ศปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุปีใหม่ วันแรกเสียชีวิต 37 ราย

ปภ. 30 ธ.ค.- ศปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน (29 ธ.ค.65) วันแรกของการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนช่วงปีใหม่ 2566 พบเกิดอุบัติเหตุ 349 ครั้ง บาดเจ็บ 351 คน เสียชีวิต 37 ราย ขณะที่ลำพูน เกิดอุบัติเหตุมากสุด 13 ครั้ง ด้านประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย


นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และภาคีเครือข่าย รวบรวมเปิดสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” พบเกิดอุบัติเหตุ 349 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 351 คน ผู้เสียชีวิต 37ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ลำพูน 13 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย และจังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุด ได้แก่สุราษฎร์ธานี 14 คน

โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ คือขับรถเร็วร้อยละ 41.55 ดื่มแล้วขับร้อยละ 23.50 ส่วนพฤติกรรมการเกิดอุบัติเหตุ คือไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 59.79 ขับรถเร็วร้อยละ 19.59 สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ สูงสุด ได้แก่รถจักรยานยนต์ร้อยละ 81.51 รถปิคอัพร้อยละ 4.76 ถนนที่เกิดอุบัติเหตุ คือทางตรงร้อยละ 83.09 ทางโค้งร้อยละ 15.19 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 18:01 น. ถึง 19:00 น. โดยผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วง 30 ถึง 39 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 55,910 คนตั้งจุดตรวจหลัก 1,887 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 370,561 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 65,530 คน พบความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,920 คนไม่สวมหมวกนิรภัย 18,250 คน ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 6,315 คน


นายโชตินรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ (30 ธ.ค.) เป็นวันแรกของช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ประชาชนยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะถนนสายหลัก สายรอง และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ดื่มไม่ขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย พร้อมเฝ้าระวังถนนทางตรงที่มีระยะทางยาวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการขับรถเร็ว ตลอดจนใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสาในการจัดตั้งด่านชุมชนป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่มีความสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุทางถนน

ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานภาคีเครือข่ายสร้างความปลอดภัยทางถนนในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area Approach) เน้นการวางแผนแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน