สั่งเร่งช่วยเด็กสถานสงเคราะห์เอกชน

ทำเนียบ 11 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีห่วงใยปัญหาเด็กในสถานสงเคราะห์เอกชน กำชับ พม. เร่งตรวจสอบมาตรฐานสถานรองรับเด็กทั่วประเทศ


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบความคืบหน้าการช่วยเหลือเด็กจากสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากถูกร้องเรียนว่าทำร้ายเด็ก ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ในการสงเคราะห์เด็กและคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ได้นำเด็กที่เหลืออยู่ จำนวน 10 คนสุดท้าย อายุระหว่าง 4 – 13 ปี  ออกมาจากสถานสงเคราะห์เด็กเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามแล้ว เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (10 พ.ย. 65)

ขณะนี้ เด็กทั้งหมดอยู่ในความคุ้มครองสวัสดิภาพในสถานรองรับเด็กของกระทรวง พม. เรียบร้อยแล้ว ส่วนสถานสงเคราะห์เด็กเอกชนดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามได้ลงนามในคำสั่งจังหวัด เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตในการจัดตั้งสถานสงเคราะห์ฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565    สำหรับกระบวนการช่วยเหลือเด็กต่อไปนั้น  กระทรวง พม. โดยทีม One Home พม. จังหวัดสมุทรสงคราม จะเร่งสอบประวัติเด็ก ประเมินทางสังคม และประเมินภาวะช่วงอายุเด็ก รวมถึงการติดตามหาครอบครัวและญาติพี่น้อง เพื่อประสานรับเด็กกลับบ้าน หากไม่พร้อมดูแล กระทรวง พม. มีสถานสงเคราะห์เด็กในสังกัดไว้รองรับเพื่อให้ความดูแลคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 จากนั้น จะวางแผนการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนเรื่องการเรียนหนังสือของเด็ก ขออย่าได้เป็นกังวล เพราะระหว่างนี้ เด็กทุกคนจะได้เรียนผ่านระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง


“นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว กำชับให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เร่งตรวจสอบการดำเนินงานของสถานรองรับเด็กทั่วประเทศ  เพื่อให้สามารถดูแลเด็กได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานและกฎหมายที่กำหนด  พร้อมประเมินผลและตรวจสอบการดำเนินงานเกี่ยวกับการสงเคราะห์ในรูปแบบสถานสงเคราะห์เอกชน ให้ความรู้กับผู้ได้รับใบอนุญาต รวมทั้งผู้ดูแลเด็กให้เป็นไปตามมาตรฐานตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป” นางสาวรัชดา กล่าว .- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม