นายกฯ หวังต่างชาติแห่เที่ยวไทยทะลุ 15 ล้านคน

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 16 ธ.ค. – นายกฯ หวังนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวไทยทะลุ 15 ล้านคน บอกทำได้สบายๆ ผู้นำต่างชาติชมเมืองไทย อยากมาท่องเที่ยว ยอมรับทำการตลาดไม่เก่ง-หน้าไม่ยิ้ม แต่ตัวจริงเป็นคนอารมณ์ดี


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานที่จัดขึ้นนี้ ทำให้ผู้ประกอบการและธุรกิจท่องเที่ยวได้มีการนำเสนอธุรกิจท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่งให้กับประชาชน รวมถึงมีสินค้าราคาพิเศษเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน และได้ดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง 2-3 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากโควิด-19 และเราจะต้องก้าวข้ามผ่านด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนและรัฐบาลที่ได้จับมือกันฝ่าฟันวิกฤตดังกล่าวมาได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่การท่องเที่ยวของไทยได้พลิกฟื้นและกลับมาคึกคักอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศคึกคักมากขึ้น รัฐบาลได้ตั้งเป้าว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างรายได้ให้ไทย 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปีนี้


นายกรัฐมนตรีได้เล่าถึงการเดินทางไปประชุมอาเซียน-อียู ที่ประเทศเบลเยียม ว่า บรรยากาศนั้นแตกต่างจากบ้านเรา เพราะบรรยากาศบ้านเราไม่เหมือนที่ไหนในโลก ไม่ว่าจะเป็นประชาชน สถานที่ท่องเที่ยว ทุกประเทศมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ไม่มีความหลากหลายเหมือนกับของไทย ซึ่งไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ให้คนมาเลือกเที่ยวชม ซึ่งไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 10 ล้านคน ตนได้พูดอย่างภาคภูมิใจกับผู้นำต่างประเทศ ว่านี่คือประเทศไทย เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม ดินแดนแห่งการท่องเที่ยว ดินแดนแห่งสันติภาพและสันติสุข ทุกคนคาดหวังว่าอยากจะมาเที่ยว ซึ่งผู้นำหลายคนยืนยันว่าจะต้องหาทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยให้ได้ นี่คือสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นคนกำหนดนโยบายและกำหนดแนวทางปฏิบัติจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เราจำเป็นต้องปรับการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ทันสมัย มีการบริการที่สะดวก การสัญจรไปมาที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรองเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพ ซึ่งมั่นใจว่าเรามีความพร้อมทุกอย่าง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของตน ไม่ได้คิดเองทุกเรื่อง แต่อาศัยการเรียนรู้ ดูโทรทัศน์ ดู YouTube ดูจากโปรแกรมการท่องเที่ยวของต่างประเทศ และกลับมาก็มีแนวคิดของตนในการให้แนวทางไปสู่การปฏิบัติ ดังนั้น ทุกคนต้องเปิดกว้าง เราจะทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วในโลกใบนี้ โดยเฉพาะโลกที่กำลังเจริญเติบโตด้วยดิจิทัล ประเทศไทยมีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งธรรมชาติ กีฬา การท่องเที่ยว ด้านสุขภาพ ต้องหาจุดเด่นตรงนี้ให้เจอ เปิดดูจาก YouTube หลายจังหวัดแสดงให้เห็นถึงความพร้อม แสดงให้เห็นถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ทำให้บ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพ มีความปลอดภัย ลดความขัดแย้ง นี่แหละคือประเทศไทยที่จะเจริญเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า


ขอฝากทุกคนว่า เรามีอะไรที่ดีมากอยู่แล้ว ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และมีจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย ดังนั้น สิ่งนี้เราทิ้งไปไม่ได้ จะทำอย่างไรให้หลายคนเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีก ซึ่งผู้นำต่างประเทศบอกว่าอยากเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย อยากมาดูว่าเหตุใดคนจึงเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวนมาก ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ เราต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวไปข้างหน้า รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งใหม่ๆ ที่ประเทศต้องทำต่อไป ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การใช้ดิจิทัลมาบริหารราชการและการค้าขาย ตนต้องการให้ทุกพื้นที่ ทุกชุมชน ทุกจังหวัด มีรายได้ที่สูงขึ้น ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยตัวเราเอง และรัฐบาลจะหาวิธีการที่เป็นไปได้ และสามารถลดช่องว่างได้ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถให้เปล่าได้ทั้งหมด ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าปีที่ 8 เห็นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก หลายอย่างเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของทุกคน และหลายอย่างเปลี่ยนแปลงด้วยรัฐบาล ทุกคนต้องสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าของแต่ละคน มีการศึกษาทางการตลาดและการออกแบบ เพื่อให้นำไปสู่การจำหน่ายได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะอยู่ ใครจะเป็น ใครจะมา ใครจะไป ประเทศไทยต้องอยู่ได้ ไม่มีตน ก็ต้องมีคนอื่น และต้องเป็นพวกเราทุกคนที่จะชี้ชะตาประเทศไทยเจริญได้อย่างไรในอนาคต เพื่อลูกหลานของท่าน ทั้งนี้ วันนี้อาจจะพูดแรงไป อาจจะเมาเครื่องบิน เพราะเพิ่งเดินทางกลับมาจากยุโรป

“อย่าหาว่าผมเครียดไปเลย แต่ก็เครียดนะ มีงานตั้งแต่เช้า เจอโน่นเจอนี่ ตอบนั่นตอบนี่ ไลน์ไปมาทั้งวัน คือเป็นหน้าที่ ทุกคนมาอยู่กับผมก็ต้องเป็นแบบผม ใครไม่ทำ ก็ใช้ไม่ได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สัญญากันไว้ 11.5 ล้านคน ไม่ใช่ 15 ล้าน หรือคาดหวังอะไรมากๆ ไว้หน่อยก็ดี 11.5 ล้านคน ตนว่าได้แน่ๆ ทำให้ดี บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง ตนคิดว่า 15 ล้านคนสบาย ต่างชาติจับตามองดูอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำการตลาดไม่เก่ง หน้าตาอาจจะไม่ค่อยยิ้ม แต่เป็นคนอารมณ์ดี

“ผมอาจทำการตลาดไม่เก่ง หน้าไม่ค่อยยิ้ม แต่จริงๆ แล้ว ผมเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้หงุดหงิดอะไร เว้นแต่เจอคำถามที่หงุดหงิด ผมเป็นคนอารมณ์ดีจริงๆ แล้วเป็นคนแบบนั้น ตอนนี้คอแห้ง อากาศเย็น และวันนี้ดีใจได้กลับมาตรงนี้อีกครั้ง เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในการประชุมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทุกคนประทับใจและชื่นชมการทำงานของเราในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ผนึกกำลังสร้างรายได้ให้กับประเทศของเราอย่างยั่งยืน ขอบคุณนักท่องเที่ยวทุกคนที่ช่วยออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้ช่วยกันสร้างรายได้อย่างเข้มแข็ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดงาน ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินชมบูธภายในงาน ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการส่งเสียงให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า “รักลุงตู่ อยากให้อยู่นานๆ” โดยนายกรัฐมนตรีหันมาตอบว่า “รักกันจริงอย่าทิ้งกันนะ” – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย