ทำเนียบ 19 พ.ย.- นายกฯ หารือทวิภาคีกับรองประธานาธิบดีสหรัฐ ย้ำความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน พร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือแบบใจถึงใจ เดินหน้าสู่ 2 ศตวรรษแห่งความสัมพันธ์
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทวิภาคีกับ นางคามาลา แฮร์ริส (H.E. Ms. Kamala Harris) รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
นายกรัฐมนตรีต้อนรับ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พร้อมขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของสหรัฐฯ เมื่อครั้งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ที่กรุงวอชิงตัน ทั้งนี้ ไทยกับสหรัฐฯ เป็นมิตรประเทศที่สำคัญกันมาอย่างยาวนาน โดยในปี 2566 จะครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติและมีพลวัตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดทำแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การเยือนไทยในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐ ที่ใกล้ชิดให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐ ที่ใกล้ชิดและยาวนาน โดยสหรัฐฯ พร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นและใกล้ชิดยิ่งขึ้นในทุกมิติ โอกาสนี้ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC 2022 ของนายกรัฐมนตรี และของไทย ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี ทั้งนี้ สหรัฐ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีหน้า พร้อมสานต่อประเด็นและผลลัพธ์สำคัญจากการประชุมฯ ในครั้งนี้ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ BCG ของไทยซึ่งสอดคล้องกับประเด็นที่สหรัฐ ให้ความสำคัญ
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยกับสหรัฐ มีความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิด และมีส่วนช่วยรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคมายาวนาน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันมากขึ้น รวมทั้ง อยู่ระหว่างการดำเนินการร่วมกันเพื่อสนับสนุนโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายและการป้องกัน/ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ 5 โครงการ ครอบคลุมความร่วมมือป้องกัน/ปราบปรามการลักลอบขนส่งยาเสพติดตามแนวชายแดน การเพิ่มศักยภาพการลาดตระเวนของตำรวจน้ำ และการต่อต้านการฟอกเงิน ด้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขอบคุณไทยสำหรับการสนับสนุนความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ระหว่างกัน
ด้านเศรษฐกิจ ไทยเป็นฐานการลงทุนและการผลิตที่สำคัญของภาคเอกชนสหรัฐฯ มายาวนาน และมีห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง โดยการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างต่อเนื่องแม้จะได้รับผลกระทบจากช่วงโควิด-19 อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมดิจิทัล ตลอดจนขยายความร่วมมือเชื่อมธุรกิจของสหรัฐ สู่ภูมิภาคผ่าน Thailand+1 ซึ่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ ยินดีขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไทยผ่านข้อตกลงต่าง ๆ ที่ได้มีการผลักดันร่วมกัน
ทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่สอดคล้องกัน โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG มุ่งสู่การเป็นสังคมปลอดคาร์บอน รวมถึงความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่ม Net Zero World ด้านรองประธานาธิบดีสหรัฐ ชื่นชมความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมของไทย โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG นอกจากนี้ ไทยยังเป็นประเทศแรกที่เข้าร่วมข้อริเริ่มความต้องการพลังงานสะอาดของสหรัฐ โดยทั้งสองหวังว่าไทยกับสหรัฐฯ จะมีบทบาทร่วมกันในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ได้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของไทยในการสนับสนุนและเพิ่มพูนความร่วมมือกับสหรัฐ อย่างรอบด้าน มีความสัมพันธ์แบบในรูปแบบใจถึงใจ เพื่อเดินหน้าสู่ 2 ศตวรรษแห่งความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป .-สำนักข่าวไทย