กรุงพนมเปญ 11 พ.ย. – นายกฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ ผลักดันความร่วมมือด้านสาธารณสุข การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่ใกล้ชิด
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 23 พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ยกเว้นเมียนมาไม่เข้าร่วม และมีนายยุน ซ็อก-ยอล (Mr.Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และเลขาธิการอาเซียน เข้าประชุม เพื่อทบทวนความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ในรอบปีที่ผ่านมา กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ สู่การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งแรก ระบุไทยพร้อมสนับสนุนบทบาทของเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายทางการทูตเชิงรุกที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค พร้อมยินดีที่เกาหลีใต้คงให้ความสำคัญกับอาเซียน โดยสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนและสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่อาเซียนเป็นศูนย์กลาง มียุทธศาสตร์ที่มุ่งขยายความร่วมมือในทุกมิติกับอาเซียน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน และการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายร่วมกันในอนาคต ได้แก่ ความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่มั่นคงและครอบคลุม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ทิ้งใครไว้ และเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของเกาหลีใต้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุขของภูมิภาคในระยะยาว โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยา รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ โดยไทยสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากการฝึกอบรมระดับโลกสำหรับการผลิตทางชีวภาพของเกาหลีใต้
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อาเซียนและเกาหลีใต้ต้องร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน ควรมุ่งสานต่อการเสริมสร้างบูรณาการทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค โดยใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP และความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ภาคธุรกิจของเกาหลีใต้ขยายการค้าและการลงทุนในอาเซียนเพิ่ม รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสรรค์สร้างนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนา MSMEs และ start-ups โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทุนมนุษย์และทักษะที่จำเป็นสำหรับยุค 4IR และยุคดิจิทัล ซึ่งประเทศไทยมีนโยบายพลิกโฉมประเทศ โดยการส่งเสริมการลงทุน เพื่อปรับโครงสร้างไปสู่ “เศรษฐกิจใหม่” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิด โดยไทยมีโครงการ “ดิจิทัล ปาร์ค ไทยแลนด์” ของ EEC เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งไทยพร้อมเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนอย่างรอบด้านสำหรับนักลงทุนอาเซียนและเกาหลีใต้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาเซียนและเกาหลีใต้จะต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้น โดยส่งเสริมการไปมาหาสู่ และการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกันในทุกระดับ ชื่นชมความสำเร็จของเกาหลีใต้ในการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไปทั่วโลก โดยเฉพาะการใช้ “soft power” ในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสาธารณรัฐเกาหลีในทุกมิติ ซึ่งไทยสนับสนุนให้มีการแบ่งปันแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศในสาขาที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงความคล้ายคลึงและความแตกต่างทางวัฒนธรรมภายในอาเซียน และกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาค ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกัน และโครงการแลกเปลี่ยนการศึกษา ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของเยาวชน
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเจตนารมณ์ในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี โดยหวังจะเห็นการเจรจามีความคืบหน้าจนนำไปสู่คาบสมุทรเกาหลีที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ ไทยมุ่งมั่นและพร้อมที่จะรักษาบทบาทที่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะการผลักดันความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางยุทธศาสตร์ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของทุกประเทศในภูมิภาค.-สำนักข่าวไทย