“หญิงหน่อย”ลั่นถ้าเป็นผู้นำรัฐบาลอยู่แค่สมัยเดียว

โรงแรมเวสติน อโศก 16 ก.ย.- “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่นถ้าได้เป็นผู้นำรัฐบาลขออยู่แค่สมัยเดียว ประกาศจบยุคการเมืองสองขั้ว ยันไม่เป็นศัตรูกับใคร ชี้ต้องคืนอำนาจการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ  พรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวปลดล็อกความขัดแย้งกับพรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าทำงานการเมืองมาจะครบ 31 ปี ในเดือนมีนาคม 2566 ไม่เคยเห็นสมัยไหนที่คนจะทุกข์ยากเหมือนตอนนี้ แม้ตั้งใจเกษียณอายุทางการเมืองตอนอายุ 60 แต่พอเห็นความทุกข์ประชาชนก็ไม่อยากเอาสบายใส่ตัว แล้วปล่อยคนอื่นทุกข์ จึงตัดสินใจร่วมกันตั้งพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้ขออาสาเป็นแนวหน้าที่จะรวมตัวกันเพื่อเปลี่ยนประเทศ ยืนยันไม่หวังมีตำแหน่งอะไรแล้ว ขออาสามาทำงานชิ้นสุดท้าย สร้างพรรคคนตัวเล็กที่คนส่วนใหญ่เป็นเจ้าของที่แท้จริงมาเปลี่ยนประเทศให้สำเร็จ แม้ไม่ต้องการตำแหน่ง แต่ที่ต้องมารำเชิดหน้ากลองยาวเพราะคนตัวเล็กที่มารวมกันยังไม่มีพลังเพียงพอ จึงอาสารำเชิดหน้ากลองยาวก่อน เป็นเสาเข็มที่เชื่อว่าประเทศไทย ดึงคนเก่งคนดีเข้ามาเปลี่ยนประเทศให้ดีขึ้น วันนี้ทำงานชิ้นสุดท้ายเพื่อคนรุ่นต่อไป

“ขอย้ำว่าไม่ต้องการตำแหน่ง แต่ถ้าเราช่วยกันจนสำเร็จแล้วต้องไปทำงานเป็นผู้นำรัฐบาล  ก็ขอทำแค่สมัยเดียว ไม่ต้องให้ใครมาตีความ ขอทำเพื่อวางรากฐานให้พรรคไทยสร้างไทย และประเทศเพียงแค่สมัยเดียว วันนี้ทุกคนต้องละความเห็นแก่ตัวมุ่งไปทางเดียวกันเพื่อสร้างประเทศให้ดีขึ้น ปัญหาใหญ่ที่ต้องปลดล็อก คือความขัดแย้งทางการเมืองถ้าปลดล็อกตัวนี้ไม่ได้ ก็ไม่มีทางนับหนึ่งเดินหน้าประเทศไทย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ  สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้คนไทย ไม่ใช่เพิ่มวิกฤติ วันนี้การเมืองสองขั้วใหญ่ที่มุ่งแต่มองผลประโยชน์ตัวเอง ประเทศเดินต่อไม่ได้ การเมืองสองขั้ว แข่งกันเข้าสู่อำนาจ ประเทศจะเดินต่ออย่างไร เพราะถ้าเลือกฝ่ายหนึ่งก็ติดหล่ม เลือกอีกฝ่ายก็ติดล็อก เป็นมาอย่างนี้มา 16 ปี ขอให้จบที่ยุคนี้ พอแล้วการทะเลาะเบาะแว้งกัน ยืนยันไม่มองใครเป็นศัตรู

“วันนี้กำลังแข่งกับตัวเองให้ประชาชนฝากความหวังได้ ให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะนำพาประเทศให้เดินหน้าต่อได้  ก้มหน้าทำข้อสอบไม่ทะเลาะกับใคร เราทะเลาะมามากพอแล้ว ตั้งหน้าทำข้อสอบพิสูจน์ตัวเองให้ดีที่สุด ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง และต้องไม่เป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ต้องไม่สร้างวาทะกรรมให้คนเกลียดกัน เรายึดหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อต้านการรัฐประหาร รับฟังความเห็นต่างอย่างมีเหตุผล คือจุดยืนของเราไม่แย่งผลประโยชน์กับใคร เราจะปลดล็อกประเทศเริ่มจากปลดล็อกความขัดแย้งของบ้านเมือง เมื่อปลดล็อกแล้วเราจะพูดว่าหารายได้จากไหน ไม่ใช่ประชารัฐประชานิยม แล้วจะพูดการดูแลคุณภาพชีวิตต้องแต่เกิดจนแก่ สร้างโอกาสให้คนส่วนใหญ่ ไม่ใช่สร้างวิกฤติ และต้องจบยุคการเมืองสองขั้วเราคือความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สิ่งที่จะปลดล็อกความขัดแย้ง ทางการเมือง 16 ปีที่ผ่านมา ประการแรกต้อง คืนอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประชาชน คืนอำนาจการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้กับประชาชน ซึ่งได้ร่างกฎหมายดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ใช่การแก้ทั้งฉบับ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคย วินิจฉัยไว้ โดยจะไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 


“ที่สำคัญจะระบุไว้ในร่างแก้ไข ว่าการรัฐประหาร ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง การฉีกรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นกบฏ ต้องได้รับโทษสูงสุด และต่อไปนี้ประเทศไทยไม่ควรมีการรัฐประหารอีก  และต้องยุติปัญหาความขัดแย้งด้วย การให้พรรคการเมืองรับฟังความเห็นต่างด้วยเหตุผล ไม่สร้างความเกลียดชังเพิ่ม  ไม่ใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน ในการเลือกตั้ง ที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมและนำไปสู่ความขัดแย้งอีก” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ประกาศเป็นศัตรูกับพรรคที่อ้าง เป็นพรรคพี่พรรคน้อง แต่ไม่ได้ระบุว่าชื่อพรรคอะไร แต่สังคมมองกันว่าหมายถึงพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากกล้าประกาศเป็นศัตรู ก็ควรต้องระบุว่าเป็นพรรคไหน  ส่วนที่สื่อถามว่า มีบางคนตีความว่าเป็นพรรคไทยสร้างไทยนั้น หากเป็นเช่นนั้นจริง เราไม่มุ่งทะเลาะกับใคร เราก้าวข้ามเข้าไปนานแล้ว และอโหสิกรรมไปแล้ว วันนี้อยากให้คิดบนโลกความเป็นจริง หากเราไปอ้างเขา แล้วเรามาสร้างพรรคใหม่เช่นนี้ใครจะเลือกเรา วันนี้ปัญหาของเราคือให้คนรู้ว่า สุดารัตน์มาสร้างพรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นทางรอดและทางออกของประเทศ เราไม่ติดกับอดีต เราก้าวข้ามมาแล้ว ยืนยันไม่เป็นศัตรูกับใคร ถ้าเขาคิดเป็นศัตรูกับเรา ก็แล้วแต่เขา แต่เราไม่มองใครเป็นศัตรูโดยเฉพาะฝั่งประชาธิปไตยเหมือนกัน แค่นี้ยังไม่ชนะปืน  ชนะเผด็จการเลย แล้วยังตีกันอีก เพื่อให้เผด็จการอยู่ต่อก็เชิญ คิดไปฝั่งเดียว เราไม่คิดอย่างนั้นแน่นอน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]