ศูนย์ธุรกิจ EEC–เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ วางรากฐานเศรษฐกิจไทย

กทม. 8 ต.ค.- “ทิพานัน” ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” สร้างศูนย์ธุรกิจ EEC–เมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะสำเร็จ ชี้ปี 2566 เปิดให้เอกชนเข้าพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เชื่อสร้างงาน 200,000 คน ดันมูลค่าจ้างงาน 1.2 ล้านล้านบาท


น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายในการพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจ และการเงินระดับภูมิภาคในพื้นที่ EEC โดยมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ 22 มีนาคม 2565) ได้อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เข้าใช้ประโยชน์ที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จำนวน 14,619 ไร่ ในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ดำเนินโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ เป็น “ศูนย์กลางธุรกิจและการเงินระดับภูมิภาค” เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต โดยธรรมชาติ มนุษย์ และเทคโนโลยีอยู่ร่วมกันมุ่งสู่เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) เป็นพื้นที่แห่งนวัตกรรมและคุณภาพชีวิตระดับสากลของประเทศไทยและจะเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 ของโลกในปี 2580 โดยคาดว่าสามารถสร้างงานทางตรง 200,000 คน มูลค่าการจ้างงาน 1.2 ล้านล้านบาทภายในปี 2575

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแบบวางโครงการดังกล่าวไว้ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ทั้ง 7 ด้าน คือ 1. Smart Economy (เศรษฐกิจอัจฉริยะ) 2. Smart Living (การดำรงชีวิตอัจฉริยะ) 3. Smart People (พลเมืองอัจฉริยะ) 4. Smart Governance (การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ) 5. Smart Energy (พลังงานอัจฉริยะ) 6. Smart Environment (สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ) และ 7. Smart Mobility (การสัญจรอัจฉริยะ) แบ่งประเภทตามลักษณะการใช้งานและใช้ประโยชน์ออกเป็น 2 โซนคือ โซนที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม 70% กับโซนสีเขียว 30% หน่วยงานราชการในพื้นที่ สำนักงานใหญ่ของภาคเอกชน ศูนย์กลางการเงิน ศูนย์การแพทย์แม่นยำ ศูนย์วิจัยนานาชาติ ศูนย์ธุรกิจอนาคตซึ่งเกี่ยวข้องกับ EEC เป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาเมืองใหม่ของไทยทั่วประเทศ โดยตั้งอยู่บนทำเลที่ยอดเยี่ยมจากสนามบินอู่ตะเภา เพียง 15 กิโลเมตร จากพัทยา 10 กิโลเมตร และจากกรุงเทพมหานคร 160 กิโลเมตร


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ปัจจุบันปี 2565 อยู่ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่ และภายในปี 2566 เปิดให้เอกชนเข้าพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ส่วนโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคจะเปิดให้เข้ามาพัฒนาในปี 2567 เพื่อรองรับประชากรได้ 300,000 คน และประมาณการว่าจะมีประชากรเข้ามาอาศัยเพิ่มมากกว่า 1.5 ล้านคนในอนาคต คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ( GDP) ได้กว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะนำมาสู่การสร้างรายได้ และการจ้างงาน ถือเป็นการวางรากฐานให้เศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ที่อนุสรณ์สถานรำลึกสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”