อนุมัติให้ความชอบกรณีพิเศษจนท.ปราบยาเสพติด

ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.ย.-ครม.อนุมัติให้พิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประมาณการใช้งบกว่า 80 ล้านบาท


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้พิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ 2565 ไม่เกิน 12,309 อัตรา ซึ่งจะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นจากการเลื่อนเงินเดือนปกติในแต่ละครึ่งปี อัตราร้อยละ 1ของฐานในการคำนวณ แต่เมื่อรวมกับการเลื่อนเงินเดือนปกติจะต้องเกินร้อยละ 6 ของฐานการคำนวณ โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด

“ให้พิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ 2565 ระดับดีเด่น แบ่งเป็น ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง 343,968 อัตรา ปรับเพิ่มไม่เกินร้อยละ 2.5 หรือจะมีจำนวนผู้ที่ได้รับบำเหน็จความชอบไม่เกิน 8,599 อัตรา และผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด มีจำนวน 247,327 อัตรา ปรับเพิ่มไม่เกินร้อยละ 1.5 หรือไม่เกิน 3,710 อัตรา” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว 


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับงบประมาณที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายครั้งนี้ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดเป็นลำดับแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป โดยได้มีการประมาณการค่าใช้จ่ายในการจัดสรรบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษดังกล่าว ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 80.87 ล้านบาท หรือประมาณรายละ 6,570 บาทต่อปี

“รัฐบาลดำเนินการเพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากปัญหายาเสพติดในสังคม เช่น มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยร่วมกับประเทศสมาชิกภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัยเพื่อควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ โดยจับกุมคดียาเสพติดได้ทั้งสิ้น 957 คดี จำนวนผู้ต้องหา 1,617 คน มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย โดยปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดเพื่อไม่ให้ลักลอบนำเข้าสู่ตอนในของไทยหรือใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งสามารถสกัดกั้นยาบ้าได้ทั้งสิ้น 43.85 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,013.69 กิโลกรัม รวมทั้งยึดและอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้ทั้งสิ้น 9,215 ล้านบาท” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง