ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 3 อดีตผู้นำเหล่าทัพ

สำนักงานป.ป.ช. 13 ธ.ค.- ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 3 อดีตผบ.เหล่าทัพ หลังพ้นเก้าอี้ ส.ว. “พล.อ.อ.นภาเดช” รวย 72 ล้านบาท “พล.อ.วรเกียรติ” 47.8 ล้านบาท “พล.ร.อ.สมประสงค์” รวยสุด 89 ล้านบาท คู่สมรสรับมรดก 10 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ 3 ผู้บัญชาการเหล่าทัพ กรณีพ้นจากตำแหน่งส.ว. (ตามตำแหน่ง) เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ได้แก่ 1.พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ว. และผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) โดยพล.อ.อ.นภาเดช พร้อมด้วยนางปัญญดาว ธูปะเตมีย์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 72,104,856 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 2,945,845 บาท โดยเป็นทรัพย์สินในส่วนของพล.อ.อ.นภาเดช 17,119,513 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 2,336,166 บาท เงินลงทุน 2,261,097 บาท

ที่ดิน 303,250 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6,292,000 บาท ยานพาหนะ 6 คัน 3,577,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 2,350,000 บาท โดยเป็นนาฬิกา 3 เรือน 1,750,000 บาท และสร้อยคอทองคำ 1 เส้น 6 แสนบาท ส่วนทรัพย์สินคู่สมรส 54,985,343 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก 185,016 บาท เงินลงทุน 108,556 บาท ที่ดิน 54 แปลง ในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.ลพบุรี มูลค่า 36,079,170 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้าน 3 หลัง 14,277,600 บาท ยานพาหนะ 7 คัน 1,215,000 บาท ทรัพย์สินอื่น ทั้งนาฬิกา สร้อยคอ แหวน ต่างหู รวม 3,120,000 บาท


สำหรับพล.อ.อ.นภาเดช ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2559-2560 เป็นผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผบ.ทอ. ปี 2560-2561 เป็นรองผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ ปี 2561-2563 เป็นผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ ปี 2563-2564 เป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก กระทั่งปี 2564 ขึ้นเป็นผบ.ทอ.

2.พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ว.และพ้นตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม โดยพล.อ.วรเกียรติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.หญิง อังศุวรรณ รัตนานนท์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 47,841,188 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 135,026 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของ พล.อ.วรเกียรติ 21,173,765 บาท    ประกอบด้วย เงินฝาก 4,646,289 บาท เงินลงทุน 12,326,206 บาท ยานพาหนะ 2 คัน (มี BMW รุ่น 520D 1 คัน เพิ่งได้มาปี 2563 มูลค่า 2.5 ล้านบาท) รวมมูลค่า 3,250,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 711,269 บาท ทรัพย์สินอื่น 240,000 บาท (มีสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ 1 เส้น 1.5 แสนบาท) มีหนี้สิน 56,526 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี   

ส่วนทรัพย์สินคู่สมรส 26,667,422 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 18,169,740 บาท ที่ดิน 3,550,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 8 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 427,682 บาท ทรัพย์สินอื่น 2.2 แสนบาท มีหนี้สิน 78,500 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี ทั้งนี้ สำหรับ พล.อ.วรเกียรติ ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2559-2561 เป็นรองเจ้ากรมข่าวทหารบก ปี 2561-2562 เป็นเจ้ากรมข่าวทหารบก ปี 2562-2563 เป็นรองเสนาธิการทหารบก ปี 2563-2564 เป็นเสนาธิการทหารบก ปี 2564-2565 เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม


3.พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย กรณีพ้นตำแหน่งส.ว.และผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) โดย พล.ร.อ.สมประสงค์ พร้อมด้วยนางศิริรัตน์ นิลสมัย คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 89,842,213 บาท   มีหนี้สินทั้งสิ้น 842,670 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของ พล.ร.อ.สมประสงค์ 31,295,988 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 24,247,454 บาท เงินลงทุน 2,659,890 บาท ที่ดิน 2 แปลง 506,000 บาท ยานพาหนะ 1,419,660 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,064,983 บาท ทรัพย์สินอื่น 398,000 บาท (มีสร้อยคอทองคำ 2 เส้น หนัก 7 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 9 องค์ มูลค่า 1.7 แสบนาท) หนี้สิน 842,670 บาท ส่วนทรัพย์สินคู่สมรส 58,546,225 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 29,195,590 บาท เงินลงทุน 3,283,684 บาท ที่ดิน 6 แปลง 22,620,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 ล้านบาท ยานพาหนะ 2 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 566,950 บาท ทรัพย์สินอื่น 6.8 แสนบาท ไม่มีหนี้สิน 

ทั้งนี้ นางศิริรัตน์ แจ้งมีรายได้จากการได้รับมรดกจำนวน 10 ล้านบาทด้วย สำหรับพล.ร.อ.สมประสงค์ ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2560 เป็นเจ้ากรมข่าวทหารเรือ ปี 2561 เป็นรองเสนาธิการทหารเรือ ปี 2562 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ปี 2563-2564 เป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]