กทม. 27 พ.ย.- รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชมนักวิจัยไทยต่อยอดพัฒนานวัตกรรม “TrueEye Technology” คัดกรองภาวะเบาหวานเชิงรุก และ “ตำรับยาสมุนไพรทาแผลเบาหวาน” สร้างโอกาสการเข้าถึงยา เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมและยินดีต่อความก้าวหน้าของนักวิจัยไทย ที่ได้พัฒนาต่อยอดนวัตกรรมเพื่อตรวจความเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยใช้เทคโนโลยี “TrueEye Technology” ตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะเบาหวานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทั้งพัฒนาต้นแบบ “ตำรับยาทาแผลเบาหวานจากสมุนไพร” ลดการนำเข้ายาเคมีจากต่างประเทศ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงยามากขึ้น เป็นการยกระดับนวัตกรรมทางการแพทย์ของประเทศไทย สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคเบาหวานเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกที่คนไทยป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี และกระบวนการตรวจค่าน้ำตาลสะสมมีความล่าช้าและยุ่งยาก โดยนวัตกรรม “TrueEye Technology” สามารถตอบโจทย์การตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน และภาวะเบาหวานขึ้นตา ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ผ่านรูปถ่ายจอประสาทตา ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง เทคโนโลยีด้านเว็บ/โมบายแอปพลิเคชัน การประมวลภาพ และการวิเคราะห์ภาพถ่ายจอประสาทตาด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถประเมินระดับความเสี่ยงได้ภายใน 5 นาที โดยไม่ต้องเจ็บตัว มีความแม่นยำเทียบเท่ากับงานวิจัยระดับโลกเมื่อเทียบกับตัวชี้วัดมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งถือเป็นอีกรูปแบบในการตรวจหาความเสี่ยงของภาวะเบาหวานและค่าน้ำตาลสะสมย้อนหลัง 3 เดือน ครอบคลุม 3 กลุ่ม คือ กลุ่มภาวะปกติ กลุ่มภาวะเสี่ยง และกลุ่มภาวะเป็นเบาหวาน และในปัจจุบันสามารถต่อยอดใช้ตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อื่น เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ภาคเอกชนและภาคการศึกษาของไทยยังได้ร่วมกันคิดค้นและพัฒนาต้นแบบตำรับยาทาแผลเบาหวานจากสมุนไพร เพื่อลดการนำเข้ายาเคมีรักษาแผลเบาหวานจากต่างประเทศ นำวัตถุดิบทางการเกษตรมาสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่ม รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยารักษาแผลเบาหวานได้มากขึ้น
“รัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการทางสุขภาพของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นอีกช่องทางเพื่อสร้างโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้ส่งเสริมและผลักดันให้ Start up และ SMEs สร้างสรรค์ ต่อยอดนวัตกรรม ในผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถใช้ได้จริงทางการแพทย์หลากหลายโครงการ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านสุขภาพของประเทศไทย ลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ต่อยอดสู่ภาคเศรษฐกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ” นางสาวรัชดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย