วอน หามาตรการขจัดปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก-สตรี


สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 25 พ.ย. – กสม. ชี้ ไทยยังติดอยู่ในวังวนวัฒนธรรมความรุนแรง ระดับครอบครัว- ชุมชน -สังคม วอน หามาตรการเร่งด่วนป้องกันและจัดการกับปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและเด็กอย่างเป็นรูปธรรม



กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยถ้อยแถลง เนื่องในโอกาสวันสากลแห่งการขจัดความรุนแรงต่อสตรีและเด็กหญิง วันนี้ ( 25 พ.ย.) ว่ากว่า 30 ปีแล้ว ที่วันสากลแห่งการขจัดความรุนแรงต่อสตรี ได้รับการสถาปนาขึ้นระหว่างการประชุมขององค์กรสตรีจากนานาประเทศที่ได้จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร และต่อมาองค์กรสิทธิมนุษยชน และภาคประชาสังคมหลายหน่วยงานได้ร่วมรณรงค์เรื่องการขจัดความรุนแรงต่อสตรีกันมาอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ โดยในปี 2551 เลขาธิการสหประชาชาติ และองค์กรสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ได้มีส่วนริเริ่มสนับสนุนภาคประชาสังคม ในการดำเนินกิจกรรมรณรงค์ 16 วัน เพื่อต่อต้านความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเพศสภาพ จนถึงวันสิทธิมนุษยชนสากล (ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี) และสหประชาชาติได้มีมติที่ประชุมสมัชชาใหญ่ให้รับรองวันสากลยุติความรุนแรงต่อสตรีอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2556


ผลจากการรณรงค์อย่างต่อเนื่องทำให้ปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและเด็กได้รับความสนใจมากขึ้นในหลายประเทศ เนื่องจากเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก ถือเป็นความเร่งด่วนที่ภาครัฐและสังคมต้องให้ความใส่ใจ และตระหนักถึงผลสืบเนื่องดังกล่าว อีกทั้งต้องมีมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและจัดการกับปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและเด็กอย่างเป็นรูปธรรม



สำหรับประเทศไทย แม้หน่วยงานภาครัฐและสังคมจะเริ่มมีความตื่นตัว และคณะรัฐมนตรีจะกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี แต่ดูเหมือนความรุนแรงต่อสตรีและเด็กยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัว ในโรงเรียนและสถานศึกษา ในสถานประกอบการ หรือกรณีล่าสุดที่มีการกราดยิงเด็กอนุบาลที่จังหวัดหนองบัวลำภู รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของมือปืนผู้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวและที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงทางโครงสร้างสังคม ทั้งระดับครอบครัว ชุมชน และสังคม ที่น่าเป็นห่วง


จิตสำนึกแห่งความรุนแรง และวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ มีอิทธิพลต่อเด็ก เยาวชน และสังคม ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่สิ้นสุด ทำให้สังคมตกอยู่ภายใต้วังวนแห่งความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความแข็งแกร่งทางกายภาพ หรืออาวุธที่มีกลาดเกลื่อนเมือง ดังนั้นจิตสำนึกแห่งสันติธรรม จิตสำนึกแห่งความยุติธรรม จิตสำนึกแห่งการรับผิดชอบต่อสังคม จิตสำนึกแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชน และมนุษยธรรม จึงต้องได้รับการส่งเสริมอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะ วัฒนธรรมแห่งความรุนแรง


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับการป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก รวมทั้งสนับสนุนการรณรงค์ของสหประชาชาติ หน่วยงานรัฐ และภาคประชาสังคม ที่มุ่งหวังให้ภาคส่วนต่างๆ ของสังคมได้มีส่วนในการป้องกันมิให้มีการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็กในทุกรูปแบบ โดยพร้อมยืนเคียงข้างและสนับสนุนสตรีทั่วโลกให้ยืนหยัดพิทักษ์สิทธิของตนเอง และร่วมผลักดันสังคมโลกที่ปราศจากความรุนแรงต่อสตรีและเด็กต่อไป.-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข