กต.เตือน! ระวังหางานผ่านออนไลน์ไปทำงานต่างประเทศ

กทม. 28 ส.ค.-ก.ต่างประเทศ เตือนคนไทย ระมัดระวังการหางานผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ​ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมการกงสุล และสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ได้รับแจ้งการขอรับความช่วยเหลือกรณี คนไทยถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นกรณีตำแหน่งหน้าที่ รายได้ สวัสดิการที่ไม่ตรงกับที่ประกาศหรือโฆษณาไว้ก่อนเดินทาง รวมทั้งมีการถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย และบีบบังคับให้ทำงานโดยมิได้สมัครใจ และมีหลายรายถูกนายจ้าง หรือผู้ชักชวนเรียกเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับการปล่อยตัว


กระทรวงการต่างประเทศจึงขอแจ้งเตือนผู้ที่ประสงค์ไปทำงานในต่างประเทศ ที่กำลังหางานผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์โดยเฉพาะเฟซบุ๊กและไลน์กลุ่ม ให้พึงระวังและอย่าหลงเชื่อขบวนการหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ ดังนี้

  1. การไปทำงานในเมียนมา
    ​ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครคนไทย เพศหญิง บุคลิกดี ทำงานตำแหน่งพนักงานต้อนรับในสถานบันเทิง โรงแรม หรือคาสิโน มีเงินเดือนสูง พร้อมที่พัก อาหารและสวัสดิการต่าง ๆ โดยนายหน้าคนไทยมักจะนัดแนะให้เหยื่อเดินทางข้ามแม่น้ำสายที่ อ. แม่สาย จ. เชียงราย ซึ่งถือเป็นการหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เมื่อเดินทางถึงเมียนมา จะถูกส่งตัวไปในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกของเมียนมาติดกับชายแดนประเทศจีน (เมืองลา เมืองป๊อก เมืองเล้าไก่ เขตปาซาง และเขตมูเซ) และถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ หากไม่ยินยอมจะถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย หรือส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น หากต้องการกลับไทยต้องนำเงินมาไถ่ตัว ขอเรียนว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังทหารชนกลุ่มน้อย ซึ่งยากต่อการติดต่อและเข้าถึงพื้นที่ และมีความอ่อนไหวทางการเมืองสูง การให้ความช่วยเหลือจึงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและรอบคอบ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีหรือในเวลาอันรวดเร็ว จะสามารถเดินทางกลับไทยได้ก็ต่อเมื่อชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเมียนมาแล้ว และเมื่อเดินทางกลับเข้าไทยอาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทยอีกด้วย
  2. การไปทำงานในกัมพูชา
    ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครงานตำแหน่งแอดมินออนไลน์ หรือเจ้าหน้าที่การตลาด ที่ไม่ต้องมีประสบการณ์การทำงาน รายได้ดี มีที่พัก อาหารและสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อไปทำงานใน จ. พระสีหนุ (สีหนุวิลล์) กรุงพนมเปญ เมืองปอยเปต และ จ. สเวเรียง โดยนายหน้าคนไทยจะนัดแนะให้เหยื่อเดินทางไป จ. สระแก้ว เพื่อเดินเท้าเข้ากัมพูชาตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาในเวลากลางคืน โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางและไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นการหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายและสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากการเหยียบกับระเบิด เมื่อเดินทางถึงกัมพูชา นายจ้างจะบังคับให้ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทย หรือชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ หากทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย หรือไม่ยินยอมทำงาน จะถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย ส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น หรือถูกบังคับให้ต้องนำเงินมาไถ่ตัว ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือกลับไทยไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีหรือในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่กัมพูชามีจำนวนจำกัด และจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของทางการกัมพูชา เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว เหยื่อจะต้องพักรอในสถานกักกันเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและรอการเนรเทศ อาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา และเมื่อเดินทางกลับเข้าไทยอาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทยด้วย
  3. การไปทำงานในฟิลิปปินส์
    ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครงานตำแหน่งต่างๆ อาทิ แอดมินออนไลน์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่การตลาด โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงาน รายได้ดีตั้งแต่ ๒๕,๐๐๐ – ๕๐,๐๐๐ บาท/เดือน พร้อมค่าล่วงเวลา โดยนายจ้างจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมที่พัก อาหาร สวัสดิการต่าง ๆ และจะดำเนินการเรื่องวีซ่าให้เมื่อเดินทางถึงฟิลิปปินส์ เมื่อเหยื่อเดินทางถึงฟิลิปปินส์แล้ว จะถูกบังคับให้เซ็นสัญญาทำงานที่ไม่เป็นธรรม ถูกยึดหนังสือเดินทาง ให้ทำงานหนัก ไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และถูกบังคับให้หาลูกค้ามาเล่นพนันออนไลน์ หรือหลอกให้ลงทุน รวมทั้งชักชวนคนที่รู้จักมาร่วมทำงานเป็นเครือข่าย หากทำงานไม่ได้ตามเป้าหมายหรือไม่ยินยอมทำงาน จะถูกกักขัง ขู่ทำร้าย หรือส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น รวมทั้งถูกบังคับให้ต้องนำเงินจำนวนหลักแสนบาทมาไถ่ตัวเป็นค่าผิดสัญญาการทำงานหรือค่าใช้จ่ายในการพาเหยื่อเดินทางมาฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือกลับไทยไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของทางการฟิลิปปินส์ เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว เหยื่อจะยังไม่สามารถกลับไทยได้เนื่องจากตำรวจต้องการสอบสวนในฐานะเหยื่อหรือพยานคดีการค้ามนุษย์ และอาจต้องเข้ากระบวนการศาลของฟิลิปปินส์

สำหรับผู้ที่สนใจไปทำงานในต่างประเทศ ควรพิจารณาสมัครงานจากประกาศรับสมัครงานของหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ มีการประกาศรับสมัครงานอย่างเป็นทางการ โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัคร ตำแหน่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ รายได้ สวัสดิการ ช่องทางการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ชัดเจน ทั้งนี้ หากต้องการขอรับข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานในต่างประเทศ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ที่หมายเลข ๐ ๒๒๔๗ ๙๔๒๓ ๐ ๒๒๔๘ ๔๗๔๓ หรือสายด่วน ๑๕๐๖ กด ๒ และ ๑๖๙๔ หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง


หากประสบปัญหาในต่างประเทศ ท่านสามารถติดต่อ Call Center กรมการกงสุล หมายเลข ๐๒ ๕๗๒ ๘๔๔๒ ได้ตลอด 24 ชม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

เปิดใจทหารกล้า ภูมิใจได้รับใช้ชาติ

18 ก.ค. – เปิดใจ 3 ทหารกล้าเหยียบระเบิดชายแดนช่องบก ด้าน “พลทหารธนพัฒน์” เล่านาทีเหยียบกับระเบิด ลั่นภูมิใจที่สมัครมารับใช้ชาติแม้ต้องตัดขา 1 ข้าง เผยพร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเข้าเยี่ยมและพุดคุยกับ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้ายจนต้องตัดขา เพื่อรักษาเนื้อเยื่อส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายเอาไว้ พลทหาร ธนพัฒน์ เปิดเผยช่วงที่เกิดเหตุเป็นการลาดตระเวนกลับฐานใกล้กับต้นพญาสัตบรรณ ตนได้เหยียบกับระเบิด เนื่องจากชุดทหารช่างตรวจไม่เจอ เพราะน่าจะเป็นระเบิดพลาสติก ตอนที่เกิดเหตุตนเองมีสติครบ พอเหยียบระเบิดปุ๊บตนเองรู้สึกร้อนเป็นไฟอยู่ที่ขา จากนั้นดูตนเองพบว่าขาขาด เพื่อนทหารก็สลบจากแรงระเบิด ตนจึงเข้าไปปลุกเพื่อนให้ช่วยลากตนออกจากจุดเกิดเหตุ พลทหาร ธนพัฒน์ บอกอีกว่า หลังจากที่เหยียบระเบิดตนเองเห็นขาแล้ว บอกกับตัวเองว่าหมดแล้วอนาคต แต่ก็ไม่เป็นไร ในการมาเป็นทหารครั้งนี้ตนเองสมัครใจมา พร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน.-สำนักข่าวไทย

“เเพทองธาร-บิ๊กเล็ก” บินอุบลฯ เยี่ยมทหารเหยียบกับระเบิด

ขส.ทบ.ดอนเมือง 18 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม​ พร้อมด้วย “แพทองธาร”​ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เยี่ยมให้กำลังใจทหารพราน​เหยียบกับระเบิด​ บาดเจ็บ​ 3 นาย ระบุขอรอผลสอบ 3 วัน​ ยัน​จะไม่หยุดนิ่ง ​หากพบผิดอนุสัญญาออตตาวา​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วยพลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยก่อนเดินทางพลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ วันนี้(18 ก.ค.) กองทัพบกจะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 3 นาย เมื่อนางสาวแพทองธาร ทราบเรื่อ จึงขอร่วมคณะไปด้วย และจะมีการมอบเงินช่วยเหลือในส่วนของนางสาวแพทองธาร​ พลเอกณัฐพล​ ยังกล่าวว่า สำหรับในส่วนของนายทหารที่ขาขาด​ จะได้รับ เงินบำรุงขวัญพระราชทาน​ประมาณ​ 50,000 บาท และเงินช่วยเหลือ​ประมาณ​ 900,000 บาท​ ต่อจากนี้ยังจะพิจารณาบรรจุญาติเข้ารับราชการทหารซึ่งในเบื้องต้นพี่สาวของนายทหารนายดังกล่าว แสดงความประสงค์จะเข้ารับราชการ ส่วนตัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขาขาดจะได้รับเงินดูแลประมาณเดือนละ 15,600 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]