นายกฯ วางรากฐานระบบเศรษฐกิจประเทศสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ 23 ต.ค. – โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ วางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคตอย่างยั่งยืน เร่งส่งเสริมการลงทุนและขับเคลื่อนโครงการของ EEC ไปสู่เป้าหมายเศรษฐกิจแห่งอนาคต New Engine of Growth


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้วางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วนของประเทศ ผ่านการพัฒนาและขับเคลื่อนโครงการต่างๆ อย่างเป็นระบบ เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งการส่งเสริมการลงทุน “เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” และ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” โดยมีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 แล้ว ดังนี้

1) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) จำนวน 758 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 394,012 ล้านบาท และ 2) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) จำนวน 1 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 553 ล้านบาท รวมไปถึงการจัดกิจกรรมชักจูงนักลงทุน โดยสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) จัดกิจกรรมชักจูงนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้มาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหอการค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย
(1) อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ โดยประเทศที่สนใจลงทุน คือ ญี่ปุ่น
(2) อุตสาหกรรมด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว ประเทศที่สนใจลงทุน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน อิตาลี และสิงคโปร์ และ
(3) อุตสาหกรรมด้านดิจิทัล ประเทศที่สนใจลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์


ทั้งนี้ มีบริษัทสัญชาติจีน ซึ่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างการขออนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในปี 2565 และจะสามารถเดินสายการผลิตได้ภายในปี 2567

“ล่าสุดกับการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อขยายความร่วมมือด้านการสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ EEC เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดย สกพอ. และธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อขยายความร่วมมือด้านการสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ EEC โดยมุ่งเน้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทยและภาคเอกชนญี่ปุ่น ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการผลิตผ่านกลไกในการส่งเสริมการลงทุนและการอำนวยความสะดวกต่างๆ” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าโดยลำดับตามแผนที่กำหนด โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ การปรับพื้นที่สำหรับก่อสร้างทางขับระยะที่ 1 และลานจอดของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน มีความคืบหน้า ร้อยละ 91.86 โครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น มีความคืบหน้า ร้อยละ 74.31 โครงการงานระบบประปาและบำบัดน้ำเย็น มีความคืบหน้า ร้อยละ 90.46 และโครงการงานระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน มีความคืบหน้า ร้อยละ 8.17


ทั้งนี้ การขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ EEC นั้น รัฐบาลมีความมุ่งมั่นเพื่อให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) โดยดำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเมืองใหม่ เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกให้เป็นระบบ และสอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมการประกอบพาณิชยกรรม และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทันสมัย สร้างนวัตกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ยังได้มีการจัดตั้ง “กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ ชุมชน และประชาชนที่อยู่ภายในหรือที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วม และโอกาสในการพัฒนาอย่างทั่วถึง สอดคล้องกับปัญหา และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว มุ่งให้เกิดประโยชน์ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่ประชาชนหรือชุมชนด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

Emergency crew responds to reports car hit pedestrians during Liverpool title parade

เชื่อเหตุรถพุ่งชนแฟนลิเวอร์พูลไม่ใช่ก่อการร้าย

ลิเวอร์พูล 27 พ.ค.- เกิดเหตุคนขับรถด้วยความเร็วสูงพุ่งชนกลุ่มแฟนบอลทีมลิเวอร์พูล ขณะรวมตัวฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก มีผู้บาดเจ็บเกือบ 50 คน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว จับกุมคนขับรถผู้ก่อเหตุได้แล้ว และเชื่อว่าไม่ใช่การก่อการร้าย ภาพที่มีผู้บันทึกไว้ได้และเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เผยให้เห็นรถยนต์สีเทาคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่กลุ่มแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ตั้งแถวอยู่ตามถนน โดยในช่วงหนึ่งดูเหมือนรถคันดังกล่าวจะเบี่ยงออกไปจากพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุด ท่ามกลางความตกตะลึงของแฟนบอบจำนวนมากที่ต่างกรีดร้องและวิ่งหนี หลายคนพยายามวิ่งกรูไปปิดล้อมและทุบรถยนต์เพื่อให้คนขับหยุดรถ ไม่นานหลังจากนั้น ตำรวจที่ประจำการใกล้เคียงก็ได้ล้อมรอบรถคันดังกล่าว เพื่อนำตัวคนขับลงจากรถ ขณะที่กลุ่มแฟนบอลที่โกรธแค้นพยายามที่จะกรูกันเข้าไปหาคนขับ ตำรวจเมืองลิเวอร์พูลเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุการณ์คนขับรถพุ่งชนกลุ่มแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ถนนวอเตอร์ สตรีท ไม่ไกลจากย่านใจกลางเมือง ช่วงหลัง 18.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ไม่นานหลังจากรถบัสเปิดประทุนของนักเตะลิเวอร์พูลและเจ้าหน้าทีมแล่นผ่านใจกลางเมือง ซึ่งมีแฟนบอลหลายหมื่นคนมาต้อนรับ ผู้บัญชาการตำรวจเมอร์ซีไซด์แถลงในเวลาต่อมา ว่า เหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 47 คน ในจำนวนนี้ 27 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลายคนอาการสาหัสเพราะถูกรถทับร่าง ส่วนอีก 27 คนบาดเจ็บเล็กน้อยได้รับการดูแลปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนขับรถเป็นชายผิวขาวชาวอังกฤษวัย 53 ปี และมีถิ่นอาศัยอยู่ในเมืองลิเวอร์พูลถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจกำลังสืบสวนเพื่อหาแรงจูงใจของเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่เบื้องต้นเชื่อว่าไม่ใช่การก่อการร้าย ผู้ก่อเหตุลงมือคนเดียวไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิด และเป็นเหตุที่เกิดขึ้นเฉพาะจุดนี้จุดเดียว พร้อมกับขอให้สาธารณชนหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และแชร์ภาพเหตุการณ์ที่น่าตกใจผ่านทางสื่อออนไลน์ แต่ขอให้ส่งมอบหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ […]

Macron's face gets pushed away by hand in Vietnam

ผู้นำฝรั่งเศสถูกภริยาปัดหน้าหงาย

ฮานอย 27 พ.ค.- ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ถูกบริจิตต์ มาครง สตรีหมายเลขหนึ่งใช้มือปัดใบหน้าจนหน้าหงาย ขณะที่ประตูเครื่องบินประจำตำแหน่งกำลังเปิดออกในช่วงที่เขาเดินทางถึงกรุงฮานอยของเวียดนามเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์นำภาพเหตุการณ์มานำเสนอแบบชัด ๆ ว่า ในขณะที่ประตูเครื่องบินประจำตำแหน่งผู้นำฝรั่งเศสเปิดออก ประธานาธิบดีมาครงถูกมือลึกลับ เห็นเป็นแขนเสื้อสีแดง ปัดเข้าที่ใบหน้าจนหน้าหงาย ทำให้ต้องเดินหลบไปด้านข้างชั่วขณะหนึ่งเพื่อเก็บอาการ ก่อนที่จะลงจากเครื่องบิน พร้อมกับภริยาซึ่งสวมเสื้อสูทสีแดง โดยไม่ได้จูงมือกันขณะลงจากเครื่องบิน ขณะที่คนภายนอกมองไม่เห็นอากัปกิริยาของทั้งคู่ว่าเกิดอะไรบนเครื่องบิน ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงปฏิเสธว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรในกอไผ่ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งใด ๆ ทั้งสิ้น ภาพที่เห็นเป็นแค่การหยอกล้อกันของผู้นำฝรั่งเศสและสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งจบลงด้วยเสียงหัวเราะ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดของมาครงและภริยาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันตั้งแต่ปี 2550 ปัจจุบันผู้นำฝรั่งเศสวัย 47 ปี ส่วนสตรีหมายเลขหนึ่งวัย 72 ปี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีมาครงและคณะเดินทางถึงเวียดนามเมื่อคืนวันอาทิตย์ เพิ่มเริ่มต้นการเยือน 2 วัน โดยหลังเสร็จสิ้นการเยือนเวียดนาม มาครงจะเดินทางไปเยือนอินโดนีเซียและสิงคโปร์ต่ออีกประเทศละ 2 วัน เพื่อแสดงถึงความเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากับอาเซียน.-815(814).-สำนักข่าวไทย

เลขาฯ ป.ป.ส.คอนเฟิร์ม “ทักษิณ” มาปาฐกถาแน่

26 พ.ค. – เลขาธิการ ป.ป.ส. คอนเฟิร์ม “ทักษิณ” มาปาฐกถาแน่ พรุ่งนี้ (27 พ.ค.) เชื่อเป็นการโชว์ตัวกลบข่าวลือหนีออกนอกประเทศ ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีกำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการ ครส.ครั้งที่ 3/2568 บ่ายวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และมีวาระเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ต่อการแก้ไขปัญหา อย่างยั่งยืน” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ส่วนตัวในฐานะที่เป็นเลขาธิการ ป.ป.ส. มีหน้าที่ในการติดตามและประเมินผล ปรับปรุง แก้ไข พัฒนาอยู่ตลอด เนื่องจากกลไกของรัฐที่เราขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง STOP SEAL SAVE การเอกซเรย์พื้นที่ให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย คือกลไกของรัฐที่ขับเคลื่อนขณะนี้ อย่างไรก็ดี เมื่อขับเคลื่อนไปสักระยะหนึ่ง หรือระยะ 6 เดือน มีคำถามว่าเราต้องปรับปรุง […]

เชียงใหม่เฝ้าระวังมวลน้ำไหลท่วมเพิ่ม

เชียงใหม่ 26 พ.ค. – ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำจากบนดอยไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ ทั้งในเขตตัวเมืองและอีกหลายอำเภอ โดยเฉพาะริมลำน้ำขานใน อ.สันป่าตอง และดอยหล่อ น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก แม้ระดับน้ำจะลดลงบ้างแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้มวลน้ำไหลมาท่วมเพิ่มขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย