นายกฯ พอใจผลโครงการ EEC มีความก้าวหน้า

ทำเนียบ 28 ธ.ค.- นายกฯ พอใจผลการดำเนินงานโครงการ EEC มีความก้าวหน้า ย้ำ ทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมทุกมิติ ขณะที่ บอร์ด EEC เดินหน้า 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก อนุมัติเงินลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมาย คู่การพัฒนาพื้นที่ครบมิติ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินขับเคลื่อนโครงการ EEC ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับการพัฒนาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ อาชีพให้กับประชาชน และพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้การดำเนินการต่าง ๆ มีความก้าวหน้าโดยลำดับ แม้บางส่วนยังมีอุปสรรคปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่ยังมีอยู่ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้เกิดผลสำเร็จในทุกมิติตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ


นายกรัฐมนตรี ขอบคุณคณะกรรมการ กพอ. ทุกคน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันดำเนินงานต่าง ๆ มีความก้าวหน้าโดยลำดับและเกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งทุกอย่างที่ทุกคนช่วยกันทำวันนี้ก็เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตให้กับประเทศและลูกหลานของเรา พร้อมอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ขอให้ทุกคนและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขตลอดไปและมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุม กพอ. พิจารณาเห็นชอบหลักการโครงการยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง 2 ที่มีกระทรวงสาธารณสุข และ สกพอ. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกันดำเนินการ ในรูปแบบการลงทุนรัฐร่วมเอกชน (PPP) ประเภท Build Transfer Operate : BTO ที่เอกชนเป็นผู้ออกแบบ ลงทุน ก่อสร้างทรัพย์สินสำคัญและโอนกรรมสิทธิ์ให้รัฐทันทีหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบการลงทุนขยายโรงพยาบาลของรัฐโดยความร่วมมือจากเอกชน และจะช่วยแก้ข้อจำกัดด้านงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลปลวกแดง 2 จะเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาดเล็ก (M1) รองรับได้ 120 -200 เตียง โดยจะเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญาของประกันสังคม ประกอบด้วย อาคารผ่าตัด – อุบัติเหตุ อาคารผู้ป่วยใน และ/หรืออาคารอื่นๆ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด มีบุคลากรและครุภัณฑ์การแพทย์ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข มีบริการพิเศษ (Premium Service) และระบบส่งต่อผู้ป่วยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะรองรับผู้ประกันตน ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน ในอำเภอปลวกแดง โดยประชาชนที่อยู่อาศัย และทำงานในพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง จะได้รับบริการสาธารณสุขในระดับมาตรฐาน ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สะดวกปลอดภัย และเพื่อลดการเดินทางไปรักษาพยาบาลนอกพื้นที่

ที่ประชุม กพอ. ได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ โดยแผนการดำเนินงานที่สำคัญต่อไป คาดว่าจะประกาศเชิญชวนการคัดเลือกเอกชน ได้ในช่วงต้นปี 2566 และคาดว่าจะสามารถประกาศผลการคัดเลือก พร้อมลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง 2 ได้ในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งการออกแบบก่อสร้างโครงการต่างๆ จะแล้วเสร็จไม่เกิน 3 ปี และมีระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งหมด 50 ปี


นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าภารกิจขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานหลัก ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุุนรััฐ-เอกชน (PPP) ที่สำคัญ ๆ ได้แก่

  1. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ทาง รฟท. ได้ส่งมอบพื้นที่โครงการ (ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และพื้นที่มักกะสันและศรีราชาให้แก่เอกชนแล้ว โดยเอกชนเข้าดำเนินการเตรียมการก่อสร้าง และขณะนี้อยู่ระหว่างรอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน จากบีโอไอ ซึ่งเมื่อได้รับจะทำให้เงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาครบถ้วน และจะเริ่มการก่อสร้างได้ ทั้งนี้ในส่วนการบริหารงานการให้บริการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ปัจจุบันเอกชนได้เข้าดำเนินการตามมาตรฐานที่ดี ซึ่งตรงตาม KPI ที่ รฟท. กำหนด
  2. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก หลังจากเอกชนคู่สัญญา และกองทัพเรือ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงการใช้สนามบินอู่ตะเภาร่วมกัน (Joint Use Agreement) และรายงาน EHIA ได้รับการอนุมัติจาก ครม. โดย สกพอ. ได้แจ้งให้เอกชนรับสิทธิตามสัญญาแล้ว เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 การดำเนินงานต่อไป สกพอ. จะแจ้งให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2566 หลังจากเงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาร่วมลงทุนครบถ้วน
    ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ และโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ จากสถานการณ์โควิด 19 และสงครามรัสเชีย-ยูเครน ปัจจุบันคู่สัญญาได้เจรจาหลักการแก้ไขปัญหา และได้นำเสนอต่อคณะทำงานสนับสนุนการแก้ไขปัญหาทั้ง 2 โครงการ ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยพิจารณาให้ความเห็นด้านเทคนิค การเงินและกฎหมายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำความเห็นไปปรับปรุง และจะนำเสนอให้ที่ประชุม กพอ. พิจารณาต่อไป
  3. โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เริ่มงานออกแบบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โดยขณะนี้ ความก้าวหน้างานถมทะเลตามแผนงานร้อยละ 28.18 แต่สามารถดำเนินการได้จริงร้อยละ 31.57 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 3.39 ส่วนการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตาม EHIA ได้จัดตั้งมูลนิธิกองทุนฯ และดำเนินการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มประมงพื้นบ้าน 855 ราย รวมทั้งมีการสนับสนุนพัฒนาอาชีพให้ชุมชน และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง สำหรับท่าเรือมาบตาพุด ช่วงที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569
  4. โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เริ่มต้นการก่อสร้างงานทางทะเล โดยพื้นที่ถมทะเลช่วงที่ 1 ดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตาม EHIA ได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาแก่กลุ่มประมงเรือเล็กและกลุ่มผู้เลี้ยงหอยตั้งแต่ปี 2564 การจัดทำ EHIA ของท่าเทียบเรือ F ได้ส่งให้ สผ. แล้ว กำหนดเปิดบริการท่าเทียบเรือ F ในปี 2569
    โดย อีอีซี ได้ผลักดันทุกโครงการ ดำเนินการลงทุนได้ตามแผน และทำหน้าที่ประสานความร่วมมือหน่วยงานเจ้าของโครงการ และเอกชนคู่สัญญา ให้การก่อสร้างทุกโครงการสำเร็จ เพื่อประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ ที่ประชุม กพอ. ได้รับทราบความก้าวหน้าอีอีซี ในด้านอื่นที่สำคัญ ๆ อาทิ การผลักดันและเร่งรัดการลงทุนระยะที่ 1 (2561 – 2565) เกิดการอนุมัติงบลงทุนสูงถึง 1.92 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท พื้นที่ อีอีซี ก้าวสู่ที่ตั้งฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า EV แห่งภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการลงทุนเศรษฐกิจสีเขียว BCG model ขับเคลื่อนระบบ Automation ในโรงงานและธุรกิจช่วยลดต้นทุนได้กว่า 30% อีกทั้ง บูรณาการลงทุนร่วมกับทุกภาคส่วน สร้างประโยชน์และพัฒนาตรงถึงประชาชนและชุมชนคนพื้นที่ อาทิ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระบบ Demand Driven ผลิตคนตรงตามความต้องการ และเครือข่ายเพื่ออนาคต ระบบสาธารณสุข ทันสมัย สิ่งแวดล้อมยั่งยืน เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท