“อนุทิน”ห่วงคนป่วยโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นช่วงฤดูหนาว

ทำเนียบรัฐบาล 21 พ.ย. – “อนุทิน” ห่วงใยประชาชนจากแนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว แนะกลุ่ม 608 เข้ารับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน 13-19 พ.ย. มีผู้ป่วยใหม่ 3,957 คน


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชนจากแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศเนื่องด้วยขณะนี้เป็นฤดูหนาวที่เอื้อต่อการแพร่เชื้อไวรัส ประกอบกับทั่วโลกมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ขณะที่ไทยก็ได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีผู้เดินทางมาจากทั่วโลก

ดังนั้น การดูแลป้องกันตนเองเช่นสมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนจึงมีความจำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นเมื่อครบระยะเวลา เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต โดยประชาชนสามารถติดต่อเข้ารับวัคซีนสถานพยายาลใกล้บ้าน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขกระจายวัคซีนสำหรับประชาชนทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศและเพียงพอกับความต้องการ


“แม้สถานการณ์แพร่ระบาด หรือการมีจำนวนผู้ป่วยหนักในไทยไม่ได้อยู่ในระดับสูงหรือน่ากังวล แต่ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ไวรัสมีการแพร่กระจายรวดเร็วและตอนนี้หลายประเทศที่อากาศหนาวจัดก็มีผู้ป่วยมากขึ้น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขจึงมีความห่วงใย และขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนสำหรับทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลพร้อมบริการให้ประชาชนทั่วประเทศ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์โควิด19 ในรอบสัปดาห์ ช่วงวันที่ 13-19 พ.ย. 65 ผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 3,957 คน เฉลี่ยวันละ 565 คน เทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า (6-12 พ.ย. 65) มีผู้ติดเชื้อ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,166 คน เฉลี่ยวันละ 452 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2,478,895 คน

ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายใหม่มี 69 คน เฉลี่ยวันละ 9 คน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่เสียชีวิตรวม 42 คน เฉลี่ยวันละ 6 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 11,408 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยปอดอักเสบ 432 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 252 คน


ส่วนจำนวนการให้วัคซีน ณ วันที่ 19 พ.ย. 65 มีการให้วัคซีนสะสม 143,059,913โดส เพิ่มขึ้น 3,785โดส เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,072,889 โดส เพิ่มขึ้น 515 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 53,557,785โดสเพิ่มขึ้น 410โดส และตั้งแต่เข็มที่3 ขึ้นไป 32,429,239 โดส เพิ่มขึ้น 2,860 โดส

ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 อายุ 6 เดือน – 18 ปี ในวันจันทร์-พฤหัสบดี ช่วงบ่าย และวันศุกร์เปิดให้บริการช่วงเช้า-บ่าย (ที่ไม่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ประสงค์จะพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://rebrand.ly/school-vaccine หรือ โทรสอบถามเพิ่มเติม โทร. 1415.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]