค่า 279.75 ล้านบาท  ในปี 2565 กับกรมทางหลวง 7. ก่อสร้างสะพานบนสายทาง รย.4060 อ.เขาชะเมา, แก่งหางแมว จ.ระยอง, จันทบุรี 2 แห่ง มูลค่า 587.516 ล้านบาท ในปี 2565 กับกรมทางหลวงชนบท

นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดพบว่า บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลดำเนินการไตรมาส 2 ของปี 2565 พบว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น 133.63  % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยครึ่งปีแรกของปี 2565 มีกำไรทั้งหมด 21.13 ล้านบาท คำถามที่เกิดขึ้นในจิตใจของประชาชนคือ ในขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทยยังคงค้างค่าก่อสร้างรวมดอกเบี้ยจาก ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น กว่า 7,200 ล้านบาท และ ยังอยู่ในขั้นตอนฟ้องร้องกันอยู่ แต่เหตุใดยังคงได้รับงานจากการรถไฟอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสัญญาที่ผ่านมาเหตุใดจึงได้รับการว่าจ้างอย่างเฉพาะเจาะจง รวมถึงสัญญาบางสัญญาเหตุใดจึงมีผู้ยื่นซองเสนอราคาเพียงรายเดียว เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีผู้มีอำนาจจากหน่วยงานภาครัฐรู้เห็นเป็นใจกับบริษัท คงไม่มีทางที่บริษัทหนึ่งจะสามารถเข้าเป็นคู่สัญญากับภาครัฐได้หลายโครงการในมูลค่าจำนวนเงินที่สูง ทั้งที่เกิดข้อครหามากมายเต็มไปหมด

“เราเชื่อว่าการทำสัญญาใดๆกับรัฐ โดยเงินภาษีของประชาชน ควรจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องให้มีการเปิด TOR ทั้งหมด     ของการจัดซื้อจัดจ้างที่บริษัทนี้ได้เข้าเป็นคู่สัญญากับภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อล่าสุด หากมีการเปิดเผย TOR ของโครงการเปลี่ยนป้ายชื่อ ประชาชนจะได้ทราบถึงหน่วยงานและผู้รับผิดชอบโครงการ รายละเอียดที่ทำให้งบประมาณสูงลิ้วเกินความเป็นจริง แล้วในความเป็นจริงยังมีหนทางอื่นอีกหรือไม่ที่สามารถทำให้โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมากถึงขนาดนี้  ถ้ายังคงมีการประวิงและไม่เปิดเผย จะเปรียบเสมือนชี้ให้ประชาชนได้เห็นว่า โครงการนี้เป็นการคอรัปชั่นอย่างมโหราฬ หากเป็นโครงการที่มีความบริสุทธิ์จริง ภาครัฐต้องสามารถคลายข้อสงสัยให้กับประชาชนได้ เพื่อให้ประชาชนหมดข้อสงสัยในการลงทุนใดๆของภาครัฐ” นายนรุตม์ชัย กล่าว

นายนรุตม์ชัย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจับตาโครงการล่าสุดในการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ แม้ราคา 33ล้านบาท จะไม่ใช่ตัวเลขที่สูงนักหากเทียบกับงบประมาณทั้งประเทศ แต่เราอยากจะตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณก้อนดังกล่าวว่า ในสภาวะที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณจำนวนดังกล่าวกับการทำป้ายชื่อนั้น เหมาะสมแล้วหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]