ITU มุ่งสร้างความตระหนักรู้ด้าน Cybersecurity ให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

หน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ส่งเสริมทักษะความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ (Cybersecurity) ผ่านการจัดงาน WTDC 2022 และผ่านโครงการ “การอบรมผู้สื่อข่าวเพศหญิงในภูมิภาคเอเชีย ในหัวข้อ “การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์” ร่วมกับองค์กรพาร์ทเนอร์อย่าง AIBD และ USIAD


Cybersecurity คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ?

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ระบุว่า Cybersecurity หรือ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ ความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ คือการนำเครื่องมือเทคโนโลยี กระบวนการ และวิธีการปฏิบัติ มารับมือและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์หรือบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เข้ามายังอุปกรณ์เครือข่าย, โครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ, หรือโปรแกรม เพื่อสร้างความเสียหายในรูปแบบต่าง ๆ จนระบบสูญเสียทั้งข้อมูลสำคัญและเงินจำนวนมหาศาล


ในยุคปัจจุบัน หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากภาครัฐหรือภาคเอกชนควรจะให้ความสำคัญกับ Cybersecurity มากขึ้น เนื่องจากรูปแบบการโจมตีทางด้านไซเบอร์มีความหลากหลายมากขึ้น และสามารถสร้างความเสียหายให้กับองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มักจะเป็นเหยื่อจากจากถูกโจรกรรมทางไซเบอร์มักจะเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความสำคัญสูง รวมถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปที่ยังขาดทักษะในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง


คุณ อัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของหน่วยงาน ITU

คุณ อัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของหน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) กล่าวว่า “สถาบันการเงินและธนาคาร มักจะเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมถึงผู้ที่มีความเปราะบาง เช่น เด็ก ๆ และผู้สูงอายุที่เล่นอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก

สถิติในปี 2021 ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงปี 2019-2021 มีประมาณ 800 กว่าล้านผู้ใช้จากทั่วโลก ที่เพิ่งเข้าร่วมอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ซึ่งมันยากมากที่จะจัดประเภทและจัดอันดับได้ ว่ากลุ่มผู้ใช้ไหนเปราะบางมากที่สุด แต่ผู้ใช้ 800 ล้านเหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มผู้เปราะบางทั้งสิ้น”


หน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และองค์กรพาร์ทเนอร์มีบทบาทในการช่วยเหลืออย่างไร ?

จากปัญหาและความสำคัญที่ได้กล่าวมาข้างต้น หน่วยงานระดับสากลอย่างสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ที่ซึ่งเป็นหนึ่งใน 21 หน่วยงานทางด้านโทรคมนาคมระหว่างประเทศของทีมสหประชาชาติในประเทศไทย ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้เช่นกัน

โดยหน่วยงาน ITU ได้จัดงาน WTDC 2022 ขึ้น ที่เมืองคิกาลี ประเทศรวันด้า ตั้งแต่วันที่ 6 จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ซึ่งภายในงานก็ได้มีการนำประเด็นเรื่อง Cybersecurity ขึ้นมาเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ควรเร่งให้ความช่วยเหลือ

โดยเฉพาะกับชุมชนในประเทศที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ อย่างประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องไปกับคอนเซปต์หลักของงาน ที่ต้องการช่วยเหลือประชากรทั่วโลกที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ให้พวกเขาได้เชื่อมต่อกับโลกยุคดิจิทัล และมีทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นพื้นฐาน (Digital literacy) ซึ่งความรู้ด้าน Cybersecurity ก็คือหนึ่งในทักษะนั้น

นอกจากนี้ หน่วยงาน สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ยังร่วมมือกับองค์กรพาร์ทเนอร์อย่าง AIBD (The Asia-Pacific Institute for Broadcasting Development) และ USAID (U.S. Agency for International Development) เพื่อจัดทำโครงการ อบรมผู้สื่อข่าวเพศหญิงในภูมิภาคเอเชีย ในหัวข้อ “การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)” เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลข่าวสารในวงการวารสารศาสตร์

โดย ดร. Tadas Jakštas ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “สำหรับวงการวารสารศาสตร์ (journalism) นั้น ผมว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะผู้สื่อข่าวจะเป็นผู้ที่ถือข้อมูลอยู่กับตัว พวกคุณล้วนถือข้อมูลที่ทั้งสำคัญและละเอียดอ่อน เพราะงั้น ถ้าจะให้เข้าใจแก่นแท้และพื้นฐานของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ คุณต้องรู้ว่าจะป้องกันตัวเองอย่างไร กล่าวคือ รู้ว่าควรจะต้องตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับมาอย่างมีวิจารณญาณอย่างไร หรือรู้ว่าจะต้องมีสุขอนามัยที่ดีในการใช้งานไซเบอร์ (Cyber Hygiene) อย่างไร

เช่น วิธีทั่วไปอย่างการตั้งค่ารหัสผ่านของคุณให้รัดกุมที่สุด การรู้ว่าควรจะเชื่ออะไรหรือไม่เชื่ออะไรบนโลกออนไลน์ เพราะฉะนั้น มันจึงสำคัญมากที่เหล่าผู้สื่อข่าวควรจะได้รับการอบรมในเรื่องเหล่านี้ เพราะทุกวันนี้ เราอยู่ในยุคของการ Digitalization (กล่าวคือ การปรับเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ที่เป็นแบบอนาล็อกไปเป็นดิจิทัล) ที่มีข้อมูลใหม่ ๆ ผุดขึ้นมามากมาย มันสำคัญมากที่เหล่านักข่าวจะต้องมีความยืดหยุ่นในด้านเหล่านี้โดยเฉพาะ”

ดร. Tadas Jakštas ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร

นอกจากการผลักดันเรื่อง Cybersecurity แล้ว ทางหน่วยงาน ITU ยังมีแนวทางในการช่วยเหลือประชากรโลกที่มีประมาณ 2.9 พันล้านคน ที่ยังเข้าไม่ถึงการเชื่อมอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

คุณ อัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของหน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ให้สัมภาษณ์ว่า การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ไม่ได้เป็นแค่ประเด็นที่จำเป็นสำหรับผู้สื่อข่าวเท่านั้น หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT แต่มันจำเป็นกับทุก ๆ คน เพราะอย่างที่พวกคุณรู้กัน สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเล่นอินเทอร์เน็ต พวกเขาไม่รู้หรอกว่าจะป้องกันตัวเองยังไง

มีหลายกรณีศึกษามากมายที่กล่าวถึงผู้ใช้ใหม่ที่แบ่งปันรหัสผ่าน ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของตนเองลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมันจะเป็นการสร้างช่องโหว่ให้กับตัวพวกเขาเอง ในการถูกแฮค หรือถูกสะกดรอยตาม ซึ่งล้วนถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทางไซเบอร์ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราจึงอยากให้ผู้สื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ที่มันส่งผลกระทบกับทุกคน รวมถึงเด็ก ผู้สูงวัย และผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้เป็นข้อควรระวังเวลาจะเล่นอินเทอร์เน็ต

“เรายังให้ความสำคัญกับประชากร 2.9 พันล้านคนเหล่านั้นเช่นกัน และรวมถึงผู้ที่เพิ่งจะได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาไม่นานด้วย ซึ่งมีหลากหลายวิธีในการช่วยให้ 2.9 พันล้านคนเหล่านั้นเชื่อมต่อถึงเรา


โดย 96% เปอร์เซนต์ของคนกลุ่มนั้นอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา และส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในชุมชนที่ห่างไกลมาก ๆ ที่ซึ่งอาจจะไม่มีกำลังจ่ายมากพอสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่าง ๆ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการการดำเนินการที่มุ่งเป้าหรือจำเพาะเจาะจง (targeted and specialized interventions) จากพวกเราทุกคน


เพราะฉะนั้น หนึ่งในวิธีการที่ ITU กำลังส่งเสริมอยู่ คือ โครงการ เกาะอัจฉริยะ (smart island) และ หมู่บ้านอัจฉริยะ (smart village) มันไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อกับหมู่บ้านและเกาะต่าง ๆ แต่ยังเป็นการพัฒนาขีดความสามารถและความรู้ด้านดิจิทัลของคนในชุมชนเหล่านั้นด้วย เช่น การจัดการอบรมเรื่อง cybersecurity

เราไม่ได้จะส่งเสริมชุมชนแค่ให้มีการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) หรือการเกษตรอิเล็กทรอนิกส์ (E agriculture) และยื่นโทรศัพท์ให้พวกเขาใช้อย่างเดียว แต่เราต้องมั่นใจด้วยว่า พวกเขารู้ว่าควรทำอย่างไร มีทักษะและความรู้ถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในพื้นที่ ๆ ห่างไกลแบบนั้นอย่างไร และนี่ก็คือ 1 ในวิธีที่จะเชื่อมต่อ 2.9 พันล้านคนเหล่านั้น”


เรียบเรียงบทความโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]