นายกฯ พอใจผลโครงการ EEC มีความก้าวหน้า

ทำเนียบ 28 ธ.ค.- นายกฯ พอใจผลการดำเนินงานโครงการ EEC มีความก้าวหน้า ย้ำ ทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมทุกมิติ ขณะที่ บอร์ด EEC เดินหน้า 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก อนุมัติเงินลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมาย คู่การพัฒนาพื้นที่ครบมิติ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินขับเคลื่อนโครงการ EEC ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับการพัฒนาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ อาชีพให้กับประชาชน และพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้การดำเนินการต่าง ๆ มีความก้าวหน้าโดยลำดับ แม้บางส่วนยังมีอุปสรรคปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่ยังมีอยู่ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้เกิดผลสำเร็จในทุกมิติตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ


นายกรัฐมนตรี ขอบคุณคณะกรรมการ กพอ. ทุกคน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันดำเนินงานต่าง ๆ มีความก้าวหน้าโดยลำดับและเกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งทุกอย่างที่ทุกคนช่วยกันทำวันนี้ก็เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตให้กับประเทศและลูกหลานของเรา พร้อมอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอให้ทุกคนและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขตลอดไปและมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุม กพอ. พิจารณาเห็นชอบหลักการโครงการยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง 2 ที่มีกระทรวงสาธารณสุข และ สกพอ. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกันดำเนินการ ในรูปแบบการลงทุนรัฐร่วมเอกชน (PPP) ประเภท Build Transfer Operate : BTO ที่เอกชนเป็นผู้ออกแบบ ลงทุน ก่อสร้างทรัพย์สินสำคัญและโอนกรรมสิทธิ์ให้รัฐทันทีหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบการลงทุนขยายโรงพยาบาลของรัฐโดยความร่วมมือจากเอกชน และจะช่วยแก้ข้อจำกัดด้านงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลปลวกแดง 2 จะเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาดเล็ก (M1) รองรับได้ 120 -200 เตียง โดยจะเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญาของประกันสังคม ประกอบด้วย อาคารผ่าตัด – อุบัติเหตุ อาคารผู้ป่วยใน และ/หรืออาคารอื่นๆ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด มีบุคลากรและครุภัณฑ์การแพทย์ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข มีบริการพิเศษ (Premium Service) และระบบส่งต่อผู้ป่วยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะรองรับผู้ประกันตน ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน ในอำเภอปลวกแดง โดยประชาชนที่อยู่อาศัย และทำงานในพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง จะได้รับบริการสาธารณสุขในระดับมาตรฐาน ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สะดวกปลอดภัย และเพื่อลดการเดินทางไปรักษาพยาบาลนอกพื้นที่

ที่ประชุม กพอ. ได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ โดยแผนการดำเนินงานที่สำคัญต่อไป คาดว่าจะประกาศเชิญชวนการคัดเลือกเอกชน ได้ในช่วงต้นปี 2566 และคาดว่าจะสามารถประกาศผลการคัดเลือก พร้อมลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง 2 ได้ในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งการออกแบบก่อสร้างโครงการต่างๆ จะแล้วเสร็จไม่เกิน 3 ปี และมีระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งหมด 50 ปี


นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าภารกิจขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานหลัก ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุุนรััฐ-เอกชน (PPP) ที่สำคัญ ๆ ได้แก่

  1. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ทาง รฟท. ได้ส่งมอบพื้นที่โครงการ (ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และพื้นที่มักกะสันและศรีราชาให้แก่เอกชนแล้ว โดยเอกชนเข้าดำเนินการเตรียมการก่อสร้าง และขณะนี้อยู่ระหว่างรอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน จากบีโอไอ ซึ่งเมื่อได้รับจะทำให้เงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาครบถ้วน และจะเริ่มการก่อสร้างได้ ทั้งนี้ในส่วนการบริหารงานการให้บริการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ปัจจุบันเอกชนได้เข้าดำเนินการตามมาตรฐานที่ดี ซึ่งตรงตาม KPI ที่ รฟท. กำหนด
  2. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก หลังจากเอกชนคู่สัญญา และกองทัพเรือ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงการใช้สนามบินอู่ตะเภาร่วมกัน (Joint Use Agreement) และรายงาน EHIA ได้รับการอนุมัติจาก ครม. โดย สกพอ. ได้แจ้งให้เอกชนรับสิทธิตามสัญญาแล้ว เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 การดำเนินงานต่อไป สกพอ. จะแจ้งให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2566 หลังจากเงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาร่วมลงทุนครบถ้วน
    ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ และโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ จากสถานการณ์โควิด 19 และสงครามรัสเชีย-ยูเครน ปัจจุบันคู่สัญญาได้เจรจาหลักการแก้ไขปัญหา และได้นำเสนอต่อคณะทำงานสนับสนุนการแก้ไขปัญหาทั้ง 2 โครงการ ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยพิจารณาให้ความเห็นด้านเทคนิค การเงินและกฎหมายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำความเห็นไปปรับปรุง และจะนำเสนอให้ที่ประชุม กพอ. พิจารณาต่อไป
  3. โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เริ่มงานออกแบบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โดยขณะนี้ ความก้าวหน้างานถมทะเลตามแผนงานร้อยละ 28.18 แต่สามารถดำเนินการได้จริงร้อยละ 31.57 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 3.39 ส่วนการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตาม EHIA ได้จัดตั้งมูลนิธิกองทุนฯ และดำเนินการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มประมงพื้นบ้าน 855 ราย รวมทั้งมีการสนับสนุนพัฒนาอาชีพให้ชุมชน และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง สำหรับท่าเรือมาบตาพุด ช่วงที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569
  4. โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เริ่มต้นการก่อสร้างงานทางทะเล โดยพื้นที่ถมทะเลช่วงที่ 1 ดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตาม EHIA ได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาแก่กลุ่มประมงเรือเล็กและกลุ่มผู้เลี้ยงหอยตั้งแต่ปี 2564 การจัดทำ EHIA ของท่าเทียบเรือ F ได้ส่งให้ สผ. แล้ว กำหนดเปิดบริการท่าเทียบเรือ F ในปี 2569
    โดย อีอีซี ได้ผลักดันทุกโครงการ ดำเนินการลงทุนได้ตามแผน และทำหน้าที่ประสานความร่วมมือหน่วยงานเจ้าของโครงการ และเอกชนคู่สัญญา ให้การก่อสร้างทุกโครงการสำเร็จ เพื่อประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ ที่ประชุม กพอ. ได้รับทราบความก้าวหน้าอีอีซี ในด้านอื่นที่สำคัญ ๆ อาทิ การผลักดันและเร่งรัดการลงทุนระยะที่ 1 (2561 – 2565) เกิดการอนุมัติงบลงทุนสูงถึง 1.92 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท พื้นที่ อีอีซี ก้าวสู่ที่ตั้งฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า EV แห่งภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการลงทุนเศรษฐกิจสีเขียว BCG model ขับเคลื่อนระบบ Automation ในโรงงานและธุรกิจช่วยลดต้นทุนได้กว่า 30% อีกทั้ง บูรณาการลงทุนร่วมกับทุกภาคส่วน สร้างประโยชน์และพัฒนาตรงถึงประชาชนและชุมชนคนพื้นที่ อาทิ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระบบ Demand Driven ผลิตคนตรงตามความต้องการ และเครือข่ายเพื่ออนาคต ระบบสาธารณสุข ทันสมัย สิ่งแวดล้อมยั่งยืน เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]