พัทลุง 12 ต.ค.- “สมคิด” ลั่น คิดไม่ผิด หวนการเมืองแก้วิกฤตเหมือนทุกครั้ง ตั้งแต่สมัยต้มยำกุ้ง เปิดใจเหตุโทรสั่ง 4 กุมารลาออกรมต. หลังรับสายนายกฯ ฮึ่มพรรคไหนไล่คนทำงานออกไม่เก็บคนดีไว้ ถ้ามาภาคใต้ไม่ต้องให้เกิด โวขอเป็นสึนามิกวาดล้างสิ่งโสมม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวปราศรัยในเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพัทลุงว่า คิดไม่ผิดที่ได้กลับมา เพราะหากบ้านเมืองไม่มีวิกฤตจะไม่ได้กลับมา แต่หากบ้างเมืองมีวิกฤตชื่อ “สมคิด” จะกลับมาเสมอ ครั้งแรกวิกฤตต้มยำกุ้ง และจากเป็นอาจารย์ ตนยินดีที่จะสละหวังทำการเมืองให้ดี ชาติเจริญ
พร้อมชี้หากการเมืองดีบ้านเมืองจะเจริญหากมีเรื่องซื้อเสียงเมื่อไหร่บ้านเมืองก็จะเป็นเหมือนทุกวันนี้ ส่วนครั้งที่สองตนได้รับเชิญมาแก้วิกฤตเศรษฐกิจจากการรัฐประหาร ตนเป็นคนนำจดหมายของผู้นำไปยื่นให้จีน ให้เขายืนยันว่าเขาจะสน้บสนุนประเทศไทย เพราะไม่เคยมีชาติไหนช่วยเราตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งตนอยู่นานถึง 6 ปี
นายสมคิด ถาม ท่านรู้ไหม การเป็นรองนายกรัฐมนตรี มีเงินเดือนแสนเดียว 10 ปี ไม่มีการขึ้นเงินเดือนเลย เวลาตนตั้งผู้บริหารบอร์ดต่างๆ เงินเดือนเป็นล้าน แต่คนตั้งเงินเดือนแสนเดียวโดยได้ประกาศหากมีเวลาจะลงพื้นที่ทุกจังหวัดภาคใต้ ไม่เพียงแค่พัทลุง จะสร้างกระแสสึนามิกวาดล้างสิ่งโสมม
โดยได้เผยว่าหลาย 10 ปีที่ผ่านทา ที่คุณมีผู้แทน ทำไมภาคเศรษฐกิจของภาคใต้ยังเล็กแล้วหดตัวด้วยซ้ำ กระจุกตัวกว่า 60% แค่ใน 4 จังหวัด “สุราษฎร์ฯ -นครศรีธรรมราช-ภูเก็ต สงขลา”
นายสมคิด ระบุว่า ทีมที่ตนจะใช้ไม่ใช่แค่มีแค่นี้ และนายสมคิดไม่ใช่เทวดา มาจากไหน แต่นายสมคิดใจเปิด มากคน มากวาสนา ช่วยกันบริหารประเทศ เอาคนโกงออกไป เอาคนดีเข้ามาประเทศจะได้เจริญ และพรรคไหนที่ไล่คนทำงานออก ไม่เก็บคนดีไว้ ถ้ามาพัทลุง มาภาคใต้ ไม่ต้องให้เกิด
นายสมคิด ยังเปิดใจด้วยว่า วันนี้มีความลำบากใจมากสุดในชีวิต เพราะในช่วงที่ผ่านมามีความจำเป็นต้องปรับ ครม. ตนโทรกลับ หานายกรัฐมนตรีบอก “ท่านครับ ไม่ต้องลำบากใจพวกผมมีหน้าที่ ทำให้รัฐบาลอยู่ได้ วันรุ่งขึ้นผมให้ลาออกทั้ง 4 คน ถ้าคนทำงาน ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ไม่ให้เขาอยู่ มันสมองอย่างนั้นจะไปหาที่ไหน ไม่เห็นค่าถึงเวลามาบอกเปลี่ยนรัฐมนตรี เพราะเขาจะเอาบ้าง แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร
นายสมคิด ยังชี้ว่า ภาคใต้ถ้าเลือกแต่คนเดิมๆ ไม่เปลี่ยนความคิดไปไม่ได้ ซึ่งตนไม่ได้ว่าใครและคราวที่แล้ว พูดนิดเดียว ออกมาว่า สมคิด นักการตลาดลวงโลก ผมถามถ้าใจเล็กแค่นี้ จะไปบริการประเทศได้อย่างไร ย้ำถ้าต้องการเปลี่ยนประเทศไทย สิ่งแรกคือต้องเปลี่ยนการเมืองให้ได้ และต้องการให้พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคการเมืองที่ดี เปลี่ยนแปลงเพื่อบ้านเมื่อง
นายสมคิด ยังประกาศพร้อมเปลี่ยนวิธีจัดการบริหารของกระทรวงมหาดไทย ทั้งเรื่องงบประมาณและการกระจายอำนาจ ชี้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้วัดที่นโยบาย หากแต่คนเมื่อเงินในกระเป๋า จึงตัดสินใจด้วยว่า “ใครทำเป็นทำไม่เป็น และประชาชนเชื่อว่าใครทำได้ใครทำไม่ได้” ย้ำสร้างอนาคตไทยทำมาแล้วและเห็นปัญหาทุกจุดไม่ต้องมาฝึกงานหากเป็นรัฐบาลทำงานได้เลย
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้คิดว่าใครเป็นคู่แข่ง นโยบายของตนเอาไปใช้ได้ ตนเคยคุยกับนายกฯ ประยุทธ์ ว่าจนแก้จนอย่างไร เพราะเขามีทีมแก้จน ดังนั้นตั้งทีมเลยและเอาเงินจากกองทุนสร้างอนาคตไทยไปทำ แต่ไม่เคยเอาจริงเอาจัง ผักชีโรยหน้าทั้งประเทศ ย้ำปัญหาความยากจนเป็นรากเหง้าของทุกปัญหา ชี้3 เรื่องเป็นมะเร็งร้ายของประเทศ “ความยากจน-ยาเสพติด -คอร์รัปชั่น”
“ยาเสพติดมาคู่กับความยากจน กระจายไปทั่วประเทศ ยาบ้าเหลือเม็ดละ 7 บาทชาวบ้านยังรู้แล้วทางการไม่รู้หรือ คนจนตกงานไม่มีทางเลือก และมาพร้อมกับคอรัปชั่นเงินมหาศาลสามารถเรื้อยเข้าทุกองค์กร จับไม่ได้ ได้แต่ย้าย ดังนั้นหากมีโศกนาฏกรรม ว่าจะประกาศสงคราม ขอบอกว่าสมัยอยู่ไทยรักไทยประกาศมา 3 สงครามแล้ว แต่ผลออกมาคือเราแพ้สงคราม” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ นายสมคิดระบุเพิ่มเติมว่า วันนี้การเมืองซื้อกันเป็นว่าเล่น ถ้าเขาแจกเงิน รับไปกินกาแฟ ได้เดือนนึง ได้ 500-1,000 บาท แต่ถามว่าแก้จนไหม หรือหากมีผู้นำที่ดีสามารถทำจีดีพี 20 ล้านล้านบาททำได้เลย หากเขาให้เรารับ เวลาโหวตนั่นคืออาวุธของเรา โหวตคือการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย พิสูจน์ให้เห็นว่า คนใต้เงินซื้อไม่ได้ คนใต้พลาดแล้วต้องรู้จักจำรู้จักเปลี่ยนแปลง
ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ชี้พรรค ประชาธิปัตย์ ตัดสินใจผิดแล้ว
เห็นนายนิพิฏฐ์ บอกสงครามครั้งสุดท้าย แต่สงครามที่เกิด ท่านไม่เป็นศพแน่ แต่ท่านจะได้กลับมาและไม่ได้มาคนเดียวเท่านั้น แต่มาเป็นแผง แนะหากพรรคนี้เรียกชื่อยากให้เรียกเลย “พรรคสมคิด” ชื่อจีน ฮั่นกวง หมายถึงแสงสว่างอันสดใส ขณะ “สมคิด” แปลว่า เกิดมาคิดทั้งวัน แต่เป็นการคิดเพื่อบ้านเมืองและประเทศชาติส่วนร่วม ย้ำแม้ต่างครอบครัว แต่รวมกันแล้วเป็นพลังสร้างประเทศไทย สุดท้ายนายสมคิดตั้งหวังให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง.-สำนักข่าวไทย
