ไทย มีสมรรถนะตามกฎอนามัยระหว่างประเทศสูงขึ้น

ทำเนียบ 9 พ.ย.- นายกฯ ยินดี WHO ประเมินไทยมีสมรรถนะตามกฎอนามัยระหว่างประเทศสูงขึ้น ยกเป็นความสำเร็จร่วมกันของคนไทย พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือโชว์ศักยภาพสาธารณสุข


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งผลการประเมินสมรรถนะหลักตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ 2548 (IHR 2005) ของคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (International Health Regulations Joint External Evaluation (IHR-JEE)) ซึ่งได้ประเมินประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)ทราบว่า ไทยได้รับคะแนนเฉลี่ย 4.25 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งนับว่ามีการพัฒนาสมรรถนะในทุกด้านที่มีผลต่อการดำเนินงานด้านสาธารณสุขที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการประเมินครั้งแรกในปี 2560 หรือ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งได้คะแนน 3.75 ทั้งนี้คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมประเทศไทย โดยเฉพาะบริหารจัดการสถานการณ์ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ได้ดำเนินงานที่โปร่งใสมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดีเพื่อดูแลชีวิตประชาชนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ระดับสมรรถนะของประเทศไทยดีขึ้น และถือว่าผลที่ออกมาเป็นความสำเร็จร่วมกันของคนไทยเพราะการประเมินครั้งนี้ต้องอาศัยการร่วมกันให้ข้อมูลของทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน ประชาสังคม โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย”น.ส.ไตรศุลี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า การประเมินสมรรถนะ IHR-JEE ครั้งที่2 มีการประเมินเพื่อให้คะแนนจากทั้งหมด 56 ตัวชี้วัด ซึ่งครั้งนี้ไทยได้คะแนน 4.25 จากคะแนนเต็ม 5 เทียบกับ การประเมินครั้งแรกในปี 2560 ที่ได้คะแนนเฉลี่ย 3.75ซึ่งให้คะแนนจาก 48 ตัวชี้วัด โดยผลประเมินนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนางานสาธารณสุขของไทยตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ

ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปวางแผนการปฏิบัติงาน ยกระดับขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ทั้งโรคติดต่อ โรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน ความปลอดภัยด้านอาหาร เหตุการณ์ฉุกเฉินทางเคมีและรังสี ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตต่อไป.-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก