กระบี่ 5 ก.ย.– “พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่กระบี่ เข้มวางแผนป้องกันน้ำท่วม พัฒนาแหล่งน้ำ อุปโภค บริโภค เพื่อประชาชนอย่างยั่งยืน
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจราชการ และติดตามสถานการณ์น้ำ โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ ซึ่งมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ผู้แทนกรมชลประทาน นำเสนอแผนการดำเนินการโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ และ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. นำเสนอแผนการดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรพื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก. (จ.กระบี่) บ้านสองแพรก หมู่ที่ 9 บ้านหว่างคลองไทย ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก. (จ.กระบี่) บ้านสองแพรก พร้อมพบปะประชาชนที่มารอต้อนรับ
พลเอกประวิตรกล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งอาจเกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก จากที่ได้เล็งเห็นผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ จัดทำแผนเผชิญเหตุรับมือล่วงหน้า หากเกิดเหตุอุทกภัยขึ้น รวมถึงการวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระยะยาว โดยให้ สทนช. กรมชลประทาน จว.กระบี่ ดำเนินการตามแผนรับมือฤดูฝนทั้ง 13 มาตรการอย่างเคร่งครัด และดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 2565
รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กรมชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเร่งก่อสร้างโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับพื้นที่สามารถรองรับกับปริมาณความต้องการ การใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตรในพื้นที่ ได้อย่างเพียงพอ และให้ ส.ป.ก. กระบี่ เร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนได้มีพื้นที่ทำกิน หาเลี้ยงครอบครัว ได้อย่างมั่นคง
ด้าน ดร.สุรสีห์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปี 2561 – 2564 มีการพัฒนาโครงการด้านทรัพยากรน้ำแล้วจำนวน 476 โครงการ รวมความจุ 7.46 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 82,000 ครัวเรือน โดยมีโครงการสำคัญ เช่น ก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขากันตัง-(สิเกา-ปากเมง) จ.ตรัง ระบบบำบัดน้ำเสีย เกาะพีพี จ.กระบี่ ระบบระบายน้ำพื้นที่ชุมชนทุ่งสง ระยะที่ 1 จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังเร่งดำเนินการในโครงการสำคัญอีก 13 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 52 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ป้องกันน้ำท่วม 25,481 ไร่ เช่น ปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาพังงา-ภูเก็ต (ระยะที่ 1-2) จ.ภูเก็ต อ่างเก็บน้ำ คลองช้าง จ.สตูล ระบบระบายน้ำหลักพื้นที่ชุมชนเมืองสตูล ระยะที่ 1 จ.สตูล เป็นต้น – สำนักข่าวไทย