ผู้แทนสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน ชื่นชมโมเดล BCG

ทำเนียบ 29 พ.ย.-คณะผู้แทนสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน เข้าพบนายกฯ ชื่นชมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล พร้อมร่วมมือเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน


คณะผู้แทนสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน(EU-ASEAN Business Council: EU-ABC) และสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ประเทศไทย(European Association for Business and Commerce: EABC) อาทิ นายเดวิด เดลี (Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย นายนายมาร์ติน เฮส์ (Mr. Martin Hayes) ประธาน EU-ABC นายคริส ฮัมฟรีย์ (Mr. Chris Humphrey) ผู้อำนวยการบริหาร EU-ABC นายฟาริด บิดโกลิ (Mr. Farid Bidgoli) ประธาน EABC คณะผู้แทนถาวรสหภาพยุโรปในประเทศไทย และผู้แทนบริษัทกว่า 20 บริษัท จากหลากหลายสาขา อาทิ บริษัท Bayer, Booking. com, Bosch, DANONE, DHL, Yara. Michelin, Roche, Zuellig Pharma เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของไทยและหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน โดยเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 5 ของไทย และมีการลงทุนอันดับที่ 3 ของไทย รวมถึงมีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจดิจิทัล หวังว่าภาคเอกชนจากสหภาพยุโรปจะใช้ประโยชน์จากความเป็นหุ้นส่วนนี้ในการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่ายให้เพิ่มพูนขึ้น


เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ กล่าวว่า ไทยกับสหภาพยุโรปมีพลวัตด้านความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ครอบคลุมทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่ายในปีนี้เพิ่มขึ้น แต่ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพและโอกาสในการเพิ่มพูนมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก

ด้านประธาน EU-ABC กล่าวว่า ภาคเอกชนยุโรปมองว่าการรื้อฟื้นการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปจะช่วยผลักดันการค้าและการลงทุนของทั้งไทยและยุโรปให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นโอกาสนี้ EU-ABC ยังชื่นชมในการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน พร้อมร่วมมือกับไทยผลักดันการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ BCG เพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย และผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงมีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าพอใจ ทั้งในแง่ของอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ สัดส่วน หนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ ปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงสร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินบาท รวมถึงในช่วงประชุมเอเปค ทาง IMF ก็ยังมองว่าไทยมีศักยภาพ และมีแนวโน้มของเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้อำนวยการบริหาร EU-ABC กล่าวชื่นชมรัฐบาลในการจัดการกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และดูแลนักธุรกิจยุโรปที่อยู่ในไทยได้เป็นอย่างดี ยืนยันร่วมมือกับรัฐบาลผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้เพิ่มพูน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2566 รัฐบาลมุ่งมั่นจะสานต่อนโยบายที่จะช่วยลดภาระให้กับภาคประชาชนและภาคเอกชนในไทยที่กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก พร้อมกับเน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของไทย รวมถึงมาตรการสำคัญอย่างการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ จึงขอเชิญให้สมาชิก EU-ABC และ EABC พิจารณาเข้าร่วมลงทุนในพื้นที่เขต EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ การลดคาร์บอนและดิจิทัลที่สหภาพยุโรปมีความเชี่ยวชาญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงการสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมเพื่อรองรับโมเดล BCG ซึ่งรัฐบาลได้เร่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและเอกชน มีการปลดล็อกข้อกฎหมาย และใช้เครื่องมือต่างๆ อาทิ กลไกการซื้อขายคาร์บอนเครดิต การใช้มาตรการทางภาษี การส่งเสริมฉลาก BCG การคำนวณ carbon footprint การให้สิทธิประโยชน์แก่การลงทุนในอุตสาหกรรม BCG กลไกการเงินสีเขียว นโยบายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และพลังงานทดแทน ซึ่งภาคเอกชนยุโรปยินดีหารือเพิ่มเติมถึงรายละเอียด และพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัยด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมในภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่ง EU-ABC ชื่นชมรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายที่เน้นการเติบโตเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และม่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำโดยใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นแนวทาง ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิรูปยุโรปสีเขียวของสหภาพยุโรป (European Green Deal)

นายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวนให้ภาคเอกชนยุโรปใช้ประโยชน์จาก EEC ซึ่งรัฐบาลได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ให้เชื่อมโยงกันเป็นระบบโครงข่ายโลจิสติกส์ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะเชื่อมโยงกับเครือข่ายการคมนาคมทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศในภูมิภาคเอเชียทั้งฝั่งจีนและอินเดีย ซึ่งภาคเอกชนยุโรปมองว่า ไทยมีความสำคัญในภูมิภาค และชื่นชมรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะในสาขา รถ EV ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ การบินและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งมีความน่าสนใจ

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคยุโรปมากยิ่งขึ้น และยินดีอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง และจะพิจารณาข้อเสนอโครงการลงทุนบนหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใส เพื่อให้นักลงทุนจากยุโรปสามารถแข่งขันกับนักลงทุนจากชาติอื่น ๆ ได้อย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยินดีที่จะได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ช่วงกลางเดือนธันวาคม และจะเข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวัน (C-Suite Luncheon) ระหว่างการประชุม ASEAN-EU Business Summit ซึ่งจะเป็นโอกาสในการรับฟังความเห็น และหารือถึงช่องทางที่จะสามารถสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]