นายกฯ หวังต่างชาติแห่เที่ยวไทยทะลุ 15 ล้านคน

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 16 ธ.ค. – นายกฯ หวังนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวไทยทะลุ 15 ล้านคน บอกทำได้สบายๆ ผู้นำต่างชาติชมเมืองไทย อยากมาท่องเที่ยว ยอมรับทำการตลาดไม่เก่ง-หน้าไม่ยิ้ม แต่ตัวจริงเป็นคนอารมณ์ดี


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานที่จัดขึ้นนี้ ทำให้ผู้ประกอบการและธุรกิจท่องเที่ยวได้มีการนำเสนอธุรกิจท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่งให้กับประชาชน รวมถึงมีสินค้าราคาพิเศษเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน และได้ดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง 2-3 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากโควิด-19 และเราจะต้องก้าวข้ามผ่านด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนและรัฐบาลที่ได้จับมือกันฝ่าฟันวิกฤตดังกล่าวมาได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่การท่องเที่ยวของไทยได้พลิกฟื้นและกลับมาคึกคักอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศคึกคักมากขึ้น รัฐบาลได้ตั้งเป้าว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างรายได้ให้ไทย 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปีนี้


นายกรัฐมนตรีได้เล่าถึงการเดินทางไปประชุมอาเซียน-อียู ที่ประเทศเบลเยียม ว่า บรรยากาศนั้นแตกต่างจากบ้านเรา เพราะบรรยากาศบ้านเราไม่เหมือนที่ไหนในโลก ไม่ว่าจะเป็นประชาชน สถานที่ท่องเที่ยว ทุกประเทศมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ไม่มีความหลากหลายเหมือนกับของไทย ซึ่งไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ให้คนมาเลือกเที่ยวชม ซึ่งไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 10 ล้านคน ตนได้พูดอย่างภาคภูมิใจกับผู้นำต่างประเทศ ว่านี่คือประเทศไทย เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม ดินแดนแห่งการท่องเที่ยว ดินแดนแห่งสันติภาพและสันติสุข ทุกคนคาดหวังว่าอยากจะมาเที่ยว ซึ่งผู้นำหลายคนยืนยันว่าจะต้องหาทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยให้ได้ นี่คือสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นคนกำหนดนโยบายและกำหนดแนวทางปฏิบัติจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เราจำเป็นต้องปรับการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ทันสมัย มีการบริการที่สะดวก การสัญจรไปมาที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรองเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพ ซึ่งมั่นใจว่าเรามีความพร้อมทุกอย่าง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของตน ไม่ได้คิดเองทุกเรื่อง แต่อาศัยการเรียนรู้ ดูโทรทัศน์ ดู YouTube ดูจากโปรแกรมการท่องเที่ยวของต่างประเทศ และกลับมาก็มีแนวคิดของตนในการให้แนวทางไปสู่การปฏิบัติ ดังนั้น ทุกคนต้องเปิดกว้าง เราจะทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วในโลกใบนี้ โดยเฉพาะโลกที่กำลังเจริญเติบโตด้วยดิจิทัล ประเทศไทยมีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งธรรมชาติ กีฬา การท่องเที่ยว ด้านสุขภาพ ต้องหาจุดเด่นตรงนี้ให้เจอ เปิดดูจาก YouTube หลายจังหวัดแสดงให้เห็นถึงความพร้อม แสดงให้เห็นถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ทำให้บ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพ มีความปลอดภัย ลดความขัดแย้ง นี่แหละคือประเทศไทยที่จะเจริญเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า


ขอฝากทุกคนว่า เรามีอะไรที่ดีมากอยู่แล้ว ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และมีจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย ดังนั้น สิ่งนี้เราทิ้งไปไม่ได้ จะทำอย่างไรให้หลายคนเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีก ซึ่งผู้นำต่างประเทศบอกว่าอยากเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย อยากมาดูว่าเหตุใดคนจึงเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวนมาก ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ เราต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวไปข้างหน้า รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งใหม่ๆ ที่ประเทศต้องทำต่อไป ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การใช้ดิจิทัลมาบริหารราชการและการค้าขาย ตนต้องการให้ทุกพื้นที่ ทุกชุมชน ทุกจังหวัด มีรายได้ที่สูงขึ้น ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยตัวเราเอง และรัฐบาลจะหาวิธีการที่เป็นไปได้ และสามารถลดช่องว่างได้ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถให้เปล่าได้ทั้งหมด ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าปีที่ 8 เห็นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก หลายอย่างเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของทุกคน และหลายอย่างเปลี่ยนแปลงด้วยรัฐบาล ทุกคนต้องสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าของแต่ละคน มีการศึกษาทางการตลาดและการออกแบบ เพื่อให้นำไปสู่การจำหน่ายได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะอยู่ ใครจะเป็น ใครจะมา ใครจะไป ประเทศไทยต้องอยู่ได้ ไม่มีตน ก็ต้องมีคนอื่น และต้องเป็นพวกเราทุกคนที่จะชี้ชะตาประเทศไทยเจริญได้อย่างไรในอนาคต เพื่อลูกหลานของท่าน ทั้งนี้ วันนี้อาจจะพูดแรงไป อาจจะเมาเครื่องบิน เพราะเพิ่งเดินทางกลับมาจากยุโรป

“อย่าหาว่าผมเครียดไปเลย แต่ก็เครียดนะ มีงานตั้งแต่เช้า เจอโน่นเจอนี่ ตอบนั่นตอบนี่ ไลน์ไปมาทั้งวัน คือเป็นหน้าที่ ทุกคนมาอยู่กับผมก็ต้องเป็นแบบผม ใครไม่ทำ ก็ใช้ไม่ได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สัญญากันไว้ 11.5 ล้านคน ไม่ใช่ 15 ล้าน หรือคาดหวังอะไรมากๆ ไว้หน่อยก็ดี 11.5 ล้านคน ตนว่าได้แน่ๆ ทำให้ดี บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง ตนคิดว่า 15 ล้านคนสบาย ต่างชาติจับตามองดูอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำการตลาดไม่เก่ง หน้าตาอาจจะไม่ค่อยยิ้ม แต่เป็นคนอารมณ์ดี

“ผมอาจทำการตลาดไม่เก่ง หน้าไม่ค่อยยิ้ม แต่จริงๆ แล้ว ผมเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้หงุดหงิดอะไร เว้นแต่เจอคำถามที่หงุดหงิด ผมเป็นคนอารมณ์ดีจริงๆ แล้วเป็นคนแบบนั้น ตอนนี้คอแห้ง อากาศเย็น และวันนี้ดีใจได้กลับมาตรงนี้อีกครั้ง เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในการประชุมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทุกคนประทับใจและชื่นชมการทำงานของเราในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ผนึกกำลังสร้างรายได้ให้กับประเทศของเราอย่างยั่งยืน ขอบคุณนักท่องเที่ยวทุกคนที่ช่วยออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้ช่วยกันสร้างรายได้อย่างเข้มแข็ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดงาน ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินชมบูธภายในงาน ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการส่งเสียงให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า “รักลุงตู่ อยากให้อยู่นานๆ” โดยนายกรัฐมนตรีหันมาตอบว่า “รักกันจริงอย่าทิ้งกันนะ” – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]

บ้านห้วยเต่าปะทะเดือด! ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

สงขลา 11 ก.ย.- ปะทะเดือด! เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ บ้านห้วยเต่า ขณะที่รถหุ้มเกราะทหารตกเหวขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ บาดเจ็บ 8 นาย เกิดเหตุปะทะที่บ้านห้วยเต่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะที่ชุดจรยุทธกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชุดของนายอุสมี ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่และหลบหนีเข้าไปในบ้านห้วยเต่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายของอำเภอสะบ้าย้อยและพื้นที่ใกล้เคียงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกว่า นายอุสมีน่าจะมีกำลังอยู่ประมาณ 4-5 คน และเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นหลัก ขณะที่รถหุ้มเกราะทหาร ร.5 พัน 3 ตกเหว ขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ มีทหารบาดเจ็บ 8 นาย นำตัวส่ง รพ. นาทวี แล้ว ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด พื้นที่บ้านห้วยเต่า แล้ว -สำนักข่าวไทย