สภาฯ คว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า แพ้โหวตแค่ 2 คะแนน

รัฐสภา 2 พ.ย.- ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 196 ต่อ 194 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง คว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของพรรคก้าวไกล โดยมีคะแนนห่างกันเพียง 2 คะแนน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (2 พ.ย.65) ที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของพรรคก้าวไกล ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีทั้งสิ้น 7 มาตรา สาระสำคัญคือ การเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายย่อยสามารถผลิตสุราและจำหน่ายเองได้ ลดการผูกขาด จากกลุ่มทุน กระจายรายได้ เพิ่มการแข่งขันในตลาด สร้างตัวเลือกให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายชี้ว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในมาตราที่ 3 ว่าการประชุมของสภาฯ เพื่อพิจารณากฎหมายในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อพิจารณากฎหมายเพื่อนำสภาพข้อเท็จจริงและศักยภาพของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสุรามาเทียบกับร่างกฎหมายและกฎกระทรวงว่า สิ่งใดที่เหมาะสมกับประเทศและศักยภาพของประเทศ ไม่ว่าจะยิน (Gin) หรือ รัม (Rum) ที่จังหวัดเชียงใหม่ หนองคาย สงขลา สุราษฎร์ธานี ล้วนเป็นผู้ประกอบการระดับโลกที่ชนะการประกวด ไม่ว่าจากที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หากแบรนด์ไทยที่ไปชนะการประกวดระดับโลกใช้กฎกระทรวงเข้ามาควบคุมจะไม่ได้รับการปลดล็อก เนื่องจากกฎกระทรวงคือการเปลี่ยนล็อกจากล็อกเก่าเป็นล็อกใหม่ แต่สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการปลดล็อกโดยแท้จริง


ซึ่งเมื่ออุตสาหกรรมไทยสามารถก้าวสู่ระดับโลกแล้ว กลับควบคุมโดยกฎกระทรวงที่มีวิธีคิดจากราชการ หรือสรรพสามิตเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพของพี่น้องประชาชน อุตสาหกรรมไทย และวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นข้าว มันสำปะหลัง อ้อย หรือข้าวโพดได้ สำหรับนโยบายสุราก้าวหน้า ไม่ใช่นโยบายเพียงเพื่อการผลิต แต่เป็นนโยบายเพื่อเศรษฐกิจ การเกษตร และการท่องเที่ยวด้วย

ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขโดยคณะกรรมาธิการ ซึ่งการที่จะปลดปล่อยศักยภาพได้ รัฐต้องเล็ก รัฐจะใหญ่ไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ศักยภาพไปต่อไม่ได้ เช่น เปลี่ยนเรื่องการจดแจ้งของคณะกรรมาธิการไปเป็นการอนุญาต ตามกฎกระทรวงก็ถือเป็นเรื่องที่ยากแล้ว ตนคงไม่มีโอกาสที่จะได้อภิปรายร่างนี้ไปจนถึงวาระที่ 3 ได้ สำหรับทุกคนที่อยู่ในที่นี้ การโหวต 1 ครั้ง พันครั้ง หรือบางคนเป็นหมื่นครั้ง ไม่ได้มีความหมายมากมายขนาดนั้น แต่สำหรับผู้ประกอบการ เกษตรกร และคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในวงการ นี่คือความฝัน พอโหวตเสร็จก็คงกลับไปกินไวน์ฝรั่งเศส สาเกญี่ปุ่น โซจูเกาหลี ปลายปีนี้ก็อาจจะเตรียมตัวเดินทางปีใหม่ ไปเที่ยวไร่องุ่นไวน์ที่อเมริกา หรือไปกินเตกิลา หรือเหล้าข้าวโพดที่เม็กซิโก แต่สำหรับเกษตรกร คนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการ คนที่อยู่ในวงการสุราขนาดย่อย นี่คือความฝันของพวกเขา สำหรับเกษตรกร ผู้ประกอบการที่สู้กันมาเป็น 30-40 ปี ตั้งแต่เครือข่ายเหล้าไทยสมัยที่ตนยังเด็กจนถึงทุกวันนี้ นี่เป็นโค้งสุดท้ายของเขาที่จะทำให้เขามีความฝันอยู่ในประเทศนี้

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เข้าสู่การพิจารณารายมาตรา วาระที่ 2 โดยมีการอภิปรายจำนวนมาก ในมาตรา 3 เกี่ยวกับเงื่อนไขขออนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้า โดยการอภิปรายส่วนใหญ่ สมาชิกแสดงความเห็นต่อร่างมาตรา 3 เปรียบเทียบกับกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 โดยสนับสนุนการแก้ไขของกรรมาธิการฯ แต่ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงดังกล่าว เพราะยังมีเนื้อหาที่กีดกันการแข่งขันการผลิตสุราที่เสรีเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลเร่งออกกฎกระทรวงดังกล่าว เพื่อให้เป็นข้ออ้างของการคว่ำร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล


นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะทำให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวตก เพราะเป็นร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ตนสนับสนุนให้การผลิตสุราชุมชน เพื่อยกระดับราคาข้าว ปัจจุบันข้าวเปลือก กิโลกรัมละ 7 บาท หากให้ประชาชนทำสุราของตนเอง จะเพิ่มราคาข้าวเปลือกเป็นกิโลกรัมละ 20 บาท หากร่างกฎหมายนี้ตก ตนเสียดาย และกรรมาธิการเสียเวลาทำกฎหมายอย่างยิ่ง

ด้านนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ที่ผ่านมาเห็นชัดว่ามีการผูกขาดและกีดกัน แต่กฎหมายฉบับนี้เป็นการแก้ไม่ให้มีการกีดกันและผูกขาด กฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวาน (1 พ.ย.) ทำให้มีคำถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่ยังต้องแก้กฎหมาย แต่กฎกระทรวงเป็นเพียงวิธีปฏิบัติ แต่ถ้าเราไม่มีกฎหมายที่ระบุชัดเจนว่า วิธีปฏิบัติต้องยึดโยงกับหลักการอะไร ก็จะทำให้อำนาจของการกำกับไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามกฎหมายก็ได้ และฝ่ายบริหารสามารถเปลี่ยนใจได้หาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ผ่านสภาฯ วันนี้ใช้กฎกระทรวงที่เพิ่งออกมา พรุ่งนี้แก้ใหม่ก็ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องยึดโยงหลักการของกฎหมาย ซึ่งกฎกระทรวงเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่กฎหมายถ้าจะแก้ต้องมาที่สภาฯ และกฎกระทรวงแทนกฎหมายไม่ได้ ดังนั้น ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจว่า เราอยากจะเห็นกฎหมายนี้ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่ แต่หลักนี้ต้องไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎกระทรวง ดังนั้น ส่วนตัวคิดว่าควรสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ และอย่าเข้าใจผิดว่ากฎกระทรวงนี้คือคำตอบ

นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า เท่าที่รับรู้การผลิตสุราที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งบางครั้งมีการจำหน่ายด้วย มีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และผลิตที่บ้าน ใช้กรวยสังกะสีเป็นสนิม บางครั้งชาวบ้านใส่กรัมม็อกโซน เพื่อเร่งการเกิดปฏิกิริยา และส่งกลิ่นเหม็นให้พื้นที่ใกล้เคียง จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง จึงไม่ติดใจในการปฏิบัติตามกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 เพราะกฎหมายนี้ไม่ได้มีการควบคุมชาวบ้านไม่ให้ผลิตสุราเลย

ทำให้นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯ ท้วงว่า เรื่องคุณภาพและสิ่งแวดล้อมไม่ได้ระบุในร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า นี้ก็จริง แต่ก็มีกฎหมายฉบับอื่นควบคุมอยู่แล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้คือการให้อำนาจไปแก้ไขกฎกระทรวงฯ ซึ่งมีการปลดล็อก แต่มีอีกล็อกขึ้นมา เช่น การเอากำลังการผลิตเบียร์ 10 ล้านลิตรออก และให้ไปทำ EIA หรือการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแทน ทั้งที่จริงการทำ EIA อาจไม่สำคัญกับการทำโรงเบียร์ขนาดเล็กมาก ส่วนการทำสุราพิเศษ เช่น บรั่นดี และลิเคียว ซึ่งกฎกระทรวงก็ยังไม่มีการแก้ไขในส่วนนี้ กฎหมายฉบับนี้จึงไม่กำหนดกำลังแรงม้าและเครื่องจักร เพื่อให้เกิดการปลดล็อกการผลิตสุรา กฎหมายนี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง เพราะออกโดยสภาฯ จึงอยากให้ช่วยกันปลดล็อกโซ่ตรวนนี้ไปให้ได้

จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.เสียงข้างมาก อภิปรายว่า การแก้กฎกระทรวง เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำอย่างเร่งด่วน มีการประกาศในราชกิจจาฯ ภายในวันเดียว ซึ่งไม่ค่อยปรากฏในกระบวนการที่จะออกกฎกระทรวง หรือออกกฎหมายใดๆ แสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบ อาจจะเพื่อให้มีผลกระทบกับกระบวนการพิจารณาในสภาฯ ก็เป็นได้ ซึ่งศักดิ์สูงกว่ากฎกระทรวง เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของสภาฯ ว่า ทิศทางการเปิดเสรีสุราเป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดการเสมอภาคกับประชาชน ไม่ให้รายใหญ่ผูกขาดอีกต่อไป ถ้าเราหวังพึ่งว่ามีกฎกระทรวงมาแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันให้เกิดความมั่นใจได้เลยว่า ในอนาคตทิศทางของตลาดสุราจะเป็นไปอย่างไร ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ แปลว่ากฎหมายที่เป็นแม่ของกฎกระทรวงไม่มีผลบังคับใช้ ดังนั้น เราต้องยืนยันด้วยกฎหมาย

ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ในฐานะที่เป็นมุสลิม อย่างไรเสียก็ต้องลงมติงดออกเสียงร่างกฎหมายฉบับนี้แน่นอน แต่เราไม่ควรนำกฎกระทรวงที่ออกเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นตัวชี้วัดว่าจะรับหรือไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่สิ่งที่กังวลคือ ปัญหาตัวเลขผู้เสียชีวิตช่วงเทศกาลต่างๆ ทั้งปีใหม่และสงกรานต์ คุณและโทษของสุรา รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชน และจำนวนรายได้ของรัฐจะลดหรือเพิ่มขึ้นอย่างไร

ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า วันนี้เป็นการวัดใจ ส.ส. ว่าจะกดตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งมาหรือไม่ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน แสดงว่ายังมี ส.ส.เชื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ เรื่องนี้เป็นการวัดใจว่า เราจะยืนข้างทุนผูกขาด หรือยืนข้างประชาชน จึงขอให้ประชาชนไปเช็กชื่อ ส.ส.ที่โหวตได้เลย เรื่องนี้ไม่ต้องรอรัฐบาลหน้าแล้วค่อยทำ จึงอยากขอให้สมาชิกมายืนข้างประชาชน

ที่ประชุมใช้เวลาในการอภิปรายรายมาตราอยู่กว่า 3 ชั่วโมง ก่อนลงมติเห็นชอบรายมาตราทั้ง 7 มาตรา จากนั้นเมื่อเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบทั้งฉบับในวาระที่ 3 ที่ประชุมกลับมีมติเสียงข้างมาก 177 เสียง ไม่เห็นด้วย ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เห็นด้วย 173 เสียง และมีผู้งดออกเสียง 11 เสียง

อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ขอใช้สิทธิตามข้อบังคับ ให้มีการลงมติใหม่ เนื่องจากคะแนนเห็นด้วยและคะแนนไม่เห็นด้วย ทิ้งห่างกันไม่ถึง 25 คะแนน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ มองว่าจะทำให้เสียเวลาการประชุม และขอให้ยึดผลการลงคะแนนในวาระ 3 ที่ผ่านพ้นไป แต่ถูกคัดค้านจาก ส.ส.ฝ่ายค้าน ทำให้นายสุชาติ เดินหน้านับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ ตามข้อบังคับในที่สุด และภายหลังการนับคะแนนโดยการขานชื่อ ปรากฏว่า รอบแรกยังไม่สามารถขานคะแนนได้ จนนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ต้องสั่งพักการประชุมไป

และหลังใช้เวลาลงมติรอบ 2 แบบขานรายชื่อ เกือบ 3 ชั่วโมง ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 196 ต่อ 194 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง คว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับของพรรคก้าวไกลแล้ว โดยมีคะแนนห่างกันเพียง 2 คะแนน ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจนับคะแนน และใช้เวลาในการตรวจนับคะแนน อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีการทบทวนการนับคะแนนอยู่หลายครั้ง เนื่องจากพบว่าการขานคะแนนมีการซ้ำกัน นอกจากนี้ยังมีการนับคะแนนออกมาเป็นผลเท่ากัน จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอยู่ระยะหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]