ไปไหม..? ไม่ไปไหน.. “Flight to nowhere”

By ภุสพงศ์ ฉายประเสริฐ

เรื่องขำๆ ที่อำกันเล่นในหมู่เพื่อน ว่ามีตั๋วเครื่องบินราคาถูก “กรุงเทพฯ-สุวรรณภูมิ” กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งแนวคิดในการหารายได้มาจุนเจือธุรกิจของการบินไทย นอกเหนือจากการขายปาท่องโก๋และเปิดร้านอาหารครัวการบิน ขณะที่สายการบินต่างชาติที่ต่างกำลังเจ็บหนักจากโควิด-19 ก็พากันเปิดให้บริการ “เที่ยวบินที่ไม่ได้ไปไหน” หรือ “Flight to nowhere” ให้ผู้โดยสาร คนอยากบิน ได้สัมผัสบรรยากาศและชมวิวทิวทัศน์จากมุมมองเหนือน่านฟ้า แล้ววนกลับมาลงที่เดิม ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม


ไต้หวัน-ญี่ปุ่น ออกแนว “ครอบครัวน่ารัก”

สายการบินของไต้หวันเป็นรายแรกๆ ที่เปิดให้บริการ “Flight to nowhere” โดย EVA Air นำเครื่องบิน Airbus A330-300 ที่ตกแต่งทั้งลำด้วยลายการ์ตูน Hello Kitty มาให้บริการเที่ยวบินพิเศษ BR5288 ซึ่งจัดเป็นกิจกรรมฉลองวันพ่อแห่งชาติของไต้หวัน วันที่ 8 สิงหาคม 2563 ในบรรยากาศผสมผสานระหว่างความน่ารักสนุกสนานร่วมกับตัวการ์ตูน Hello Kitty และความเพลิดเพลินในการเดินทาง จากท่าอากาศยานนานาชาติไต้หวันเถาหยวน วนชมวิวทิวทัศน์ตามแนวชายฝั่งของเกาะไต้หวัน รวมถึงเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น แล้วกลับมาลงที่เดิม ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง 45 นาที


Photo : EVA

หลังเปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว EVA Air จึงเปิด Flight to nowhere เที่ยวบินที่สองในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมา

ขณะที่ Tigerair ไต้หวัน พาบินขึ้นจากไทเป วนไปชมวิวเกาะ Jeju ของเกาหลีใต้ เปิดขายตั๋วราคากว่า 6,800 บาท หมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 4 นาที !! โดยราคาตั๋วนี้รวม Voucher อายุ 1 ปีที่ผู้โดยสารสามารถนำกลับมาใช้บินไป-กลับ เส้นทางไทเป-เกาหลีใต้ได้ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

ก่อนหน้านั้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม สนามบินไทเป ซงซาน ร่วมกับ EVA Air และ China Airlines เปิดให้บริการพิเศษที่คล้ายกับ Flight to nowhere แต่เป็นการสัมผัสบรรยากาศแบบ “การบินเสมือนจริง” หรือ “Virtual flight” ตั้งแต่การเช็กอิน ตรวจสอบความปลอดภัย ใช้บริการในห้องรับรอง และขึ้นเครื่องซึ่ง จอดอยู่กับที่ !!??


ทันทีที่มีประกาศออกไป ก็มีคนแห่ลงทะเบียนสนใจจะสัมผัสบรรยากาศการบินแบบปลอมๆ นี้ถึง 7,000 คน แต่มีผู้โชคดีได้รับการสุ่มเลือกรอบแรกเพียง 60 คนเท่านั้น

อีกสายการบินหนึ่งที่เริ่มให้บริการ “Dine and Fly” หรือเที่ยวบินชมวิวบริเวณเกาะบอร์เนียว พร้อมรับประทานอาหารบนเครื่อง ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม คือ Royal Brunei

ขณะที่ All Nippon Airways (ANA) ของญี่ปุ่น เล่นใหญ่ ด้วยการนำเครื่องบินโดยสารใหญ่ที่สุดในโลก Airbus A380 ที่ตกแต่งลำตัวเครื่องด้วยลวดลายสีฟ้าสดใสของเต่าทะเล มาให้บริการ Flight to nowhere ขึ้น-ลงที่สนามบินนาริตะ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา จากในช่วงสถานการณ์ปกติเครื่องบินลำนี้จะใช้บินในเส้นทางนาริตะ-ฮอโนลูลู ฮาวาย โดย ANA ใช้วิธีออกรางวัลแบบลอตเตอรี่ให้ลูกค้าผู้โชคดีจำนวน 334 คน หรือ 64% ของความจุของเครื่องบิน ได้โดยสารไปกับเที่ยวบินพิเศษ “Flying Honu” เที่ยวแรก ซึ่งเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม ในบรรยากาศแบบฮาวายตลอดการเดินทาง 90 นาที

Qantas พาบินชมวิวนาน 7 ชั่วโมง

ทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของแหล่งท่องเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศ เป็นจุดขายที่สายการบิน Qantas ของออสเตรเลีย เปิดเที่ยวบินพิเศษที่เรียกว่า ‘Great Southern Land’ scenic flight เพียงไฟลท์เดียวในวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 ใช้เครื่องบิน Boeing 787 Dreamliner ซึ่งมีช่องหน้าต่างกว้างกว่าเครื่องรุ่นอื่น ทำการบินในระดับเพดานบินต่ำ หรือ Low level flybys เพื่อให้ชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มตา ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง ออกจากนครซิดนีย์ บินข้ามจากรัฐ Queensland, Northern Territory และ New South Wales ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น แนวปะการัง Great Barrier Reef, อุทยานแห่งชาติ Uluru , Kata Tjuta , Byron Bay, อ่าวซิดนีย์, ชายหาด Bondi และกลับมาลงที่เดิม คิดค่าโดยสาร หรือค่าทัวร์เริ่มต้นที่ 787 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 17,600 บาท ราคานี้รวมบริการพิเศษอื่นๆ เช่น มื้อเช้าก่อนขึ้นเครื่อง มื้อกลางวันบนเครื่องที่ปรุงโดยเชฟ Neil Perry กิจกรรมบันเทิงโดยพิธีกรชื่อดัง และการเข้าร่วมประมูลของที่ระลึก ซึ่งจะนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้การกุศล

ผู้โดยสารสนไหม ? เที่ยวบิน “กรุงเทพฯ-สุวรรณภูมิ”

การบินไทยย่อมจะไม่ตกขบวนเที่ยวบินนี้ โดยกำลังยื่นขออนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. เพื่อจัดทัวร์บนน่านฟ้าด้วยเครื่องบิน Airbus A320 ของไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูก พาบินวนไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นคาดว่าอัตราค่าบริการน่าจะอยู่ที่คนละ 5,000 บาท

นอกจากนี้ การบินไทยยังเปิดตัวโครงการ “THAI Flying Experience & Beyond” เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและมีใจรักด้านการบินได้เติมเต็มความฝัน ด้วยการสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้การทำงานต่างๆ ในห้องควบคุมการบิน (Cockpit) จากเครื่องฝึกบินจำลอง (Flight Simulator) รวมทั้งห้องจำลองการบริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน โดยคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ 12,000 บาท สำหรับแพ็กเกจ 30 นาที ใช้บริการได้ 2 คน

สายการบินอื่นในเอเชีย อย่าง Asiana ของเกาหลีใต้ และ Air India ต่างก็มีแผนจะเปิดให้บริการ Flight to nowhere เช่นกัน ขณะที่ Singapore Airlines เคยออกข่าวว่าสนใจจะเปิดเที่ยวบินพิเศษแบบนี้ แต่เปลี่ยนใจยกเลิกแผน โดยอ้างเหตุผลว่า มีเสียงคัดค้านจากกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ว่าจะเป็นการสร้างมลพิษเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

ภาพเครื่องบินโดยสารนับร้อยลำต้องจอดเรียงรายสงบนิ่งอยู่ตามสนามบินต่างๆ สะท้อนถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก สมาคมสายการบินแห่งเอเชียแปซิฟิก (Association of Asia Pacific Airlines) รายงานว่าการเดินทางระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้ลดลงถึง 97% ขณะที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ The International Air Transport Association (IATA) ก็คาดการณ์ว่า อาจต้องใช้อีกถึง 4 ปี หรือถึงปี 2567 กว่าการเดินทางทางอากาศทั่วโลกจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

บรรดาสายการบินจึงมีทางเลือกไม่มากนัก ที่จะต้องพยายามหารายได้เข้าองค์กร ขณะเดียวกันก็ต้องหาทางให้เครื่องบินได้ใช้งาน ให้พนักงานได้มีงานทำ และรักษาใบอนุญาตทำการบินไว้ แม้รายได้ที่เข้ามาจุนเจือเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทาง.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]