รัฐสภา 22 พ.ย.-ที่ประชุมวุฒิสภาเห็นชอบรายงานกมธ.การพิจารณาศึกษาเรื่องรูปแบบความร่วมมือในการพัฒนาอาชีวะฯ รองรับภาคอุตสาหกรรม รัฐบาลเร่งดึงต่างประเทศมาลงทุน
การประชุมวุฒิสภาวันนี้(22 พ.ย.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ซึ่งก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ประธานวุฒิสภาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาต่าง ๆ รวมถึงความเดือนร้อนของประชาชนผ่านประธานวุฒิสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ได้แก่ รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง รูปแบบความร่วมมือในการพัฒนาอาชีวะศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกำลังคนเข้าสู่อาชีพ ที่คณะกรรมาธิการการศึกษาพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งนายตวง อันทะไชย สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวรายงานว่า ในการร่วมมือทางการผลิตได้ให้ความสำคัญเรื่องทวิภาคี ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ อาชีวศึกษาต้องเป็นเรื่องการสร้างคน เพื่อให้คนมาสร้างชาติ และต้องจัดทำความร่วมมือของคนที่เกี่ยวข้องกับแวดวงอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาคนให้มีอาชีพมีรายได้และมีงานทำ
“ดังนั้นต้องมีความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและต้องมีความร่วมมือที่สำคัญกับสถานประกอบการเพราะเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อสร้างผู้เรียนให้เป็น ผู้เรียนที่มีคุณภาพ หากรัฐบาลสามารถมีกฎหมายให้ผู้ประกอบการนำค่าใช้จ่ายในการให้ผู้เรียนไปฝึกงานในทวิภาคี และลดภาษีได้ 300% จากเดิม 200% จะเป็นผลดีในด้านการศึกษา แต่ปัจจุบันยังทำไม่ได้ เพราะติดที่กรมสรรพากร ขณะที่ความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษายังไม่เพียงพอ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง และธนาคารพาณิชย์ ต้องให้ดอกเบี้ยต่ำกับสถานประกอบการ คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า ควรมีสภาที่เป็นสภาความร่วมมือเพื่อพัฒนาอาชีวะไทย เพื่อให้คนอาชีวะไปสร้างคนและสร้างชาติ” นายตวง กล่าว
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภา แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง สนับสนุนรายงานดังกล่าวเนื่องจากอุตสาหกรรมที่จะเกิดในประเทศไทยกำลังต้องการคนกลุ่มอาชีวะเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายในการแก้ปัญหาด้วยการชวนเชิญให้อุตสาหกรรมของประเทศต่าง ๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยแก้กฎหมายและให้สิทธิประโยชน์หลายเรื่อง ซึ่งมีผลสะท้อนในที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC ที่ผ่านมา เรื่องคุณภาพของคนเป็นเรื่องที่จำเป็น รวมทั้งการเชื่อมโยงระหว่างภาคการตลาดกับภาคการผลิตเพื่อให้กระบวนการในการศึกษาของรายงานฉบับนี้เป็นจริงและเกิดประโยชน์ นอกจากนี้ ยังเสนอแนะให้สถาบันการศึกษาสร้างวิชาโดยเฉพาะเพื่อเปิดให้นักเรียนนักศึกษาเข้าไปศึกษาในส่วนของวิชาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากนั้น ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายงานฉบับนี้ พร้อมจะส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย