พรรคก้าวไกล 31 ต.ค.-“ก้าวไกล” ย้ำจุดยืน ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ด้าน “พิธา” ขอ ปชป.-ภท.-พรรคร่วมฝ่ายค้านยกมือหนุน โต้ “พล.อ.ประยุทธ์” กังวลเหล้าเถื่อน ชี้ สิ่งที่เถื่อนคือกฎหมายที่กดทับ เผย พร้อมดันเป็นนโยบายหลักหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า หากไม่ผ่านสภาฯ ขณะที่ “เท่าพิภพ” ปัดกระแสดีล ยกมือแลกโหวต กัญชาเสรี
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวทิศทางสุราก้าวหน้าก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 พ.ย. 2565 โดยระบุว่า ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ถือว่าเป็นนโยบายเศรษฐกิจ ที่จะทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายย่อย อย่างมีความยุติธรรม ไม่เป็นการกดทับผู้ประกอบการ ซึ่งในปัจจุบันแต่ละภูมิภาค มีสุราหลายยี่ห้อที่มีศักยภาพ ชนะการแข่งขันระดับโลก และส่งออกไปยังหลายประเทศทั่สโลก ทั้งที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเลย
นายพิธา ยังระบุว่า ในช่วงนี้เห็นว่ารัฐบาลจะหาของดีเสิร์ฟ ให้กับผู้นำที่เข้าร่วมประชุมในช่วงการประชุมเอเปค จึงขอเสนอให้รัฐบาลนำสุรา สาโท จิน หรือ วอสก้า พื้นบ้านเหล่านี้ ซึ่งเชื่อว่า จะสามารถเสิร์ฟในเวทีเอเปคได้อย่างไม่น้อยหน้า
ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี มีข้อกังวลเรื่องเหล้าเถื่อน และ เป็นห่วงเรื่องสุขลักษณะนั้น นายพิธา ย้ำว่า สิ่งที่เถื่อนไม่ใช่เหล้า แต่เป็นกฎหมายที่กดทับผู้ประกอบการเอาไว้ ส่วนข้อกังวลว่าคนจะดื่มเละเทะนั้น ตนมองว่า ก็ควรกังวลเท่ากันไม่ว่าจะเป็นเหล้าของนายทุนเหล้านำเข้า หรือเหล้าพื้นบ้าน แต่ต้องมีกระบวนการในการลดอุบัติเหตุจากท้องถนน และการสูญเสียจากหารเมาแล้วขับ โดยการใช้ภาษีจาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า มาเป็นงบประมาณในการรณรงค์เรื่องเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
นายพิธา ยังสื่อสารไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้เป็นชัยชนะ ของประชาชน ไม่ใช่ชัยชนะของพรรคใดพรรคหนึ่ง โดยเฉพาะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกำกับดูแลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซึ่งระบบฉบับนี้จะเป็นโอกาสให้พาณิชย์กระตุ้นการส่งออกได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเป็นโอกาสให้เกษตรกร ในการสร้างผลผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพมาเป็นส่วนผสม
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกำกับดูแล กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวเชื่อว่าเรื่องนี้จากกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ที่มีผู้ประกอบการระดับโลก อยู่ใน พื้นที่เหล่านี้ของประเทศ
นายพิธา ยังฝากถึง เจ้าสัว นานทุน ที่กังวลว่าจะเกิดปัญหาในอุตสาหกรรม โดยระบุว่า เมื่อมีการปลดล็อกให้คน สามารถผลิตสุราหรือต้องเคลียร์เองที่บ้านได้ ในต่างชาติที่มีการปลดล็อคเรื่องเหล่านี้ไม่เคยมีประเทศไหนที่สูญเสียมาร์เก็ตแชร์เกิน 1- 2% แต่กลับมมองว่า เป็นโอกาสในธุรกิจ การทำ CSR หรือการร่วมทุนขยายกิจการได้อย่างเท่าเทียมกัน
นายพิธา กล่าวอีกว่า อยากบอกสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า การจัด “มหกรรมสุราไทย” ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทยปี 2545 ถือเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุราไทยมาถึงจุดนี้ จึงอยากขอแรงสนับสนุนจากเพื่อนพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงประชาชนทุกภาคส่วน
เมื่อถามว่า หากร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไม่ผ่านสภา วางแนวทางต่อไปอย่างไรนั้น นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้คิดว่า ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จะไม่ผ่าน เพราะจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ และยังเชื่อว่าหากคำนวณจากผลโหวตในวาระแรกว่า กฎหมายนี้จะผ่าน แต่หากไม่ผ่านจริง ก็จะนำเรื่องไปเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงครั้งต่อไป
ด้าน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงข้อกังวลจากหลายฝ่ายที่มองว่าหากผ่าน ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับนี้ผ่านจะอันตรายมากขึ้นหรือไม่ ขอย้ำว่า ประเทศมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีผลอะไร สำหรับการให้ผู้ประกอบการตัวเล็กตัวน้อยได้ทำ แต่จะก่อให้เกิดการจ้างงานมหาศาล และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวเองคนเกียว แต่เป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ
ส่วนกระแสข่าว พล.อ. ประยุทธ์ แสดงความกังวลต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ จนเป็นกระแสโหวตคว่ำร่าง นั้น นายเท่าพิภพ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะกลายเป็นผู้ขีดเส้นความขัดแย้งในประเทศอย่างเป็นทางการ และตนมองไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไร ที่ ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะไม่ผ่าน นอกจากจะมีการรับเงินนายทุนมา
อีกทั้งในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ก็มีการปรับแก้กันหลายประเด็น และโหวตเป็นเอกฉันท์แล้ว จึงขอให้พิจารณาว่า จะทำเพื่อประชาชน หรือ ผู้มีอำนาจ และนายทุน ที่มีอยู่ไม่ถึง 1% ของประเทศ
นายเท่าพิภพ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวแลกยกมือโหวตกับภูมิใจไทย เพื่อผ่าน ร่างพ.ร.บ.กัญชาว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกล จะโหวตอะไร มีหลักการและเหตุผลทุกอย่าง เช่น ในเรื่องกัญชาเสรี ก็จะพิจารณาตามหลักการและเหตุผล และส่วนตัว ได้แปรญัตติไปหลายเรื่อง หากเป็นไปตามที่แปรญัตติ และได้รับการแก้ไข ก็พร้อมโหวตสนับสนุน ซึ่งไม่ใช่การแลกเปลี่ยนอะไร.-สำนักข่าวไทย
