“หญิงหน่อย”ลั่นถ้าเป็นผู้นำรัฐบาลอยู่แค่สมัยเดียว

โรงแรมเวสติน อโศก 16 ก.ย.- “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่นถ้าได้เป็นผู้นำรัฐบาลขออยู่แค่สมัยเดียว ประกาศจบยุคการเมืองสองขั้ว ยันไม่เป็นศัตรูกับใคร ชี้ต้องคืนอำนาจการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ  พรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวปลดล็อกความขัดแย้งกับพรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าทำงานการเมืองมาจะครบ 31 ปี ในเดือนมีนาคม 2566 ไม่เคยเห็นสมัยไหนที่คนจะทุกข์ยากเหมือนตอนนี้ แม้ตั้งใจเกษียณอายุทางการเมืองตอนอายุ 60 แต่พอเห็นความทุกข์ประชาชนก็ไม่อยากเอาสบายใส่ตัว แล้วปล่อยคนอื่นทุกข์ จึงตัดสินใจร่วมกันตั้งพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้ขออาสาเป็นแนวหน้าที่จะรวมตัวกันเพื่อเปลี่ยนประเทศ ยืนยันไม่หวังมีตำแหน่งอะไรแล้ว ขออาสามาทำงานชิ้นสุดท้าย สร้างพรรคคนตัวเล็กที่คนส่วนใหญ่เป็นเจ้าของที่แท้จริงมาเปลี่ยนประเทศให้สำเร็จ แม้ไม่ต้องการตำแหน่ง แต่ที่ต้องมารำเชิดหน้ากลองยาวเพราะคนตัวเล็กที่มารวมกันยังไม่มีพลังเพียงพอ จึงอาสารำเชิดหน้ากลองยาวก่อน เป็นเสาเข็มที่เชื่อว่าประเทศไทย ดึงคนเก่งคนดีเข้ามาเปลี่ยนประเทศให้ดีขึ้น วันนี้ทำงานชิ้นสุดท้ายเพื่อคนรุ่นต่อไป

“ขอย้ำว่าไม่ต้องการตำแหน่ง แต่ถ้าเราช่วยกันจนสำเร็จแล้วต้องไปทำงานเป็นผู้นำรัฐบาล  ก็ขอทำแค่สมัยเดียว ไม่ต้องให้ใครมาตีความ ขอทำเพื่อวางรากฐานให้พรรคไทยสร้างไทย และประเทศเพียงแค่สมัยเดียว วันนี้ทุกคนต้องละความเห็นแก่ตัวมุ่งไปทางเดียวกันเพื่อสร้างประเทศให้ดีขึ้น ปัญหาใหญ่ที่ต้องปลดล็อก คือความขัดแย้งทางการเมืองถ้าปลดล็อกตัวนี้ไม่ได้ ก็ไม่มีทางนับหนึ่งเดินหน้าประเทศไทย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ  สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้คนไทย ไม่ใช่เพิ่มวิกฤติ วันนี้การเมืองสองขั้วใหญ่ที่มุ่งแต่มองผลประโยชน์ตัวเอง ประเทศเดินต่อไม่ได้ การเมืองสองขั้ว แข่งกันเข้าสู่อำนาจ ประเทศจะเดินต่ออย่างไร เพราะถ้าเลือกฝ่ายหนึ่งก็ติดหล่ม เลือกอีกฝ่ายก็ติดล็อก เป็นมาอย่างนี้มา 16 ปี ขอให้จบที่ยุคนี้ พอแล้วการทะเลาะเบาะแว้งกัน ยืนยันไม่มองใครเป็นศัตรู

“วันนี้กำลังแข่งกับตัวเองให้ประชาชนฝากความหวังได้ ให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะนำพาประเทศให้เดินหน้าต่อได้  ก้มหน้าทำข้อสอบไม่ทะเลาะกับใคร เราทะเลาะมามากพอแล้ว ตั้งหน้าทำข้อสอบพิสูจน์ตัวเองให้ดีที่สุด ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง และต้องไม่เป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ต้องไม่สร้างวาทะกรรมให้คนเกลียดกัน เรายึดหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อต้านการรัฐประหาร รับฟังความเห็นต่างอย่างมีเหตุผล คือจุดยืนของเราไม่แย่งผลประโยชน์กับใคร เราจะปลดล็อกประเทศเริ่มจากปลดล็อกความขัดแย้งของบ้านเมือง เมื่อปลดล็อกแล้วเราจะพูดว่าหารายได้จากไหน ไม่ใช่ประชารัฐประชานิยม แล้วจะพูดการดูแลคุณภาพชีวิตต้องแต่เกิดจนแก่ สร้างโอกาสให้คนส่วนใหญ่ ไม่ใช่สร้างวิกฤติ และต้องจบยุคการเมืองสองขั้วเราคือความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สิ่งที่จะปลดล็อกความขัดแย้ง ทางการเมือง 16 ปีที่ผ่านมา ประการแรกต้อง คืนอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประชาชน คืนอำนาจการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้กับประชาชน ซึ่งได้ร่างกฎหมายดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ใช่การแก้ทั้งฉบับ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคย วินิจฉัยไว้ โดยจะไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 


“ที่สำคัญจะระบุไว้ในร่างแก้ไข ว่าการรัฐประหาร ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง การฉีกรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นกบฏ ต้องได้รับโทษสูงสุด และต่อไปนี้ประเทศไทยไม่ควรมีการรัฐประหารอีก  และต้องยุติปัญหาความขัดแย้งด้วย การให้พรรคการเมืองรับฟังความเห็นต่างด้วยเหตุผล ไม่สร้างความเกลียดชังเพิ่ม  ไม่ใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน ในการเลือกตั้ง ที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมและนำไปสู่ความขัดแย้งอีก” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ประกาศเป็นศัตรูกับพรรคที่อ้าง เป็นพรรคพี่พรรคน้อง แต่ไม่ได้ระบุว่าชื่อพรรคอะไร แต่สังคมมองกันว่าหมายถึงพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากกล้าประกาศเป็นศัตรู ก็ควรต้องระบุว่าเป็นพรรคไหน  ส่วนที่สื่อถามว่า มีบางคนตีความว่าเป็นพรรคไทยสร้างไทยนั้น หากเป็นเช่นนั้นจริง เราไม่มุ่งทะเลาะกับใคร เราก้าวข้ามเข้าไปนานแล้ว และอโหสิกรรมไปแล้ว วันนี้อยากให้คิดบนโลกความเป็นจริง หากเราไปอ้างเขา แล้วเรามาสร้างพรรคใหม่เช่นนี้ใครจะเลือกเรา วันนี้ปัญหาของเราคือให้คนรู้ว่า สุดารัตน์มาสร้างพรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นทางรอดและทางออกของประเทศ เราไม่ติดกับอดีต เราก้าวข้ามมาแล้ว ยืนยันไม่เป็นศัตรูกับใคร ถ้าเขาคิดเป็นศัตรูกับเรา ก็แล้วแต่เขา แต่เราไม่มองใครเป็นศัตรูโดยเฉพาะฝั่งประชาธิปไตยเหมือนกัน แค่นี้ยังไม่ชนะปืน  ชนะเผด็จการเลย แล้วยังตีกันอีก เพื่อให้เผด็จการอยู่ต่อก็เชิญ คิดไปฝั่งเดียว เราไม่คิดอย่างนั้นแน่นอน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]