นายกฯ เดินหน้าโครงการต้นแบบ 95 โรงเรือนเกษตรอัจฉริยะ

ทำเนียบ 11 ธ.ค.- “ทิพานัน” โชว์ “พล.อ.ประยุทธ์” เดินหน้าโครงการต้นแบบ 95 โรงเรือนเกษตรอัจฉริยะทั่วประเทศ มุ่งเป้าแรงงานเกษตร 3.2 หมื่นคนในปี 66 เพิ่มรายได้ผลผลิต-เพิ่มค่าจ้างแรงงาน พลิกโฉมเกษตรกรไทย


น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากการลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ในทุกภูมิภาค พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีนโยบายพัฒนาศักยภาพแรงงานทุกกลุ่ม และมีความห่วงใยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งผลกระทบด้านพลังงาน ผลกระทบด้านการผลิต จึงต้องการยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน จึงมีนโยบายและมุ่งมั่นยกระดับเกษตรกรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ Smart Farmer โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพด้านเกษตร เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในทุกมิติ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แต่การเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการและแรงงานในภาคเกษตรด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมอบนโยบายไปยัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ดำเนินการพัฒนาฝีมือเพื่อเข้าตลาดแรงงานนี้โดยเร่งด่วน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) จึงได้ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้โรงเรือนเกษตรแม่นยำปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการมืออาชีพด้านเกษตรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นโครงการพิเศษเพื่อเพิ่มศักยภาพแรงงานภาคการเกษตรสู่เกษตรอัจฉริยะ มีเป้าหมาย 95 โรงเรือนทั่วประเทศ และให้แรงงานภาคการเกษตรมีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะในปี 2566 จำนวน 32,300 คน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกแบบมีโรงเรือน เช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับการปลูกพืช การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน ระบบพ่นหมอก ระบบกักเก็บหรือจัดน้ำ ซึ่งเกษตรกรสามารถนำไปใช้เพิ่มคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ตามเป้าหมาย โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้ สามารถสมัครได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ หรือสอบถามที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4


“พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับภาคเกษตร ต้องการให้มีการพัฒนาฝีมือแรงงานให้เพียงพอในอนาคต ที่สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับกับความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG ผ่านกลไกของหน่วยงานต่างๆ ที่บูรณาการอย่างครบวงจร และเป็นรูปธรรม สะท้อนความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการผลักดันอุตสาหกรรมเกษตรของไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผู้ประกอบการภาคเกษตร มีความเข้มแข็ง มีรายได้ดีขึ้น เกิดการกระจายรายได้ไปสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมกับมีตัวชี้วัดหรือมีสถาบันรองรับฝีมือแรงงานนั้นๆ ที่จะสามารถนำไปสู่ทักษะวิชาชีพที่มีอัตราค่าแรงที่สูงขึ้นในอนาคตได้ด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง