ปภ. 4 ม.ค.- ศปถ. สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม พบ 6 วันของการรณรงค์ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 มีผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย จังหวัดเชียงราย ตายพุ่ง 13 ราย ส่วนสาเหตุเกิดจากขับรถเร็ว
นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่6 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 239 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 259 คน ผู้เสียชีวิต 15 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 38.49 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 24.27 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 15.48 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.73 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 86.61 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 48.12 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 24.27 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 19.00 น. ร้อยละ 9.21 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 16.79 มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,880 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 55,787 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 365,238 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 54,629 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 15,873 ราย ไม่มีใบขับขี่ 15,494 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 7,384 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา และภูเก็ต (จังหวัดละ 2 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 3 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,201 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,197 คน ผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (76 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (81 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (13 ราย) กรุงเทพมหานครและปทุมธานี (จังหวัดละ 11 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา ยะลา สตูล และสุโขทัย
นายโชตินรินทร์ ยังกล่าวว่า จากสถิติในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า การขับเร็ว เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้กำชับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เข้มงวดผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง ทั้งนี้คาดว่าเส้นทางสายหลักบางเส้นทางจะยังคงมีปริมาณการจราจรหนาแน่นในบางจุด จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยวแล้ว หลายเส้นทางเริ่มมีปริมาณรถน้อย โดยเฉพาะถนนสายหลักของจังหวัดใหญ่และเส้นทางจากภูมิภาคต่างๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง จึงขอฝากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถ ไม่ประมาท ไม่ขับรถด้วยความคึกคะนอง คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทางเป็นหลัก เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง .-สำนักข่าวไทย.