สำนักข่าวไทย 21 ต.ค.- เลปโต เลปโต เลปโต เลปโตเป็นโรคฉี่หนูถ้าใครไม่รู้คิดว่าเป็นหวัด หลายๆคนคงได้ยินเพลงนี้มาบ้าง เราจะมาแนะนำการป้องกันและอาการของโรคเพื่อรับมือและป้องกันในช่วงพายุเข้าฝนตกหนักแบบนี้
สถานการณ์โรคไข้ฉี่หนูในปี 2563 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–4 ตุลาคม 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 1,065 ราย เสียชีวิต 14 ราย โดยพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 45-54 ปี รองลงมาคืออายุ 35-44 ปี และอายุ 55-64 ปี ตามลำดับ ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 41.9 รับจ้าง ร้อยละ 23.1 และนักเรียน ร้อยละ 14.3 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่แล้วเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน แต่ประชาชนก็ยังมีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคไข้ฉี่หนูได้ เนื่องจากช่วงนี้ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
เบื้องต้นควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน เพราะอาจเสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้ฉี่หนูได้ หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบู๊ททุกครั้ง ถ้าไม่ได้สวมรองเท้าบู๊ท เมื่อลุยน้ำเสร็จแล้วต้องรีบล้างมือล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำโดยเร็ว
สำหรับอาการของโรคไข้ฉี่หนูเริ่มจากมีไข้สูงทันที ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะที่น่องและโคนขาจะปวดมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น หากมีอาการที่กล่าวมา ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว อย่าซื้อยามากินเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ที่สำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย แพทย์จะดำเนินการรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อโรคตามอาการ และความรุนแรงของโรค ยิ่งพบแพทย์เร็วยิ่งมีโอกาสหายเร็ว โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เสียชีวิตเกิดจากพบแพทย์ช้าเกินไป จึงต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันทีที่มีอาการ
วิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู ดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำหรือทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกสะอาดที่หาได้ในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ 2.หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ 3.หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาด ไม่มีหนูชุกชุม และ 4.หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ขอบคุณที่มา : กรมควบคุมโรค