จนท.เร่งล่าตัวคนร้ายดักซุ่มยิงผู้ใหญ่บ้านในยะลา บาดเจ็บ

ยะลา 13 ส.ค. – คนร้ายใช้ปืน M16 ลอบยิงผู้ใหญ่บ้าน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา บาดเจ็บ ก่อนหลบหนีออกจากพื้นที่ ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้าย พร้อมส่งปลอกกระสุนตรวจพิสูจน์หาความเชื่อมโยงว่าเคยใช้ก่อเหตุในคดีใดหรือไม่ เจ้าหน้าที่เร่งแกะรอยตรวจสอบปลอกกระสุน เหตุคนร้ายใช้ปืน M16 ติดลำกล้อง ซุ่มยิง “ผู้ใหญ่มะ” เจ้าของแผงทุเรียน ใน จ.ยะลา บาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงนายอาหามะ หรือ ผู้ใหญ่มะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านภักดี 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา และเจ้าของแผงรับซื้อทุเรียน เหตุเกิดที่แผงรับซื้อทุเรียน บ้านกูแบปุโรง ต.บันนังสาเรง อ.เมืองยะลา เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดยะลา เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พบปลอกกระสุนปืน M16 จำนวน 2 ปลอก ตกอยู่บนพื้นหญ้า เป็นปืน M16 ติดลำกล้อง หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีออกจากพื้นที่ ขณะนี้กำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย […]

“เท้ง” ซัดงบฯ 69 วาระ 2 และ 3 รัฐบาลคิดไม่ลึก-ไม่รอบคอบ

รัฐสภา 13 ส.ค.- “เท้ง” ซัด งบฯ 69 วาระ 2 และ 3 รัฐบาลคิดไม่ลึก-ไม่รอบคอบ ชี้ งบ 1 ใน 3 หมดไปกับสร้างตึก ตัดถนนขุดคลอง ไม่ขัดกระจายงบฯ ลง อปท. แต่ไม่อยากเห็นแลกผลประโยชน์ตอบแทน เหตุใกล้เลือกตั้ง ด้าน “ศิริกัญญา” เชื่อ รัฐบาลมีแผนสำรองรับมือภาษีทรัมป์ เหตุ ไม่ของบสำรอง บอกทางออกเดียว ออก พ.ร.บ.เงินกู้-ขยายเพดานหนี้สาธารณะ รับมือสงครามการค้าปี 69 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วาระ 2 และ 3 ภายหลังจากการที่กรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ ว่า สิ่งที่รัฐบาลเตรียมมาเป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดไม่รอบคอบและไม่ลึก เพราะขาดความรอบคอบ การที่กรรมาธิการปรับลดงบประมาณ 8.9 พันล้านบาท แต่รัฐบาลกับแปรญัตติให้มีงบประมาณในรายจ่ายประจำ เช่น […]

“เท้ง” โยนถามนายกฯ ปมกระแสชิงลาออกก่อนศาล รธน. วินิจฉัย

รัฐสภา 13 ส.ค.- “เท้ง” มองกระแสนายกฯ ชิงลาออกก่อนศาล รธน. วินิจฉัย ต้องถามเจ้าตัว ชี้ ยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ เชื่อ มีความพยายามพยุงรัฐบาลแบบนี้ไปก่อน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวการชิงลาออกของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดี กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซ็น ว่า การตัดสินใจจะลาออกหรือไม่ลาออก ต้องถามที่ตัวของนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวตอบแทนไม่ได้ ส่วนแนวทางคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรนั้น ก็คงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องรอติดตามสถานการณ์กันต่อไป ส่วนมีการประเมินไว้หรือไม่ว่าหลังจากผ่านการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จะมีการยุบสภา หรือนายกรัฐมนตรีชิงลาออก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตัดสินใจจะยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่ทางรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หากประเมินตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนตัวเชื่อว่าอาจมีการพยายามพยุงรัฐบาลแบบนี้ไปก่อน แต่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล.-315 -สำนักข่าวไทย

มทภ.4 บินสำรวจแนวชายแดนนราธิวาส หลังพบความเคลื่อนไหวขนอาวุธ

13 ส.ค. – แม่ทัพภาค 4 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจแนวป่าชายแดน จ.นราธิวาส หลังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงขนอาวุธจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ชายแดนไทย พร้อมเร่งประชุมวางแผนสกัดกั้นเข้ม พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขึ้นบินลาดตระเวนทางอากาศเหนือพื้นที่ป่าเขา แนวชายแดน จ.นราธิวาส ร่วมกับฝ่ายอำนวยการของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง หลังได้รับรายงานและปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ลักลอบขนย้ายอาวุธและกระสุนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ชายแดนไทย การบินสำรวจในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อประเมินเส้นทางลำเลียง การซ่อนเร้น และจุดเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนอาวุธ พร้อมตรวจสอบความหนาแน่นของพื้นที่ป่า การตั้งฐานที่มั่นของหน่วยลาดตระเวน และความพร้อมของจุดตรวจชายแดน จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ร่วมประชุมเร่งด่วนกับชุดควบคุมสุริโยทัย และหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นในพื้นที่สำคัญ เน้นการปิดเส้นทางลำเลียง การเพิ่มกำลังลาดตระเวนภาคพื้นดินทั้งกลางวันและกลางคืน และการทำงานประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำว่าการควบคุมพื้นที่ชายแดนในสถานการณ์ปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง และใช้ข้อมูลข่าวกรองเป็นตัวขับเคลื่อนแผนปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีโอกาสเสริมศักยภาพด้วยอาวุธหรือยุทโธปกรณ์ใดๆ ได้ โดยเน้นเป้าหมายหลักเพื่อประเมินเส้นทางลำเลียง การซ่อนเร้น และจุดเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนอาวุธ.-สำนักข่าวไทย

“อนุดิษฐ์” จี้เร่งฟ้อง ICC เอาผิดกัมพูชาลอบวางระเบิด

กล้าธรรม 13 ส.ค.- “อนุดิษฐ์” จี้รัฐบาลเร่งฟ้อง ICC เอาผิด “กัมพูชา” ลอบวางระเบิดทำทหารไทยสูญเสียขาแล้ว 5 นาย มั่นใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม(กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ตั้งแต่เดือน ก.ค.68 จนถึงวันนี้ ทหารไทยสูญเสียขาไปแล้วถึง 5 นาย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างที่จะระบุได้ชัดเจน ว่า ประเทศไทยเราไม่ได้เป็นคนวางกับระเบิดไว้แน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะมีทหารเขมรไปเหยียบเลยสักคน โดยกัมพูชาจะดูตามพื้นที่ที่เราลาดตระเวน และอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีทหารปฏิบัติภารกิจ แอบเข้ามาวางกับระเบิดไว้ เลยทําให้ทหารไทยหยียบกับระเบิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “รัฐบาลต้องเร่งดําเนินการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟ้องร้องต่อนานาชาติ เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน และสามารถที่จะเอาเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ผมเชื่อว่า รัฐบาลและกองทัพคงจะมองประเด็นนี้อยู่ และก็ไม่น่าจะละเลย อย่างไรก็ตามควรสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาพยายามจะใช้โดรนมาเพื่อสกัดกั้นการวิ่งขึ้นของเครื่องบินเอฟ16 ในกรณีที่อาจจะมีการสู้รบกันในอนาคตนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ข้อมูลตรงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะว่าความเร็วของเครื่องบินรบอย่างเอฟ 16 คงไม่มีใครสามารถบังคับให้โดรนมาเจอกันได้ทั้งตอนออกตัว หรือจะอยู่กลางอากาศก็ตาม […]

ต่างชาติเชื่อมั่นไทย ครึ่งปีแรกของปี 68 ลงทุนในไทย 502 ราย

ทำเนียบ 13 ส.ค.- ไทยยังน่าลงทุน หลังพบต่างชาติเชื่อมั่นไทย ครึ่งปีแรกของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) ลงทุนในไทย 502 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 111,506 ล้านบาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ในครึ่งปีแรกของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 502 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 111,506 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 123 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 379 ราย ทั้งนี้ การอนุญาตฯ ในครึ่งปีแรกของปี 2568 มีจำนวนเพิ่มขึ้นจำนวน 117 ราย (30%) เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2567 และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 30,019 ล้านบาท (37%) […]

รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจปมทุ่นระเบิด ร้องประชาคมโลกกดดันกัมพูชา

13 ส.ค.- รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจกรณีกัมพูชาใช้กับระเบิดต่อทหารไทยอย่างไร้มนุษยธรรม พร้อมร้องประชาคมโลกกดดันกัมพูชาให้ถึงที่สุด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจและห่วงใยอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่พี่น้องทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของฝ่ายกัมพูชา ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในเขตแดนไทย เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา และเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม นายจิรายุ กล่าวว่า พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลและเยียวยากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บทุกนายอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับการรักษาและสวัสดิการอย่างสมเกียรติและเหมาะสม พร้อมย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์นี้ และจะดำเนินมาตรการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของแผ่นดินไทย นอกจากนี้ รัฐบาลขอเรียกร้องต่อประชาคมโลกให้ร่วมกันกดดันรัฐบาลกัมพูชา เพื่อเร่งรัดความร่วมมือในการเก็บกู้กับระเบิดโดยทันที และขอให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาทบทวนการให้ความช่วยเหลือที่ไม่ก่อให้เกิดผลรูปธรรม พร้อมพิจารณามาตรการอื่นที่จำเป็นเพื่อยุติการสูญเสียครั้งใหม่จากการกระทำที่ไร้ความปรานี -สำนักข่าวไทย

หยุดยาววันแม่ ท่องเที่ยวคึกคัก สร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ

ทำเนียบ 13 ส.ค.- ท่องเที่ยวในประเทศคึกคัก ช่วงวันแม่ 9-12 ส.ค. 68 สร้างรายได้กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในช่วงวันหยุดยาววันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศมีความคึกคัก โดยมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศกว่า 3.16 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศรวม 13,750 ล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 66% เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยราว 41% สำหรับการเดินทางภายในประเทศ ภาคกลางครองอันดับหนึ่งของภูมิภาคที่มีจำนวนคนเดินทางมากที่สุดอยู่ที่ 898,000 คน-ครั้ง ตามด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 609,600 คน-ครั้ง และภาคตะวันออก 600,500 คน-ครั้ง ขณะที่กรุงเทพมหานครครองแชมป์จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 3,410 ล้านบาท ตามด้วยภาคใต้ 2,790 ล้านบาท และภาคตะวันออก 2,620 ล้านบาท เมืองท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ […]

7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดคืน “ไม่มีการปะทะ”

ทำเนียบ 13 ส.ค.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเช้าวันนี้ “ไม่มีการปะทะ” วันนี้ (13 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 จนถึงเช้าวันนี้ (วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา07.00 น.) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีการปะทะ      โดยกองทัพไทย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นอย่างแข็งขันใน 11 พื้นที่ใน 7 จังหวัด และพร้อมตอบโต้หากถูกรุกล้ำอธิปไตยทันที โดยฝ่ายไทย ยังยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา […]

ชาวศรีสะเกษ เก็บข้าวของพร้อมอพยพรอบ 2 หากปะทะอีก

ศรีสะเกษ 13 ส.ค. – ชาวบ้านศรีสะเกษไม่ประมาท เก็บของใช้ที่จำเป็นใส่รถไว้ หากเกิดเหตุปะทะขึ้นมาอีกพร้อมอพยพรอบ 2 ส่วนที่อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้จรวด BM-21 ลูกที่ 11 ชาวบ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะบริเวณฝั่งเขาพระวิหาร เริ่มเก็บข้าวของ สิ่งของจำเป็นใส่รถไว้ เตรียมพร้อมหากต้องอพยพอีกเป็นครั้งที่ 2 บางส่วนย้ายออกจากพื้นที่ไปก่อนแล้ว เพื่อความสบายใจ ทีมข่าวคุยกับคุณเพ็ง เล่าว่า กังวลว่าอาจจะมีการปะทะอีก ครอบครัวจึงเตรียมพร้อมขนของขึ้นรถ กลัวว่าถ้าเกิดเหตุอีกจะเตรียมตัวไม่ทัน วางแผนว่าคงอพยพไปอยู่บ้านญาติที่อยู่อีกอำเภอ เพราะที่บ้านมีหลานเพิ่งคลอด อายุแค่เดือนกว่าๆ ตอนนี้ลำบากมาก จะอยู่ที่นี่ต่อก็กังวลสถานการณ์ จะไปอยู่ที่อื่นก็ไม่มีเงิน เพราะช่วงนี้ประกอบอาชีพไม่ได้ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินซื้อนมให้หลาน ยอมรับว่าถ้าต้องอพยพอีกก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนใช้กินอยู่ในครอบครัว ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านก็เตรียมตัวอพยพกันออกไปเกือบหมดแล้ว EOD ทำลายระเบิดกลางสวนยาง แค่ 2 ตำบล พบถึง 22 ลูกส่วนที่ จ.สุรินทร์ ชุดอีโอดี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำลายระเบิดชนิด PG7 ที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งตกกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง […]

ทบ.โต้กลับกัมพูชา ย้ำหลักฐานชัด ทุ่น PMN-2 เพิ่งลักลอบติดตั้ง

13 ส.ค.- กองทัพบกโต้กัมพูชาปฏิเสธเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ย้ำมีหลักฐานชัดเป็นทุ่น PMN-2 ที่เพิ่งลักลอบติดตั้ง เรียกร้องยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง–อนุสัญญาออตตาวา จากกรณี พล.ท. มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงปฏิเสธเหตุการณ์ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งส่งผลให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า “ฝ่ายไทยยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชายังคงมีทุ่นระเบิดอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และได้ลักลอบนำมาวางในพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อมุ่งทำร้ายฝ่ายไทย ทั้งที่กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และได้ให้สัตยาบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 แต่กลับนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของฝ่ายไทย พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ในเหตุครั้งนี้เป็นชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่พบในหลายพื้นที่ที่กัมพูชาลักลอบติดตั้งเพื่อทำร้ายกำลังพลไทยมาโดยตลอด ข้ออ้างของกัมพูชาว่าพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีวัตถุระเบิดตกค้างจากสงครามในอดีต เป็นเพียงการปฏิเสธที่ขาดน้ำหนัก เนื่องจากหลักฐานเชิงประจักษ์ในทุกจุดเกิดเหตุชี้ชัดว่า พื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดการเหยียบทุ่นระเบิดจะพบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 อีก 3–5 ลูก ในสภาพที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่อย่างชัดเจน ทั้งที่หากเป็นทุ่นเก่าจากสงครามในอดีต จะเป็นชนิดอื่น ไม่ใช่ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะ ทั้งที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้รับฟังข่าวสาร […]

เซอร์เบียเผชิญภัยแล้งรุนแรงจนปศุสัตว์ล้มตาย

เบลเกรด 13 ส.ค. – หลายพื้นที่ของเซอร์เบียประสบปัญหาภัยแล้งยาวนานและคลื่นความร้อน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ปศุสัตว์จำนวนมากเริ่มล้มตาย พืชผลทางการเกษตรขาดน้ำ ภัยแล้งที่ยาวนานและความร้อนอบอ้าวจากคลื่นความร้อนรุนแรงแผ่ปกคลุมกำลังส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน เกษตรกร สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร ในบริเวณภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเซอร์เบีย หลังพบว่าปศุสัตว์จำนวนมากเริ่มล้มตาย โดยฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำ ไฟป่า และการหยุดชะงักของภาคเกษตรกรรมในพื้นที่ตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ซึ่งรวมถึงมอนเตเนโกร บอสเนีย แอลเบเนีย โคโซโว และนอร์ทมาซิโดเนีย เจ้าของปศุสัตว์ที่นำวัวและม้าไปกินหญ้าที่ภูเขาซูวา พลานินา หรือภูเขาแห้งของเซอร์เบียบอกว่า อากาศร้อนมากทำให้แหล่งน้ำเหือดแห้งเร็วเกินไปในปีนี้ เจ้าของปศุสัตว์อีกคนบอกว่า ไม่มีน้ำสักหยดเดียว สัตว์ที่เลี้ยงไว้เริ่มตายแล้ว วัวและม้ากระหายน้ำประมาณ 1,000 ตัวเดินไปมาอยู่รอบๆ แอ่งน้ำและน้ำพุหลายแห่ง เพื่อดื่มน้ำที่พอหาได้ แม้ว่าจะทั้งสกปรกและแห้งขอด โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าของปศุสัตว์ จึงขับรถบรรทุกน้ำขึ้นไปบนทุ่งหญ้าในเขตภูเขาซูวาพลานินา เติมน้ำในบ่อ และสัญญาว่าจะส่งน้ำมาเพิ่มอีก เมื่อวานนี้ อุณหภูมิในเซอร์เบียอยู่ที่ประมาณ 35 องศาเซลเซียส และเกิดไฟป่าหลายแห่งที่กำลังลุกลาม สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเซอร์เบียพยากรณ์ว่า เซอร์เบียอาจกลับมามีฝนตกเป็นระยะในช่วงปลายเดือนนี้ แต่อาจไม่เพียงพอที่จะเติมน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบ และลำธารเล็ก ๆ ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปศุสัตว์ ขณะที่ข้อมูลพบว่าหลายประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน ฝนทิ้งช่วงมานานกว่า […]

1 6 7 8 9 10 34,393