กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – ย้อนกลับไปดูที่มาที่ไปคดี “ฮั้วประมูลโรงพักทดแทน” เริ่มเป็นคดีความตั้งแต่ปี 2555 จนเป็นข่าวดัง เรียกกันว่า “คดีโรงพักร้าง” โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นผู้อนุมัติโครงการดังกล่าวในปี 2552 ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
ผู้ที่เปิดฉากเรื่องนี้ น่าจะเป็นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทยในขณะนั้น ที่ได้นำประเด็นนี้เข้าสู่การอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ในปี 2555 อภิปรายอย่างเผ็ดร้อนถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ ซึ่งขณะนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และได้ส่งเรื่องให้ดีเอสไอรวบรวมหลักฐาน ก่อนส่งต่อ ป.ป.ช. สอบสวน
ประเด็นข้อสงสัย คือ เริ่มโครงการเดือนมีนาคม 2554 แต่ผ่านไปเกือบ 2 ปี ใกล้จะสิ้นสุดสัญญาปี 2556 ปรากฏว่า การก่อสร้างไม่คืบหน้า ผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้ตำรวจหลายโรงพักต้องไปเช่าที่อื่นเป็นสถานที่ทำงาน บางที่ถูกทิ้งร้างไปเลย บางที่เหลือแค่โครงสร้าง มีแค่เสา
การขุดคุ้ยเริ่มขึ้น และพบว่า สัญญาก่อสร้างทั้ง 396 แห่ง มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ จากเดิมจัดจ้างเป็นรายภาค ได้เปลี่ยนเป็นการจ้างรวมกันจากส่วนกลางในครั้งเดียว จนทำให้มีการกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทรับเหมา
ดีเอสไอเริ่มสอบสวนเรื่องนี้ในปี 2555 โดยขณะนั้นมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดี และมีการส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีต่อในปี 2558 ซึ่งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่นายอภิสิทธิ์ ไม่มีความผิด เพราะไม่พบพยานหลักฐานว่าเป็นผู้อนุมัติสั่งการ
ต่อมาปี 2561 ป.ป.ช. แถลงคดีมีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 80 และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพ พร้อมพวก ทุจริตการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง
คดีเงียบหายไปหลายปี จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้ว (30 พ.ย.64) นายสุเทพ เดินทางไปรายงานตัวที่ศาลฎีกาแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และได้รับการประกันตัว และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลนัดพิจารณานัดแรก และได้อ่านอธิบายคำฟ้องพร้อมสอบคำให้การ จำเลยทั้ง 6 ให้การปฏิเสธ ศาลจึงกำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์และจำเลย จนแล้วเสร็จ จึงนัดคู่ความฟังคำพิพากษาในวันนี้ (20 ก.ย.65) และที่สุดศาลได้ตัดสินยกฟ้องนายสุเทพ และพวก พ้นผิดในคดีนี้. – สำนักข่าวไทย
