
“วราวุธ” ยันยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม.
“วราวุธ” ยันยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม. ชี้ข่าวถูกโยกนั่ง รมว.ต่างประเทศ อาจเพราะพูดอังกฤษคล่อง แต่พูดเก่งไม่พอ ต้องมีองค์ความรู้หลายอย่าง อำนาจอยู่ที่นายกฯ
“วราวุธ” ยันยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม. ชี้ข่าวถูกโยกนั่ง รมว.ต่างประเทศ อาจเพราะพูดอังกฤษคล่อง แต่พูดเก่งไม่พอ ต้องมีองค์ความรู้หลายอย่าง อำนาจอยู่ที่นายกฯ
“วราวุธ” แถลงผลงาน 6 เดือน “พม.” ในที่ประชุมใหญ่ “ชทพ.” ระบุร่วมสนับสนุนแจกเงินหมื่นแก้ปัญหาค่าครองชีพ 2.1 ล้านราย ยกระดับการพัฒนาโครงสร้างสังคม กลุ่มเปราะบาง เตรียมผลักดันกฎหมายคุ้มครองเด็ก-ความรุนแรงในครอบครัว ยังไม่ปรับทัพพรรค มองเลือกตั้งใหญ่ปี 70 ยังอีกไกล
โตเกียว 19 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นระบุว่า ต้องการเห็นความคืบหน้าอย่างสำคัญในการเจรจาทวิภาคีเรื่องภาษีกับสหรัฐรอบหน้าที่คาดว่าจะมีขึ้นภายในเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีอิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ หลังจากรับฟังรายงานสรุปจากนายเรียวเซ อาคาซาวะ รัฐมนตรีฟื้นฟูเศรษฐกิจในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาที่เพิ่งเดินทางกลับจากกรุงวอชิงตันของสหรัฐว่า การเจรจารอบแรกที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเป็นไปด้วยความจริงใจและสร้างสรรค์ เขาได้สั่งการให้นายอาซาคาวะเร่งเตรียมการและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในรัฐบาล เพื่อให้การเจรจารอบหน้ามีความคืบหน้าอย่างสำคัญ ก่อนหน้านี้ ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า จุดยืนโดยรวมของทั้ง 2 ประเทศยังคงมีช่องว่างระหว่างกัน ด้านนายอาซาคาวะกล่าวในการแถลงข่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้าร่วมการเจรจาที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายนบ่งชี้ว่า สหรัฐต้องการบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นโดยเร็ว การเจรจารอบแรกกับตัวแทน 3 คนของสหรัฐประกอบด้วย นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง นายฮาวเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ และนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้า ทำให้เขารับทราบประเด็นหลัก ๆ ที่สหรัฐต้องการ คณะเจรจาของญี่ปุ่นจะเดินหน้าอย่างยืดหยุ่นต่อไป โดยคำนึงถึงสิ่งที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในแง่ของผลประโยชน์แห่งชาติ แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐได้แจ้งต่อคณะเจรจาของญี่ปุ่นว่า สหรัฐต้องการลดยอดขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นลงเหลือศูนย์ และแสดงความไม่พอใจที่ญี่ปุ่นนำเข้ายานยนต์และสินค้าเกษตรจากสหรัฐไม่มากพอ ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าสหรัฐราว 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) […]
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 148 คน จากเหตุเรือไม้ติดเครื่องยนต์ไฟไหม้และอับปางในแม่น้ำคองโก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
“Maha Songkran World Water Festival 2025” ไทยแลนด์ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม นักท่องเที่ยวทะลุกว่า 1.1 ล้านคน สร้างรายได้หมุนเวียน 4 พันกว่าล้านบาท
เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.
เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนนโยบายลดตายเจ็บใน 7 วันอันตรายปีนี้ได้ผลลดลงกว่า 25% ย้ำขอให้ใช้เป็นต้นแบบมาตรการรักษาความปลอดภัย ดูแลพี่น้องประชาชนในทุกเทศกาลชี้ยังต้องเข้มถึงสิ้นเดือนในงานวันไหลจังหวัดต่างๆ
ทหารเมียนมา ใช้เครื่องบินโจมตีทางอากาศถล่มกองกำลัง KNLA กลางดึก ห่างแนวชายแดนไทย 2 กม. ชาวบ้านหนีตายเข้าไทยเพิ่มอีก 215 คน
ตามที่มีการแชร์แนะนำเกี่ยวกับการเก็บกระเทียมว่า “กระเทียมห้ามแช่ตู้เย็น” นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม ไม่ควรเก็บกระเทียมในตู้เย็น เพราะอุณหภูมิและความชื้นในตู้เย็นอาจทำให้กระเทียมสูญเสียประโยชน์ และเกิดสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดเชื้อราบางชนิดได้ หากปอกเปลือกแล้ว แช่ตู้เย็นได้ แต่ควรใส่ในภาชนะปิดสนิท FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า “กระเทียมห้ามแช่ตู้เย็น” เป็นข้อมูลที่มักมีการส่งต่อและเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในรูปแบบข้อความ อินโฟกราฟิก และคลิป ที่เป็นลักษณะการให้ความรู้เกี่ยวกับการเก็บรักษาผักและผลไม้ ซึ่ง “กระเทียม” เป็นหนึ่งสิ่งที่ได้รับการแนะนำว่า “ไม่ควรแช่ตู้เย็น” หากนำมารับประทานอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ รวมทั้งยังมีประชาชนสอบถามในประเด็นดังกล่าวเข้ามาที่ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ด้วย ทำไม ? กระเทียมไม่ควรแช่เย็นดร.ปัทนภา ศรีชมเชย นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ผู้จัดการศูนย์โภชนาการและกำหนดอาหาร รพ.เทพธารินทร์ ให้ข้อมูลผ่านรายการ 100.5 อาสาเตือนภัยไว้ว่า “กระเทียม” มีความชื้นค่อนข้างสูง จึงไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นในครัวเรือนซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากอุณหภูมิในตู้เย็นอาจทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราบางชนิดได้ กระเทียมที่ปอกเปลือกแล้วหากนำไปเก็บในตู้เย็นควรเก็บในภาชนะปิดสนิท เนื่องจากกระเทียมอาจดูดซับความชื้น โดยเฉพาะ เชื้อราแอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus flavus และ Aspergillus parasiticus) ที่สามารถเจริญเติบโตได้บนกระเทียมจนส่งผลให้เกิดสารพิษอะฟลาทอกซิน […]
กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง
19 เมษายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวิธีบอกเหตุแผ่นดินไหวล่วงหน้าเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโอฝูงกิ้งกืออพยพจากใต้ดินในไต้หวัน โดยอ้างว่าเป็นสัญญาณเตือนเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บทสรุป : 1.ฝูงกิ้งกืออพยพจากใต้ดินจากความชื้น ไม่ใช่ลางบอกเหตุแผ่นดินไหว2.ข้อมูลปัจจุบันไม่พบว่าสัญชาตญาณของสัตว์รับรู้การเกิดแผ่นดินไหว FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ชูหมิงชุง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเนชันแนลไต้หวัน ชี้แจงว่า กิ้งกือในธรรมชาติมีหลายประเภท แต่ละชนิดมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป สาเหตุที่ฝูงกิ้งกืออพยพจากใต้ดินจำนวนมาก อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงผสมพันธุ์หรือเนื่องจากฝนตกหนัก เนื่องจากกิ้งกืออาศัยอยู่ในโพรงของหน้าดิน เมื่อฝนตกหนักจนน้ำท่วมหน้าดิน กิ้งกือที่ไม่มีอากาศหายใจจึงต้องอพยพมาอยู่ยังพื้นดิน เช่นเดียวกับศูนย์เฝ้าระวังเหตุแผ่นดินไหวของไต้หวัน ที่ยืนยันว่าพฤติกรรมของกิ้งกือในคลิปน่าจะมีปัจจัยจากความชื้นและอุณหภูมิในบรรยากาศ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุแผ่นดินไหว พฤติกรรมของสัตว์ไม่ใช่สิ่งบอกเหตุแผ่นดินไหว สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) อธิบายว่า ความเชื่อเรื่องพฤติกรรมของสัตว์คือสัญญาณบอกเหตุแผ่นดินไหว ถูกบันทึกเอาไว้ตั้งแต่ 373 ปีก่อนคริสตกาลโดยชาวกรีกโบราณ ที่พบว่าสัตว์ที่อยู่ตามพื้นดิน เช่น หนู วีเซิล งู และตะขาบ จะออกมาจากรังเพื่อหาที่ปลอดภัยก่อนเหตุแผ่นดินไหว มีหลักฐานบันทึกว่า ปลา นก […]