ไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดข้อเท็จจริงปมพิพาทชายแดน

กทม. 15 มิ.ย. – โฆษกไทยสร้างไทย จี้รัฐเปิดข้อเท็จจริงปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งชี้แจงทูตทุกประเทศ แสดงเหตุผลใช้แนวทาง JBC แก้ไขปัญหากับนานาชาติ ชี้หากปล่อยสถานการณ์เลยเถิด ไทยส่อเสียที่ยืนบนเวทีโลก นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนในระดับนานาชาติ แทนการแถลงข่าวหรือแถลงการณ์ ที่เน้นเพียงการสื่อสารในประเทศ เช่นที่เคยมีมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นคนละสถานการณ์และคนละบริบท พร้อมระบุว่าสถานการณ์มีแนวโน้ม จะบานปลายหากรัฐบาลยังขาดการวางแผนด้านการต่างประเทศอย่างมีระบบและกล้าแสดงท่าทีอย่างชัดเจน โฆษกพรรคไทยสร้างไทยย้ำว่า แถลงการณ์ที่รัฐบาลควรจัดทำจะประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทับซ้อนในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเน้นย้ำในหลักการว่ากัมพูชา รุกล้ำอธิปไตยของไทยจำนวนกี่ครั้ง เข้ามาในพื้นที่ตรงจุดใดบ้าง ตลอดจนการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเหตุผลที่ประเทศไทยไม่สามารถนำกรณีนี้เข้าสู่กลไกของศาลโลกได้ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาคมระหว่างประเทศ ที่กัมพูชา พยายามดึงประชาคมโลกมากดดันไทย นายปริเยศ ยังได้ตั้งคำถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า เหตุใดจึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อประสานกับคณะทูตต่างประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ทั้งที่กองทัพได้ดำเนินการเชิญทูตจากกองทัพต่างชาติมาชี้แจงแล้ว ซึ่งแตกต่างกับการทำงานของฝ่ายการเมืองอย่างมาก อีกทั้งการแถลงการณ์แบบทางการยังไม่มีเนื้อหาสำคัญใดที่อธิบายถึงเหตุผลที่ไทยไม่เลือกใช้กลไกศาลโลกในกรณีนี้เลย โฆษกพรรคยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีควรเร่งประสานการหารือกับประเทศที่แสดงเจตจำนงเข้ามามีบทบาทในประเด็นนี้ ได้แก่ ประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ประเทศจีนที่มีแผนซ้อมรบร่วมกับกัมพูชาก่อนหน้านี้ รวมถึงฝรั่งเศสที่แสดงตัวพร้อมจะเป็นตัวกลางในการเจรจา ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงทิศทางและความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ และเป็นปัญหาของสองประเทศที่สามารถบริหารจัดการได้ในระดับทวิภาคี.-319-สำนักข่าวไทย

“อาสพลธ์” แนะปรับ ครม. ต้องมุ่งแก้ศก.-ปัญหาชาวบ้าน

กทม.15 มิ.ย. – “อาสพลธ์” สส.ภท. ยก “มหิดลโพล” คนอยากให้ปรับครม. “กลาโหม” อันดับ 1 แนะหากปรับต้องมุ่งแก้ศก. -ปัญหาชาวบ้าน เป็นหลักอย่าตามกระแสการเมือง นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สส.ศรีสะเกษพรรคภูมิใจไทย โพสต์ฟสบุ๊คส่วนตัว พร้อมรูปผล มหิดลโพล์ ที่ระบุว่า ประชาชาอยากให้ปรับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มากที่สุด โดยมีเนื้อหาว่า กลับมาบ้าน เจอทั้งพี่น้องประชาชนและทีมงาน สอบถามกันเยอะมากครับเรื่อง “ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี” ขอเล่าให้ฟังตรง ๆ เท่าที่ผมทราบนะครับ ไม่มีวงใน ไม่มีวงลึก โดยข่าวที่ออกทุกวัน บอกว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอาจถูกปรับไปดูแลกระทรวงอื่น แทนกระทรวงมหาดไทย เรื่องนี้ผมได้ยินมาจะครบเดือนแล้วครับ ตอนแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่หลัง ๆ มาเริ่มรู้สึกเฉย ๆ เพราะ…หัวหน้าพรรคชี้แจงกับพวกเรา สส.ว่า “นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เรียกไปพูดคุยหรือหารือเรื่องการปรับ ครม.” พอได้ฟังแบบนี้ ผมก็คิดว่าข่าวที่ออกทุกวันอาจเป็นกระแสจากบางฝ่ายที่อยากให้เกิดขึ้นแต่ยิ่งฟัง ยิ่งไม่เกิดประโยชน์ จึงขอ […]

“อนุทิน” ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้ร้านพลาสติกอุดรฯ

อุดรธานี​ 15 มิ.ย. – “อนุทิน” พร้อมผู้บริหาร มท. ติดตามสถานการณ์พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ร้านพลาสติกอุดรธานี มอบหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งบรรเทาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ร้านจำหน่ายพลาสติกบริเวณถนนรอบเมือง (อุดรธานี-หนองบัวบลำภู) อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายราชันย์ ซุ่นฮั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 68 เวลาประมาณ 21.30 น. เกิดเหตุไฟไหม้ร้านจำหน่ายพลาสติก ตำบลหมากแข้ง ตั้งอยู่บริเวณถนนรอบเมือง (อุดร – หนองบัวลำภู) […]

ผู้ว่าฯ อุบลฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ช่องบก-ตรวจหลุมหลบภัย

อุบลราชธานี 15 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ลงพื้นที่หมู่บ้านโดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ติดตามสถานการณ์ ให้กำลังใจชาวบ้าน และสำรวจหลุมหลบภัยให้พร้อมใช้งาน บรรยากาศเช้าวันนี้ ในพื้นที่ติดกับช่องบก หมู่บ้านโดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสำรวจหลุมหลบภัยเพื่อตรวจสภาพให้พร้อมใช้งานตลอดเวลารวมไปถึงให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ กล่าวว่า เดินทางมาในวันนี้เพื่อตรวจหลุมหลบภัยที่โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม ต.โดมประดิษฐ์ และปรับพื้นที่ให้สามารถใช้งานได้จริง เช่น การปรับสภาพอุโมงค์ด้วยการปูหญ้าเทียม และเดินทางมาให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ รวมถึงพาภาคธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของอุบลราชธานีเดินทางมาดูพื้นที่ว่าเตรียมความพร้อมและพื้นที่ไม่ได้มีความน่ากลัวและยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่วันนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้อำเภอน้ำยืน ซึ่งประชาชนในพื้นที่ยังใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้เหตุการณ์ในพื้นที่ยังปกติ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวเรื่องการยื่นฟ้องต่อศาลโลกของกัมพูชา ในพื้นที่ข้อพิพาท โดย 1 ใน 4 ของพื้นที่ มีช่องบก แต่ชาวบ้านยังดำเนินชีวิตปกติ และบางส่วนให้ข้อมูลว่าจะรอติดตามสรุปผลการประชุม JBC ในช่วงเย็นวันนี้ด้วย.– 716– สำนักข่าวไทย

แว้นกว่า 50 คัน ซิ่งเกี่ยวกันล้ม สาหัส 1 เจ็บ 2

กทม. 15 มิ.ย.- รถจักรยานยนต์กว่า 50 คัน ซิ่งประลองความเร็วบนถนนวิภาวดีฯ ขาเข้า ใกล้สนามบินดอนเมือง เกี่ยวกันล้ม สาหัส 1 คน เจ็บเล็กน้อย 2 คน และยังกระเด็นไปโดนรถเก๋ง-แท็กซี่ เสียหาย รถจักรยานยนต์กว่า 50 คัน ซิ่งประลองความเร็วบนถนนวิภาวดีขาเข้า ใกล้สนามบินดอนเมือง และเกี่ยวกันล้ม ส่งผลให้รถ จยย. กระเด็นไปโดนรถเก๋งกับรถแท็กซี่ ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดระหว่างประตู 3-4 ทางเข้า สนามบินดอนเมือง รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน อยู่ในสภาพพังยับเยิน จากนั้นกลุ่มรถซิ่งที่มาด้วยกัน พากันบิดรถหนีมุ่งหน้าไปยังห้าแยกลาดพร้าว ทิ้งเพื่อนเยาวชน 3 คน นอนกองอยู่กับถนนด้วยความเจ็บปวด เบื้องต้นเป็นเยาวชนชายอายุระหว่าง 15-17 ปี มีอาการสาหัส 1 คน กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลภูมิพลฯ ส่วนอีก 2 คน บาดเจ็บเล็กน้อย.-สำนักข่าวไทย

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

งาน TTM+ 2025 เชียงใหม่ เจรจาธุรกิจทะลุ 13,000 นัดหมาย

ทำเนียบ 15 มิ.ย. – งานส่งเสริมท่องเที่ยว TTM+ 2025 เชียงใหม่ สุดยิ่งใหญ่! ดึงบายเออร์ จาก 53 ประเทศทั่วโลก เจรจาธุรกิจทะลุ 13,000 นัดหมาย คาดรายได้สะพัดกว่า 4,200 ล้านบาท นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลสำเร็จของการจัดงาน Thailand Travel Mart Plus (TTM+) ครั้งที่ 22 ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวแบบ Business to Business (B2B) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ณ อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนับเป็นการจัดงานครั้งที่ 3 ในจังหวัดเชียงใหม่ TTM+ ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อจากต่างประเทศโดยตรง อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมของชาวล้านนาได้อย่างงดงามและน่าประทับใจ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ (Buyer) เข้าร่วมงานจำนวน 406 ราย […]

ปลัด ทส. ปรับมาตรการเชิงรุกดูแลป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับเพิ่มมาตรการดูแลทรัพยากรป่าไม้บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อสั่งการ นายกรัฐมนตรี เสริมทางลำลองแนวชายแดน-ร่วมลาดตระเวนกับทหารป้องกันการรุกป่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเพิ่มมาตรการดูแลทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี หลังลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้กระทรวงทส. ได้หารือกับหน่วยทหารในพื้นที่เกี่ยวกับเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติบริเวณพื้นที่แนวชายแดนจึงร่วมกันกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยเฉพาะการลักลอบตัดไม้ซึ่งพบว่า เกิดขึ้นเป็นระยะ หนึ่งในแนวทางที่หารือร่วมกันคือ การใช้ “ทางลำลอง” ที่มีอยู่แล้วตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะปรับปรุงเส้นทางเพื่อใช้เป็นแนวลาดตระเวนหรือจุดสกัดการกระทำผิดที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมประสานหน่วยทหารให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานร่วมปฏิบัติการและลาดตระเวนร่วมกันเนื่องจากในพื้นที่ป่าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชามีกับระเบิดมาก โดยเจ้าหน้าที่ชุด Smart patrol เคยเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนมาแล้ว ทั้งนี้ในการปรับปรุงเส้นทางลำลองจะไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนสภาพป่า แต่ใช้ทางที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เสริมประสิทธิภาพในการลาดตระเวนและสกัดผู้กระทำผิด รวมถึงเพิ่มความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการเข้าถึงพื้นที่ได้เร็วขึ้น นายจตุพร ย้ำว่า ได้รับฟังข้อเสนอจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งในด้านอุปกรณ์ที่จำเป็น ช่องทางการปฏิบัติงาน และข้อจำกัดต่างๆ พร้อมเสนอให้สนับสนุนในจุดที่ยังขาดแคลน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศบริเวณแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด.-512.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ยันรัฐบาลไม่เคยคิดผลักดันแรงงานต่างด้าวออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-“แพทองธาร” นายกฯ ยันรัฐบาลไม่เคยมีแนวคิดผลักดันแรงงานต่างด้าวออกนอกประเทศ ลั่นเป็นสิทธิหากมีประเทศใดเรียกกลับ-มีงานรองรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ประเทศไทยเปิดรับความหลากหลาย ต้อนรับแรงงานต่างชาติ ให้ความดูแลสวัสดิการแรงงานที่เดินทางเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายตามสิทธิ และยึดหลักสิทธิมนุษยชนตลอดมา รัฐบาลไทยไม่เคยมีแนวคิดผลักดันแรงงานต่างด้าวประเทศใดออกนอกราชอาณาจักร แต่หากมีประเทศที่ออกมาตรการเรียกแรงงานกลับบ้านและมีงานรองรับ ถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่แรงงานแต่ละประเทศจะตัดสินใจ และอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐบาลประเทศนั้น “ดิฉันให้คำมั่นว่าจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นการเมือง และขอเรียกร้องว่า มาตรการระหว่างประเทศใดๆ ที่เกิดขึ้น ต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน เหนือผลประโยชน์ทางการเมืองในประเทศของตน โดยไม่ส่งผลดีต่อสถานการณ์”.-316.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]

นักวิชาการแนะอ่านโพลก่อนปรับ ครม.

กทม.15 มิ.ย.-นักวิชาการแนะอ่านโพลก่อนปรับ ครม. ชี้สะท้อนความต้องการของประชาชนที่สุด​ อยากแก้ปัญหาประชาชน ก็ต้องฟังเสียงประชาชน รองศาสตราจารย์ โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพากล่าวถึงกรณีมหิดลโพลเผยแพร่ผลการสำรวจในประเด็นเรื่องของการปรับ ครม. ซึ่งมีอยู่ 5 กระทรวงที่อยู่ในข่าย ความต้องการของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงพม. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ​ว่า​ ในกระแสข่าวว่ามีความต้องการจากพรรคเพื่อไทยในการปรับ ครม.ขอแนะนำว่าหากต้องการทำเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงก็ให้นำโพลล่าสุดไปประเมิน เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง โพลที่ออกมาเป็นตัวช่วยชั้นเลิศ รัฐบาลไม่ต้องทำอะไรแล้ว แค่ฟังเสียงประชาชนและอ่านโพลให้เป็นเท่านั้น รองศาสตราจารย์ โอฬาร​ กล่าวว่า​ ถ้าจะปรับ ครม. ก็ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนไม่ใช่ปรับ เพื่อตอบสนองทางการเมือง เล่นเกมอำนาจโดยไม่เห็นหัวพี่น้องคนไทย อย่าใช้โอกาสในการปรับ ครม. เพื่อสนอง ผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งในเรื่องของการเลือกตั้งและในเรื่องของนโยบายกาสิโน เราทุกคนรู้ว่าความต้องการที่จะฮุบกระทรวงมหาดไทยนั้นเป็นไปเพื่ออะไร​ แต่ถามว่าประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนหากทำสำเร็จแล้วทั้งที่กระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่ในกลุ่ม กระทรวงที่สมควรต้องถูกปรับเปลี่ยนเสียด้วยซ้ำ รองศาสตราจารย์ โอฬาร​ ย้ำว่า หากจะปรับ ครม.ก็ต้องใช้โอกาสนี้ทำไปเพื่อพี่น้องประชาชน ผลโพลที่ออกมาบอกปัญหาของรัฐบาลไปหมดแล้วว่ากระทรวงไหนต้องรีบแก้ไข อย่างกระทรวงกลาโหม แทบทุกคนฟันธงตรงกันว่าขณะนี้ยังเดินตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเห็นว่าราคาพืชผลตกต่ำ กระทรวงการคลังก็ไม่มีผลงานที่ชัดเจน […]

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]

1 2 3 4 5 6 33,931