รัฐสภา15 ส.ค.-“นพ.ระวี” ยินดีถ้าองคุลีมาลจะกลับใจเข้าร่วมประชุมรัฐสภาพิจารณากฎหมายลูก เชื่อถ้าพลังประชารัฐจับมือเพื่อไทยล้มกฎหมายลูก ประชาชนจะเทคะแนนให้พรรคขนาดกลางและเล็ก
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวันนี้(15 ส.ค.) ว่า การประชุมที่เกิดขึ้นในวันนี้กลุ่มพรรคเล็กได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก หลังจากการประชุมร่วมกันของรัฐสภาล่มเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบว่านายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาให้สัมภาษณ์ว่าการนัดประชุมในวันนี้เป็นไปได้ยาก แต่ท้ายที่สุดสภาฯ ตัดสินใจนัดประชุมวันนี้ขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่ายินดีที่จะไปให้สุดทาง ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นให้ถือว่าสภาฯ ได้ทำหน้าที่อย่างสุดทางแล้ว
“สำหรับทางออกในการพิจารณากฎหมายลูกในวันนี้ยังคงขึ้นอยู่กับ 3 แนวทาง คือ1. การเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาและองค์ประชุมไม่ครบต่อมา 2.องค์ประชุมครบสามารถเดินหน้าพิจารณากฎหมายได้จนจบวาระที่ 2 และ ไปล่มในวาระที่ 3 ซึ่งกฎหมายจะตกในวาระนี้ทั้งหาร 100 และ หาร 500 3. ร่างกฏหมายสามารถเดินหน้าต่อไปได้จนจบวาระที่ 3 และ วาระที่3 และรอการพิจารณาจาก กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวถึงท่าทีของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่ายังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มพรรคเล็กได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตรแล้ว 4-5 ครั้ง และในงานคล้ายวันเกิดของพล.อ.ประวิตรเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ทราบจากสื่อมวลชนว่าพล.อ.ประวิตรขอให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุม ต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม ทางประธานวิปรัฐบาลแถลงยืนยันว่าพล.อ.เอกประวิตรขอให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมในวันนี้เช่นกัน ซึ่งต้องติดตามว่าพล.อ.ประวิตรขอให้ส.ส.เข้าร่วมประชุมจริงหรือไม่
“ถ้าพล.อ.ประวิตรยังไม่หักกับน้องเล็ก (พล.อ.ประยุทธ์) พอเอาหาร 500 พรรคที่ดิ้นเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวกก็พอจะเดาได้ ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐเห็นด้วยกับหาร 100 ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัย ดังนั้น หากพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมในวันนี้ได้จริงจะสามารถเป็นข้อพิสูจน์ได้พล.อ.ประวิตรไม่เป็นไปตามข่าว และหากสภาฯ ยังล่มเหมือนหอกดาบจะทิ่มไปทิ่มพล.อ.ประวิตร มากกว่าพรรคเพื่อไทย ยินดีต้อนรับองคุลีมาลกลับเข้าสู่รัฐสภา หากเข้ามาเซ็นชื่อจริงต้องมาติดตามว่าเหมือนวันที่ 10 สิงหาคมหรือไม่ว่าเมื่อเซ็นชื่อเสร็จเข้าสู่กฎหมายลูก แม้กระทั่งประธานวิปยังไม่แสดงตน จะต้องมาดูว่าองคุลีมาลกลับใจเข้าสภาตอนเข้าพบพระพุทธเจ้าหรือยัง” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวว่า หากเกิดพฤติกรรมที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยจับมือกันจริงมองว่ามวลชนของทั้งสองฝ่ายไม่ทราบว่าจะแฮปปี้อยู่หรือไม่ ซึ่งประชาชนจะพิพากษาพรรคพลังประชารัฐหรือไม่จะต้องมาดูกันอยู่ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ซึ่งไม่แน่ว่าประชาชนอาจเปลี่ยนใจมาเทคะแนนให้กับพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็กแทน .-สำนักข่าวไทย