นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย

กรุงพนมเปญ 12 พ.ย. – นายกฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย เน้นย้ำจุดแข็งร่วมกัน ผ่านการผลักดันความเชื่อมโยง การพัฒนาด้านดิจิทัล และความร่วมมือในกรอบอื่นๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และเสถียรภาพในภูมิภาค


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 19 โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายชัคทีป ธันขระ รองประธานาธิบดีอินเดีย และเลขาธิการอาเซียน เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย ตลอดจนทบทวนความคืบหน้า และกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ในทุกมิติ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารู้สึกยินดีที่ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือของอาเซียนและอินเดียได้พัฒนาก้าวหน้าไปในทุกมิติบนพื้นฐานของความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และสายสัมพันธ์ทางอารยธรรม อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีมองว่าอาเซียนและอินเดียมี “จุดแข็งร่วมกัน” ที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านเศรษฐกิจ และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้พร้อมเดินหน้าผ่านความท้าทายต่าง ๆ ไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ดังนี้


จุดแข็งแรก คือ “ความเชื่อมโยง” อาเซียนและอินเดียควรใช้ประโยชน์จากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ ส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านกายภาพ ผ่านการผลักดันการดำเนินโครงการทางหลวงสามฝ่ายฯ และส่วนขยาย รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือสำคัญต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจที่มีศักยภาพระหว่างกัน และอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ได้ด้วย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบ ไทยยินดีที่อาเซียน-อินเดียเริ่มกระบวนการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าระหว่างกัน ให้ทันสมัยและอำนวยความสะดวกต่อภาคธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคด้วย

จุดแข็งที่สอง คือ “การพัฒนาด้านดิจิทัล” ไทยสนับสนุนให้อินเดียคว้าโอกาสในตลาดดิจิทัลอาเซียน ที่คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยการกระชับความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภูมิภาค โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการค้าดิจิทัล ซึ่งไทยมีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีศักยภาพรองรับการลงทุนและการส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าว นอกจากนี้ อินเดียในฐานะประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมดิจิทัล และมีธุรกิจที่มีมูลค่าสูง (ยูนิคอร์น) กว่า 100 ราย สามารถขยายการลงทุน และช่วยบ่มเพาะผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพและ MSMEs ตลอดจนสร้างยูนิคอร์นรายใหม่ ๆ ในภูมิภาค เพื่อให้สามารถแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย

จุดแข็งที่สาม คือ “ความร่วมมือใต้-ใต้ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่สำคัญ อาทิ เกษตรอัจฉริยะ การวิจัยและพัฒนายาและวัคซีน และพลังงานหมุนเวียน เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหาร สาธารณสุข และพลังงาน ตลอดจนเร่งสร้างความคืบหน้าของการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งยังสามารถร่วมกันผลักดันแนวทางที่เน้นการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยไทยมีโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นวาระสำคัญภายใต้การเป็นประธาน BIMSTEC ของไทย และเห็นว่าเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับประเด็นที่อินเดียให้ความสำคัญภายใต้การเป็นประธานกลุ่ม G20 ในปีหน้าด้วย


นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำถึงการมีสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่เข้มแข็ง และการมีบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจที่ผู้เล่นสำคัญต่าง ๆ สามารถร่วมมือและร่วมกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ และหวังที่จะเห็นบทบาทที่แข็งขันของอินเดียในการผลักดันวาระดังกล่าวร่วมกับอาเซียน เพื่อสร้างดุลยภาพทางยุทธศาสตร์ให้แก่ภูมิภาค

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ความมุ่งมั่นร่วมกันในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภูมิภาค และการลงมือขับเคลื่อน “จุดแข็ง” ข้างต้นอย่างจริงจัง จะเป็นแกนหลักสำคัญของการขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านอาเซียน-อินเดีย ไปสู่ทศวรรษใหม่ ที่เศรษฐกิจและประชาชนจะเติบโตไปด้วยกันได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ในทุกด้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]