เพชรบูรณ์ 6 ต.ค.- นายกฯ หวังสถานการณ์น้ำดีขึ้น รับ 3 โครงการพิจารณา สั่งทุกหน่วยงานประสาน กทม. รับมือหลังระดับน้ำเจ้าพระยาล้นพนังกั้นน้ำ
เมื่อเวลา 16.42 น.วันที่ 6 ต.ค.ที่สวนสาธารณะดงตาล เทศบาลเมืองหล่มสัก ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ ว่า วันนี้เป็นภารกิจของนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในการมาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจกับชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ซึ่งมีหลายอำเภอ ส่วนใหญ่จะท่วมหมด แต่ตอนนี้เริ่มลดระดับแล้วบ้าง ในบางพื้นที่และที่ผ่านมาอำเภอหล่มสักจะหนักที่สุด แต่ช่วงเช้าก็ดีใจทราบว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น เมื่อฝนไม่ตกลงมา การระบายน้ำก็จะพร่องขึ้น แต่ปัญหาคือน้ำจะไปตรงอื่นอีก โดยจะไหลลงไปที่แม่น้ำป่าสัก และเท่าที่ได้ติดตามทราบว่า ระดับน้ำยังสูงอยู่ ฉะนั้นแน่นอนนั่นคือธรรมชาติของน้ำ รัฐบาลและตนวันนี้ได้มาเยี่ยมเยือน และมาฟังการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งเขาได้มีการเสนอมา 3 โครงการ นายกฯ ก็รับไปพิจารณา ทั้งทำนบกั้นน้ำ การขยายขนาดของคลองชลประทาน วันนี้เราอยู่กับน้ำอยู่กับธรรมชาติ มี 2 อย่าง คือ การใช้ระบบระบายน้ำเดิม ทางคู่คลองต่างๆ จากธรรมชาติที่มีอยู่ 2 ที่สร้างขึ้น แต่ทั้งสองอย่างจะรองรับได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อมันเกินขีดความสามารถก็จะท่วม โดยบ้านที่เดือดร้อนที่สุดคือใกล้ตลิ่ง บ้านพื้นที่ต่ำ พื้นที่การเกษตร นายกฯ ก็จะกลับไปเร่งรัดในเรื่องของแผนเยียวยาให้เร็วที่สุดและนำไปสู่การทำโครงการต่างๆ ให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วตนอยากจะบอกและอยากจะขอให้ ทุกคนให้ ความเป็นธรรม นิดนึง รัฐบาล ตนได้เข้ามาหลายปีแล้ว และทำอะไรไปมากพอสมควรก็ยังไม่พอ เพราะธรรมชาติก็พัฒนาและเปลี่ยนไปเรื่อย เป็นสถานการณ์โลก ซึ่งไม่โทษใครทั้งสิ้น แต่เราพร้อมหรือยังที่จะรับมือ ก็ต้องค่อยๆ สร้างค่อยๆ ก่อ ค่อยๆ ต่อเติมไปด้วยความเข้าใจ จะทำอะไรก็ตาม ถ้าทำด้วยความขัดแย้งก็ไปไม่ได้ทั้งหมด อะไรก็ไม่ได้ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือความรักความสามัคคี
“ผมไม่ใช่ศัตรูของใครทั้งสิ้น ผมจะทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังทำหน้าที่อยู่” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเตรียมรับมือกับพื้นที่ กทม.อย่างไร เพราะน้ำก็จะลงไปในจุดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แน่นอนตนได้มีการเตรียมการโดยให้หลายหน่วยงานไปประสานกับทางกรุงเทพฯ ซึ่งเราก็มีศูนย์บูรณาการกันอยู่แล้ว ตอนนี้ปัญหาของเรา คือ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสูงล้นตลิ่งล้นทำนบกั้นน้ำ ฉะนั้นเห็นอยู่แล้วว่าพื้นที่มันใหญ่กว้างขวางพอสมควรเราก็ต้องเร่งระบายน้ำให้ได้เร็วที่สุดปัญหาของกรุงเทพฯ คือ เป็นพื้นที่ต่ำระดับน้ำไล่ไม่ห่างจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1.50 เมตร พอล้นมาก็ต้องไหลท่วมขังแน่นอน ดังนั้นต้องเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันน้ำเหนือกำลังลงมา น้ำป่าก็มา ถ้าไม่ระบายก็ไปไหนไม่ได้ ซึ่งต้องขอให้ทุกคนได้เตรียมความพร้อมไว้ด้วย และตนหวังว่าสถานการณ์จากคลี่คลายได้โดยเร็ว ซึ่งตอนนี้เริ่มเข้าสู่ห้วงฤดูหนาว ถ้ากรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าไม่มีพายุอะไรเข้ามา ก็จะลดระดับความรุนแรงลงไป อย่างไรก็ตาม น้ำที่เหลืออยู่จะต้องมีการระบาย.-สำนักข่าวไทย