กกต. ตรวจสอบเงินบริจาค พปชร. แล้ว

กทม. 28 ต.ค. – “แสวง” เผยผลสอบนายทุนจีนบริจาคเงินเข้า พปชร. ได้ พบเป็นผู้มีสัญชาติไทย แต่ที่มาของเงินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ขอเวลาตรวจสอบ ขอประชาชนสบายใจ กกต. ปฏิบัติเหมือนกันทุกพรรค


นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมายอมรับว่า เมื่อปี 2564 พรรคพลังประชารัฐได้รับเงินบริจาค 3 ล้านบาท  จากนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนจีนที่ได้รับสัญชาติไทย และเชื่อมโยงกับผับดังย่านยานาวา ที่ถูกตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยาเสพติดเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าในฐานะนายทะเบียนและสำนักงาน กกต. ตั้งแต่ทราบข่าวเมื่อวานก็ได้ให้สำนักกิจการพรรคการเมืองดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งมี 3 ประเด็น คือ 1. ผู้บริจาคมีสิทธิ์บริจาคหรือไม่ โดยดูจากตัวเลขตามบัตรประจำตัวประชาชน พบว่าเป็นผู้มีสัญชาติไทย ซึ่งก็ถือว่าเป็นผู้ที่สามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ 2. จำนวนเงินที่บริจาคพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และ 3. พรรคผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรู้หรือควรจะรู้ว่าแหล่งที่มาของเงินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตรงนี้อยู่ในชั้นสำนักงานฯ กำลังดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เมื่อตรวจสอบแล้วก็จะมีการทำเรื่องเสนอมายังนายทะเบียนพรรคการเมือง

นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำหนดเรื่องการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองไว้ โดยต้องไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 74 จำนวนเงินที่บริจาคต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 เกณฑ์ กกต. จะตรวจสอบตามมาตรฐาน โดยเมื่อทุกพรรคการเมืองได้รับบริจาค ก็จะตรวจสอบเบื้องต้นว่าผู้บริจาคเป็นผู้ที่สามารถบริจาคเงินให้กับพรรคได้หรือไม่ และเงินที่บริจาคอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ก่อนที่พรรคจะติดประกาศรายละเอียดการรับบริจาคไว้ที่ทำการของพรรค และส่งให้สำนักงาน กกต. ประกาศให้สาธารณชนทราบต่อไป เมื่อมีกรณีเป็นที่สงสัยของประชาชนสำนักงาน กกต. ก็จะดำเนินการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ทั้งกับพรรคและตัวผู้บริจาคเอง    ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการ


ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อพรรคการเมือง รู้ภายหลังว่าเงินที่ได้รับมาไม่ถูกต้องจะสามารถดำเนินการแก้ไขได้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่าตัวกฎหมายเขียนไว้ชัดอยู่แล้ว ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายขอให้ได้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรก่อน ขอให้ประชาชนสบายใจ ยืนยัน กกต. ปฏิบัติเหมือนกันทุกพรรคและขอตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร .- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ