กกต.เปิดงบการเงินพรรคการเมืองปี 63 ภท.สูงสุด 89 ล้าน

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – กกต.เปิดงบการเงินพรรคการเมือง ปี 63 “ภูมิใจไทย” สินทรัพย์สูงสุด 89 ล้าน เก็บเงินสด 87 ล้าน “พลังประชารัฐ” สินทรัพย์ 59 ล้าน และ “เพื่อไทย” 33.6 ล้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เผยแพร่บัญชีงบการเงินของพรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ. 2563 รวม 63 พรรคการเมือง โดยพรรคการเมืองขนาดใหญ่ 5 อันดับแรก คือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิกพรรค แจ้งงบแสดงฐานะการเงินประจำปี 2563 ระบุว่า มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 59,697,997 บาท โดยจำนวนนี้เป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 59,446,682 บาท มีหนี้สิน 19,065,967 บาท มีรายได้รวม 64,445,633 บาท ได้แก่ รายได้ค่าบำรุงพรรคการเมือง 1,690,550 บาท รายได้จากการอุดหนุนของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 13,570,414 บาท รายได้จากการบริจาค 49,051,750 บาท รายได้ดอกเบี้ยรับ 132,191 บาท มีรายจ่ายรวม 13,783,347 บาท เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการของพรรคการเมือง 19,914,103 บาท ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและสมาชิก 800,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมือง 29,948,183 บาท

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค และนางนาที รัชกิจประการ เป็นเหรัญญิกพรรค แจ้งงบแสดงฐานะการเงินประจำปี 2563 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวม 89,908,356 บาท (มากกว่าปี 2562 ที่มีสินทรัพย์รวม 14,622,428 บาท กว่า 75.2 ล้านบาท) โดยในจำนวนนี้เป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 87,825,079 บาท ทั้งนี้ ในส่วนของหนี้สินพรรคภูมิใจไทย จำนวน 52,868,354 บาท มีเงินทดรองจ่ายกรรมการ 30,164,287 บาท โดยระบุในหมายเหตุงบการเงินว่า เงินทดรองจ่ายดังกล่าว กรรมการมาใช้หมุนเวียนกิจการงานในพรรค ในการบริหารงานของพรรค ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค ค่าจ้างบุคลากร ซึ่งเป็นการยกยอดมาจากปี 2562 โดยแจ้งว่า มีรายได้รวม 103,143,908 บาท จำนวนนี้เป็นรายได้ค่าบำรุงสมาชิกพรรค 77,174,500 บาท รายรับเงินบริจาค 24,884,289 บาท มีรายจ่ายรวม 76,700,958 บาท


พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เป็นเหรัญญิกพรรค แจ้งงบแสดงฐานะการเงินประจำปี 2563 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวม 56,703,722 บาท (มากกว่าปี 2562 ที่แจ้ง 28,085,246 บาท กว่า 28.6 ล้านบาท) ในจำนวนนี้มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 45,599,955 บาท มีหนี้สินรวม 5,713,116 บาท มีรายได้รวม 74,665,811 บาท จำนวนนี้เป็นรายได้เงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 37,332,493 บาท รายได้จากการบริจาค 29,346,500 บาท มีค่าใช้จ่าย 46,744,102 บาท เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินกิจการของพรรค 13,766,785 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรค 32,967,316 บาท ในจำนวนค่าใช้จ่ายดังกล่าว มีค่าใช้จ่ายเพื่อฝึกอบรมแนะนำเครือข่าย ส.ส. 345,000 บาท ค่าใช้จ่ายอบรมแกนนำเครือข่ายประจำเขตเลือกตั้ง 6,994,740 บาท ค่าใช้จ่ายบริหารจัดการองค์กรสาขาพรรคและตัวแทน 504,000 บาท รวมถึงมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการฝึกอบรม พัฒนาเครือข่ายต่างๆ หลายรายการด้วยกัน รวมวงเงินไม่ต่ำกว่า 13.7 ล้านบาท

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ที่มีนายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรค นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค แจ้งงบแสดงฐานะการเงินประจำปี 2563 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวม 33,675,442 บาท เป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 31,534,811 บาท มีหนี้สิน 20,314,209 บาท ในจำนวนนี้มีเงินทดรองจ่ายกรรมการ 13 ล้านบาท ระบุในหมายเหตุงบการเงินว่า เป็นเงินที่กรรมการนำมาสำรองจ่ายเพื่อใช้จ่ายในการบริหารสำนักงานใหญ่พรรค และสาขาพรรค ในปีที่ผ่านๆ มา เงินสำรองจ่ายดังกล่าวไม่มีการคิดดอกเบี้ย โดยแจ้งว่า มีรายได้รวม 53,931,338 บาท จำนวนนี้เป็นรายรับจากเงินที่ได้จากการรับบริจาค 40.5 ล้านบาท รายรับจากเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 11,355,849 บาท รายจ่ายรวม 20,597,157 บาท ในส่วนของค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุนของกองทุนฯ จำนวน 4,755,919 บาท มีการจัดทำโครงการต่างๆ หลายโครงการ เช่น โครงการประชุม ส.ส. และบุคลากรทางการเมืองประจำสัปดาห์ 1,661,647 บาท โครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม 1,947,066 บาท

พรรคก้าวไกล ที่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เป็นเหรัญญิกพรรค แจ้งงบแสดงฐานะการเงินประจำปี 2563 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวม 3,236,753 บาท โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 2,692,306 บาท มีหนี้สิน 1,700,749 บาท มีรายได้รวม 26,647,319 บาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากรายได้และประโยชน์อื่นใดจากการรับบริจาค 21,647,860 บาท รายได้ค่าบำรุงพรรค 4,256,200 บาท มีรายจ่ายรวม 24,867,843 บาท อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลได้แจ้งข้อมูลต่อ กกต.ว่า เดิมชื่อพรรคผึ้งหลวง และพรรคร่วมพัฒนาชาติไทย ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563 ดังนั้นต้องรอดูรายละเอียดงบการเงินในปี 2564 ต่อไป


นอกจากนี้ยังมีพรรคการเมืองอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น พรรคชาติพัฒนา แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 1,329,554 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 1,216,575 บาท รายได้รวม 9,266,640 บาท รายจ่ายรวม 4,312,618 บาท, พรรคชาติไทยพัฒนา แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 4,072,025 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 833,978 บาท รายได้รวม 7,712,759 บาท รายจ่ายรวม 10,139,116 บาท, พรรคพลังท้องถิ่นไท แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 2,205,021 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 63,697 บาท รายได้รวม 1,761,919 บาท รายจ่ายรวม 2,428,070 บาท, พรรคเสรีรวมไทย แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 22,485,149 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 86,756 บาท รายได้รวม 10,917,144 บาท รายจ่ายรวม 7,832,057 บาท, พรรครวมพลังประชาชาติไทย แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 16,373,585 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 171,265 บาท รายได้รวม 7,365,810 บาท รายจ่ายรวม 5,592,504 บาท และพรรคกล้า แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 1,308,922 บาท หนี้สินหมุนเวียนรวม 50,029 บาท รายได้รวม 4,876,407 บาท รายจ่ายรวม 3,617,513 บาท. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]