fbpx

“จุรินทร์” เปิดงานม้ง ดันขายซอฟต์พาวเวอร์

เชียงใหม่ 18 ธ.ค.- “จุรินทร์” บุกเชียงใหม่ เปิดงานม้ง ดันขายซอฟต์พาวเวอร์ สร้างแต้มต่อเอสเอ็มอีม้ง ออกบูธต่างประเทศขายสินค้า


วันที่ 18 ธันวาคม 2565 เวลา 11.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Hmong Economic Leaders 2022 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และนายชวภณ เจริญธนเดชากร นายกสมาคมพ่อค้าม้งไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ในงานมีผู้นำม้งองค์กรต่างๆ ประชาชนม้ง นักเรียนนักศึกษาทั่วไปเข้าร่วมกว่า 1,000 คน โดยการประสานงานของ ร.ท.วิศธร เถาตระกูล หรือทนายเต้ย ซึ่งมีพี่น้องชาวม้งให้การต้อนรับเป็นอย่างดีต่างดีใจและเข้ามาขอถ่ายรูปเซลฟี่ร่วมกับนายจุรินทร์เป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายจุรินทร์ กล่าวว่า โอกาสที่จะได้พบกับพวกเราพร้อมหน้าโดยเฉพาะพี่น้องชาวม้งไม่ถึงกับง่าย นอกจากเดินทางไปเยี่ยมในพื้นที่ซึ่งไปไม่ทั่ว เพราะพี่น้องชาวม้งในไทยมีเกือบ 500,000 คน กระจายกว่า 14 จังหวัดทั้งเชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ ตาก ลำปาง พะเยา เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร พิษณุโลก เลย กาญจนบุรี สุโขทัย และยะลา เป็นต้น เดิมพี่น้องชาวม้งประกอบอาชีพเกษตรกรรมต่อมาพัฒนาเป็นอาชีพที่หลากหลายมากขึ้น เกษตรกรรมยังถือเป็นอาชีพดั้งเดิมสืบทอดจนวันนี้ โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเปลี่ยนความคิดความอ่านของพวกเราเลิกปลูกยาเสพติด หันมาปลูกพืชเศรษฐกิจดำรงชีพ ผลจากอาชีพเกษตรกรรมที่ถูกต้องกลายเป็นการสร้างพัฒนาการให้ลูกหลานชาวม้งเติบโตเป็นวิศวกร สถาปนิก พ่อค้า ทหาร ผู้พิพากษา ข้าราชการ นักธุรกิจ ภาคเอกชนที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายวิชาชีพและวันนี้มี 10 ท่านที่เป็นต้นแบบความสำเร็จของพี่น้องชาวม้งช่วยถ่ายทอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ กิจกรรม Hmong Economic Leaders 2022 วันนี้สร้างสรรค์อย่างยิ่ง ควรค่าแก่การสนับสนุน และตนยินดีช่วยสนับสนุนพวกเรา


“เศรษฐกิจเปลี่ยนไปเยอะ เราต้องรู้เท่าทันโลก เท่าทันสถานการณ์โลก ปีหน้าน่าห่วง เพราะเศรษฐกิจจะชะลอตัว ปีที่แล้ว +6% ปีนี้แนวโน้ม +3.2% และปีหน้าคาดว่า +2.7% เพราะสถานการณ์โควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังไม่รู้จบเมื่อไหร่ และภาคการผลิตสำคัญที่ขาดแคลนวัตถุดิบ ทำให้เศรษฐกิจพัฒนาได้ไม่โตอย่างที่อยากเห็น ถ้าโลกโตเราก็ได้ประโยชน์ด้วย จะขายของได้ดีขึ้น แต่ไทยยังดีเพราะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยสวนกระแสโลก ปีนี้เราบวกและปีหน้าคาดการณ์ว่าจะบวกมากกว่าปีนี้ เราต้องลงมือทำ หลายฝ่ายต้องช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ปีหน้า 1. การส่งออกยังเป็นหัวใจสำคัญ 2.การท่องเที่ยวจะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3.การลงทุนจากต่างประเทศ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

นายจุรินทร์ได้กล่าวต่อว่า สำหรับการส่งออกปีนี้ที่ตนรับผิดชอบ ปีที่แล้วทำรายได้เข้าประเทศ 8.5 ล้านล้านบาท ปีนี้แนวโน้มเพิ่มเป็น 9 ล้านล้านบาท และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 9.25 ล้านล้านบาท และปีนี้แนวโน้มเป็นบวกประมาณ 7% ปีหน้าแม้เศรษฐกิจโลกมีปัญหาแต่ยังเป็นบวก การส่งออกถ้าระบายได้ดี พืชผลการเกษตรราคาก็สูงขึ้น ไม่ใช่ดีเฉพาะพ่อค้าแต่ลงลึกไปถึงเกษตรกร ให้มีเงินมาใช้พัฒนาประเทศ เหลือทำงบประมาณแผ่นดิน สร้างถนน โรงเรียนให้กับพวกเรา และการท่องเที่ยวยังคงมีความสำคัญ ปีนี้นักท่องเที่ยวครบ 10,000,000 คนตามเป้าหมาย ปีหน้าแนวโน้มจะดีขึ้นทิศทางการท่องเที่ยวจากนี้ คือเร่งดึงนักท่องเที่ยวรายได้สูง และต้องขายซอฟต์พาวเวอร์ จากอาหาร วิถีชีวิต และสำคัญอย่างยิ่งกับพี่น้องชาวม้งเพราะเรามีฐานรากของความเป็นวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ มีวิถีชีวิต ชุดแต่งกายที่เป็นเรา ถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น คือซอฟต์พาวเวอร์ ประเทศไทย ถือว่ามีซอฟต์พาวเวอร์ที่เข้มแข็งเป็นลำดับที่ 6 ของเอเชีย รองจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดียและสิงคโปร์ ในอาเซียนไทยเป็นที่ 2 รองจากสิงคโปร์ ไทยมีจุดขายด้านการท่องเที่ยวด้วยการขายซอฟต์พาวเวอร์ ถ้าทำธุรกิจอย่าลืมซอฟต์พาวเวอร์ และที่ต้องพัฒนาต่อไปคือท่องเที่ยวชุมชน ทุกชุมชนมีซอฟต์พาวเวอร์ มีอัตลักษณ์ของความเป็นตัวเอง ชุมชนชาวม้งจะเป็นท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง รวมตัวในชุมชนขายการท่องเที่ยว

แต่อย่างไรก็ตามภาคการผลิตก็จะมีความสำคัญโดยเฉพาะกับนักธุรกิจชาวม้งที่มีพื้นฐานการเกษตร การผลิตทางการเกษตรยุคต่อไป จะเปลี่ยนไปตามบริบทการพัฒนาของโลก จะมีกฎเกณฑ์กติกามากมายเราต้องตามให้ทัน ตนเป็นประธานที่ประชุม RCEP 15 ประเทศ เป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจีดีพีรวมกัน 1 ใน 3 ของโลก ตนนั่งเป็นประธานที่ประชุมจนเคาะลงนามได้ในอีก 2 ปีต่อมา ต่อไปไทยส่งสินค้าไปขายใน 14 ประเทศอนาคตภาษีเป็นศูนย์ จะได้เปรียบกว่าประเทศนอกสมาชิก และไม่กี่วันนี้เพิ่งประชุมเอเปคและตนเป็นประธานที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเอเปค ซึ่งกำลังจะพัฒนาเป็น FTA ในอนาคตมี 21 เขตเศรษฐกิจ จีดีพี 2 ใน 3 ของโลก แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทั้ง RCEP และเอเปคคือ ต่อไปนี้ไม่ว่าจะผลิตสินค้าเกษตร ภาคบริการหรืออื่นๆ ต้องเดินหน้าไปสู่การ “สร้างความยั่งยืน” ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน และอื่นๆ ถ้าไม่ทำก็จะไม่ซื้อหรือตั้งกำแพงภาษีจนขายไม่ได้ ให้เราพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่ความยั่งยืนโดยใช้ “ตลาดนำการผลิต” ทั้งสองกลไกให้ความสำคัญกับเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี เป็นเรื่องดีที่ให้ความสำคัญจะเป็นฐานรากของการพัฒนาเศรษฐกิจเกษตร อุตสาหกรรมและการค้าของโลกต่อไป


“กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับธุรกิจเพื่อนชาวม้งทั้งหลายที่เป็นเอสเอ็มอี ถ้าสินค้ามีศักยภาพ ตนให้ Handicap จะมีแต้มต่อ ต่อไปนี้การแสดงสินค้าที่ประเทศใกล้เคียง ตนให้เป็นนโยบายไปแล้ว รัฐบาลให้โอกาสอย่างน้อยกระทรวงพาณิชย์และตนให้โอกาสการออกบูธต่างประเทศ เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ร่วมออกบูธกับกระทรวงได้ส่วนหนึ่ง” นายจุรินทร์กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย