มท. ขีดเส้นตายส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด 31 ต.ค.นี้

กระทรวงมหาดไทย 26 ต.ค.- กระทรวงมหาดไทย ขีดเส้นตาย ส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 31 ต.ค.65 พร้อมกำชับทุกจังหวัดดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงเจตนารมณ์ในการประกาศสงครามกับยาเสพติด จึงขอให้ทุกจังหวัดทุ่มเทในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง โดยเร่งรัด Re X-Ray จัดทำรายชื่อผู้เสพ ผู้ค้า ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 อย่างละเอียดรอบคอบ จริงจัง เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้กับรัฐบาลในการวางแผนแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมทั้งดำเนินงานโต๊ะข่าวยาเสพติดอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์เพื่อหารือร่วมกับภาคีเครือข่ายที่สำคัญ ทั้งท้องถิ่น ท้องที่ หน่วยงานด้านการบำบัดรักษา ด้านการป้องกันผู้เสพหน้าใหม่ ด้านการป้องกันและปราบปราม และดำเนินการ Re X-ray สุ่มตรวจหาสารเสพติดในร่างกายบุคลากรในสังกัด แยกประเภทของผู้ติดยาเสพติด แบบเรื้อรัง/โรคจิตเวช เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการบำบัดรักษาเป็นพิเศษ จัดเตรียมสถานที่บำบัดรักษา อย่างน้อยอำเภอละ 1 แห่ง หรือตำบลละ 1 แห่ง โดยทำให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้รับการดูแลในสายตาผู้ปกครอง ในสถานที่ที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนธิกำลัง อปพร. อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ อปท. และข้าราชการในพื้นที่ ช่วยกันดูแล และขยายผลสถานที่บำบัดให้กลายเป็นสถานที่ฟื้นฟู ตลอดจนกำหนดหลักสูตร/รูปแบบการบำบัดฟื้นฟู วางระบบติดตามหลังการบำบัดรักษาฟื้นฟู รวมถึงการใช้ทุกช่องทางประชาสัมพันธ์ให้คนเห็นถึงพิษภัยของยาเสพติด เพื่อเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์ดำรงธรรม 1567 และผู้นำท้องที่ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมเสริมสร้างความรัก สามัคคีในชุมชน ในครอบครัว และที่สำคัญช่วยเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่หลงผิดไปติดยา ให้เขามีโอกาสกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีของพ่อแม่และสังคมต่อไป

นายสุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงมิติด้านการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเน้นย้ำว่ากระทรวงมหาดไทยยังคงดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งรายใหญ่และผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีตัวอย่างผลการปฏิบัติในวันนี้ ได้แก่


1) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 จังหวัดลพบุรี ภายใต้อำนวยการของ นายธีรเมธ เทพวิชัยศิลปกุล นายอำเภอบ้านหมี่, ว่าที่ ร.อ.อธิพงษ์ มณีแก้ว ปลัดอาวุโส อำเภอบ้านหมี่ มอบหมายให้ นายวสุธร กุยแก้ว ปลัดอำเภอบ้านหมี่ พร้อมด้วย นายกัญจน์ ตัณทัยย์ ปลัดอำเภอบ้านหมี่ ได้ร่วมกันจับตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางยาบ้าเม็ดสีส้มและสีเขียวกลม-แบน ด้านหนึ่งเรียบอีกด้านหนึ่งมีอักษร W อยู่บนเม็ดยา รวมยาบ้า จำนวน 2,992 เม็ด (ยาบ้าเม็ดสีส้ม จำนวน 2,963 เม็ด, ยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 29 เม็ด) ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.บ้านหมี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

2) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 จังหวัดศรีสะเกษ พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ นายอุดมศักดิ์ เพชรผา ศึกษาธิการ จ.ศรีสะเกษ นายวิชัย เลิศภัทรนันท์ แรงงาน จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ พ.ต.สันติ วัฒนทองกุล นายทหารฝ่ายการข่าว ฉก.ทพ.23 และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดตามยุทธการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้ ตำรวจภูธร ภาค 3” และปฏิบัติการ “238 พิทักษ์นครลำดวน” ในห้วงระหว่างวันที่ 1 – 23 ตุลาคม 2565 ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดได้ 270 ราย รวมผู้ต้องหา 282 คน ของกลาง ยาบ้า จำนวน 42,880 เม็ด และไอซ์ จำนวน 0.88 กรัม จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่ง สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

3) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 จังหวัดจันทบุรี ภายใต้การอำนวยการของนางสาวอัมพวัน เพไร นายอำเภอแก่งหางแมว นายยอนุพงษ์ สุขวิเศษ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงพร้อมด้วยสมาชิก อส. บูรณาการร่วมกับชุดสืบสวน สภ.แก่งหางแมว ขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 6.22 กรัม (ชั่งไม่รวมถุง) และยาบ้า จำนวน 196 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สภ.แก่งหางแมว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


4) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 จังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเหนือคลอง นำโดยนายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง (รักษาราชการแทนนายอำเภอเหนือคลอง) ร่วมกับนายภูเมศ ไกรทอง ป้องกันจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 159 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สภ.เหนือคลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

5) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร.ต.ท.ชัยพร พลชัย รอง สวป.สภ.พุนพิน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จุดบริการประชาชนหนองขรี ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาสองสามีภรรยา พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 700,000 เม็ด ก่อนนำตัวทั้งคู่ส่ง สภ.พุนพิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

6) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า จำนวน 3,600,000 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่ง สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“กระทรวงมหาดไทย เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการทำสงครามกับยาเสพติดทุกชนิดด้วยการบูรณาการการทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส. รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น โดยใช้ทุกกลไกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ลงพื้นที่ลุยกวาดล้างผู้กระทำความผิดอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งนำผู้หลงผิดเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อคืนคนดีให้กับสังคม ให้กับครอบครัว และหมั่นลงพื้นที่ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัจจัยทำลายคนบริสุทธิ์อีก อันจะทำให้ลูกหลานของพวกเราทุกคนอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข พร้อมทั้งได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์หมายเลขติดต่อในการแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และหมายเลขที่ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างสะดวก มีเจ้าหน้าที่สแตนบายพร้อมเข้าดำเนินการตามเบาะแสตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถจดจำและติดต่อได้ง่าย อันเป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมในการช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]