ปชป.มั่นใจเลือกตั้งหน้าได้ส.ส.เพิ่มทุกภาค

ทำเนียบรัฐบาล 15 พย-“จุรินทร์” บอกส.ส.ย้ายเข้า-ออกเรื่องปกติ ไม่หวั่นปชป.เลือดไหลไม่หยุด บอกไม่มีอะไรกระทบเป้าหมายพรรค โวกทม.ได้ส.ส.แน่ ตั้งเป้าลต.ครั้งหน้าได้ส.ส.มากกว่าเดิม   ขอให้เวลานายกฯตัดสินใจปรับครม. แย้มหลังเอเปคเป็นเวลาที่เหมาะสม


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสการย้ายออกจากพรรคของส.ส.จำนวนมาก ว่า ยืนยันว่าไม่หวั่นไหว ซึ่งได้ย้ำไปหลายครั้งทั้งตนและเลขาธิการพรรค รวมถึงผู้บริหารบริหารพรรคไม่มีอะไรหวั่นไหวและยังเดินหน้าไปสู่เป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ ขณะนี้ยังไม่มีอะไรกระทบกับเป้าหมายหลัก ยิ่งใกล้เลือกตั้งการย้ายพรรคจะเกิดขึ้นทุกพรรคทั้งเข้าและออก ถือเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้จำนวนส.ส.มากกว่าเดิมและจะกู้ศรัทธาจากคนกรุงเทพฯ ได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่ากรุงเทพฯ มีผู้แทนแน่นอน ซึ่งตัวเลขภาพรวมมีเป้าหมายที่มากกว่าเดิม ขณะนี้ไม่มีอะไรมาทำให้กระทบเป้าหมายที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ตั้งเอาไว้ตั้งแต่เดิม ในส่วนของภาคใต้ก็เช่นกัน คาดว่าจะได้ส.ส.มากกว่าเดิม ครั้งที่แล้วได้ 21-22 ครั้งนี้ต้องได้มากกว่า


ส่วนท่าทีของนายกรัฐมนตรีน่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองหลังการประชุมเอเปค ซึ่งจะมีผลต่อพรรคอื่น ๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง ส่วนจะกระทบพรรคอื่นหรือไม่อย่างไร ยังตอบไม่ได้ เพราะไม่ทราบการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี

“พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวของตัวเอง เราเดินไปทิศทางไหนเราแน่วแน่มั่นคง ไม่มีอะไรวอกแวก เราเสนอตัวให้ประชาชนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอีกทางเลือกหนึ่งของประเทศในการเลือกตั้งครั้งหน้า” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนยุบสภา นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อนายนริศ ขำนุรักษ์ เป็นรมช.มหาดไทย ยืนยันว่าเสนอชื่อไปแล้ว ซึ่งการเสนอชื่อเป็นการยืนยันว่าพรรคประสงค์จะให้ปรับหรือหรือแต่งตั้งนายนริศแทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ส่วนพรรคอื่นจะปรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพรรคนั้น ๆ


“การที่ผมเสนอชื่อไปแล้วก็ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีเท่ากับว่าเป็นการให้เกียรตินายกฯ แต่หากนานเกินไปนายกฯ น่าจะทราบดีและเข้าใจดี ต้องให้เวลากับนายกฯ ว่าจะเสนอว่าเมื่อไหร่อย่างไร แต่ผมเชื่อว่าน่าจะหลังการประชุมเอเปคน่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมและสมควรแก่เวลา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟื้นศรัทธาให้ส.ส.ที่คิดจะย้ายพรรคกลับมาอยู่กับพรรคเหมือนเดิมอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสียศรัทธาอะไร ยังคงแน่วแน่มั่นคงในอุดมการณ์ของความเป็นพรรค เราให้โอกาสทุกคน เพียงแต่บางคน เมื่อทำโพลแล้วแพ้ ไม่ได้รับเลือก ก็ต้องไปหาที่ลงใหม่ พรรคไม่สามารถจะส่งเขตละ 2 คน เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ก็เหมือนกับทุกพรรค

“หากมีผู้สมัครหลายคนแล้วเลือกได้คนเดียว และอีกคนไม่ได้รับการคัดเลือกส่งลงสมัครก็ต้องไปหาพรรคใหม่สังกัด เป็นเรื่องปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าถามผมว่าอยากให้ใครออกจากพรรคหรือไม่ ถ้าคนที่หนักแน่นมีอุดมการณ์ เป็นคนที่สามารถช่วยสร้างสรรค์ประชาธิปัตย์ให้เติบโตต่อไปได้ เราก็อยากให้อยู่ต่อ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนที่บางคนมีข้อกังขาเรื่องโพล เป็นธรรมดาที่คนแพ้ แล้ว คนชนะจะคิดต่างกัน ตอนก่อนทำโพลก็เห็นว่าควรจะทำ แต่พอทำแล้วแพ้ ก็รู้สึกว่าไม่อยากให้ทำโพล ซึ่งถือเป็นเรื่องความเห็นส่วนบุคคลพรรค ต้องมีหลักเกณฑ์ของพรรคในการตัดสินใจ ตอนนี้เชื่อว่าพรรคไม่ได้ทำอะไรให้คนเสียศรัทธาและยังอยู่ในขาขึ้น รวมทั้งมั่นใจว่าในครั้งหน้าเสียงตอบรับจากประชาชนจะดีขึ้นทั้งทุกภาค

ส่วนกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคมระบุว่าจะพยายามดึงเลือดที่ไหลออกกลับเข้ามาสู่พรรคให้ได้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เลขาธิการพรรคพูดอะไรถือว่าเป็นความเห็นของพรรค ตนไม่ขอพูดซ้ำ เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นชื่อเดียวใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา สำหรับตนมีความพร้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี  ไม่เช่นนั้นสมาชิกไม่เลือก ถ้าวันหนึ่งมาเป็นแกนนำรัฐบาลแล้วหัวหน้าพรรคไม่พร้อม สมาชิกเลือกไปก็เสียของ จึงประกาศว่าตนพร้อมทั้งการทำงานประสบการณ์ อุดมการณ์ความคิดผลงาน มั่นใจว่ามีความพร้อม แต่ทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่เรา อยู่ที่ประชาชน ต้องให้ประชาชนเห็นชอบด้วย ต้องรอผลจากการเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]