ITU มุ่งสร้างความตระหนักรู้ด้าน Cybersecurity ให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

หน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ส่งเสริมทักษะความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ (Cybersecurity) ผ่านการจัดงาน WTDC 2022 และผ่านโครงการ “การอบรมผู้สื่อข่าวเพศหญิงในภูมิภาคเอเชีย ในหัวข้อ “การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์” ร่วมกับองค์กรพาร์ทเนอร์อย่าง AIBD และ USIAD


Cybersecurity คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ?

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ระบุว่า Cybersecurity หรือ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ ความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ คือการนำเครื่องมือเทคโนโลยี กระบวนการ และวิธีการปฏิบัติ มารับมือและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์หรือบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เข้ามายังอุปกรณ์เครือข่าย, โครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ, หรือโปรแกรม เพื่อสร้างความเสียหายในรูปแบบต่าง ๆ จนระบบสูญเสียทั้งข้อมูลสำคัญและเงินจำนวนมหาศาล


ในยุคปัจจุบัน หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากภาครัฐหรือภาคเอกชนควรจะให้ความสำคัญกับ Cybersecurity มากขึ้น เนื่องจากรูปแบบการโจมตีทางด้านไซเบอร์มีความหลากหลายมากขึ้น และสามารถสร้างความเสียหายให้กับองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มักจะเป็นเหยื่อจากจากถูกโจรกรรมทางไซเบอร์มักจะเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความสำคัญสูง รวมถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปที่ยังขาดทักษะในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง


คุณ อัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของหน่วยงาน ITU

คุณ อัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของหน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) กล่าวว่า “สถาบันการเงินและธนาคาร มักจะเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมถึงผู้ที่มีความเปราะบาง เช่น เด็ก ๆ และผู้สูงอายุที่เล่นอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก

สถิติในปี 2021 ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงปี 2019-2021 มีประมาณ 800 กว่าล้านผู้ใช้จากทั่วโลก ที่เพิ่งเข้าร่วมอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ซึ่งมันยากมากที่จะจัดประเภทและจัดอันดับได้ ว่ากลุ่มผู้ใช้ไหนเปราะบางมากที่สุด แต่ผู้ใช้ 800 ล้านเหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มผู้เปราะบางทั้งสิ้น”


หน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และองค์กรพาร์ทเนอร์มีบทบาทในการช่วยเหลืออย่างไร ?

จากปัญหาและความสำคัญที่ได้กล่าวมาข้างต้น หน่วยงานระดับสากลอย่างสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ที่ซึ่งเป็นหนึ่งใน 21 หน่วยงานทางด้านโทรคมนาคมระหว่างประเทศของทีมสหประชาชาติในประเทศไทย ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้เช่นกัน

โดยหน่วยงาน ITU ได้จัดงาน WTDC 2022 ขึ้น ที่เมืองคิกาลี ประเทศรวันด้า ตั้งแต่วันที่ 6 จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ซึ่งภายในงานก็ได้มีการนำประเด็นเรื่อง Cybersecurity ขึ้นมาเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ควรเร่งให้ความช่วยเหลือ

โดยเฉพาะกับชุมชนในประเทศที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ อย่างประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องไปกับคอนเซปต์หลักของงาน ที่ต้องการช่วยเหลือประชากรทั่วโลกที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ให้พวกเขาได้เชื่อมต่อกับโลกยุคดิจิทัล และมีทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นพื้นฐาน (Digital literacy) ซึ่งความรู้ด้าน Cybersecurity ก็คือหนึ่งในทักษะนั้น

นอกจากนี้ หน่วยงาน สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ยังร่วมมือกับองค์กรพาร์ทเนอร์อย่าง AIBD (The Asia-Pacific Institute for Broadcasting Development) และ USAID (U.S. Agency for International Development) เพื่อจัดทำโครงการ อบรมผู้สื่อข่าวเพศหญิงในภูมิภาคเอเชีย ในหัวข้อ “การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)” เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลข่าวสารในวงการวารสารศาสตร์

โดย ดร. Tadas Jakštas ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “สำหรับวงการวารสารศาสตร์ (journalism) นั้น ผมว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะผู้สื่อข่าวจะเป็นผู้ที่ถือข้อมูลอยู่กับตัว พวกคุณล้วนถือข้อมูลที่ทั้งสำคัญและละเอียดอ่อน เพราะงั้น ถ้าจะให้เข้าใจแก่นแท้และพื้นฐานของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ คุณต้องรู้ว่าจะป้องกันตัวเองอย่างไร กล่าวคือ รู้ว่าควรจะต้องตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับมาอย่างมีวิจารณญาณอย่างไร หรือรู้ว่าจะต้องมีสุขอนามัยที่ดีในการใช้งานไซเบอร์ (Cyber Hygiene) อย่างไร

เช่น วิธีทั่วไปอย่างการตั้งค่ารหัสผ่านของคุณให้รัดกุมที่สุด การรู้ว่าควรจะเชื่ออะไรหรือไม่เชื่ออะไรบนโลกออนไลน์ เพราะฉะนั้น มันจึงสำคัญมากที่เหล่าผู้สื่อข่าวควรจะได้รับการอบรมในเรื่องเหล่านี้ เพราะทุกวันนี้ เราอยู่ในยุคของการ Digitalization (กล่าวคือ การปรับเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ที่เป็นแบบอนาล็อกไปเป็นดิจิทัล) ที่มีข้อมูลใหม่ ๆ ผุดขึ้นมามากมาย มันสำคัญมากที่เหล่านักข่าวจะต้องมีความยืดหยุ่นในด้านเหล่านี้โดยเฉพาะ”

ดร. Tadas Jakštas ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร

นอกจากการผลักดันเรื่อง Cybersecurity แล้ว ทางหน่วยงาน ITU ยังมีแนวทางในการช่วยเหลือประชากรโลกที่มีประมาณ 2.9 พันล้านคน ที่ยังเข้าไม่ถึงการเชื่อมอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

คุณ อัตสึโกะ โอคุดะ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของหน่วยงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ให้สัมภาษณ์ว่า การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ไม่ได้เป็นแค่ประเด็นที่จำเป็นสำหรับผู้สื่อข่าวเท่านั้น หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT แต่มันจำเป็นกับทุก ๆ คน เพราะอย่างที่พวกคุณรู้กัน สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเล่นอินเทอร์เน็ต พวกเขาไม่รู้หรอกว่าจะป้องกันตัวเองยังไง

มีหลายกรณีศึกษามากมายที่กล่าวถึงผู้ใช้ใหม่ที่แบ่งปันรหัสผ่าน ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของตนเองลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมันจะเป็นการสร้างช่องโหว่ให้กับตัวพวกเขาเอง ในการถูกแฮค หรือถูกสะกดรอยตาม ซึ่งล้วนถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทางไซเบอร์ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราจึงอยากให้ผู้สื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ที่มันส่งผลกระทบกับทุกคน รวมถึงเด็ก ผู้สูงวัย และผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้เป็นข้อควรระวังเวลาจะเล่นอินเทอร์เน็ต

“เรายังให้ความสำคัญกับประชากร 2.9 พันล้านคนเหล่านั้นเช่นกัน และรวมถึงผู้ที่เพิ่งจะได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาไม่นานด้วย ซึ่งมีหลากหลายวิธีในการช่วยให้ 2.9 พันล้านคนเหล่านั้นเชื่อมต่อถึงเรา


โดย 96% เปอร์เซนต์ของคนกลุ่มนั้นอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา และส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในชุมชนที่ห่างไกลมาก ๆ ที่ซึ่งอาจจะไม่มีกำลังจ่ายมากพอสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่าง ๆ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการการดำเนินการที่มุ่งเป้าหรือจำเพาะเจาะจง (targeted and specialized interventions) จากพวกเราทุกคน


เพราะฉะนั้น หนึ่งในวิธีการที่ ITU กำลังส่งเสริมอยู่ คือ โครงการ เกาะอัจฉริยะ (smart island) และ หมู่บ้านอัจฉริยะ (smart village) มันไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อกับหมู่บ้านและเกาะต่าง ๆ แต่ยังเป็นการพัฒนาขีดความสามารถและความรู้ด้านดิจิทัลของคนในชุมชนเหล่านั้นด้วย เช่น การจัดการอบรมเรื่อง cybersecurity

เราไม่ได้จะส่งเสริมชุมชนแค่ให้มีการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) หรือการเกษตรอิเล็กทรอนิกส์ (E agriculture) และยื่นโทรศัพท์ให้พวกเขาใช้อย่างเดียว แต่เราต้องมั่นใจด้วยว่า พวกเขารู้ว่าควรทำอย่างไร มีทักษะและความรู้ถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในพื้นที่ ๆ ห่างไกลแบบนั้นอย่างไร และนี่ก็คือ 1 ในวิธีที่จะเชื่อมต่อ 2.9 พันล้านคนเหล่านั้น”


เรียบเรียงบทความโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมชมจุดเจาะน้ำบาดาล พร้อมดื่มน้ำแร่เลาขวัญ

กาญจนบุรี 9 มิ.ย.-นายกฯ ตรวจราชการ เยี่ยมชม 2 โครงการน้ำบาลแก้ภัยแล้ง จ.กาญจบุรี เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและทั่วถึง เตรียมใช้งบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาน้ำ เผยรอยยิ้มของคนกาญจนบุรีเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่ง โดยจุดแรก ที่บ้านปากชัดหนองบัว ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ. กาญจนบุรี โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกฯ นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเตรียมที่จะมีโครงการเสนอของบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหมวดโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 12 โครงการ 3,194 รายการงบประมาณทั้งสิ้น 14,859 ล้านบาท โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 563,239 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 134,620 ไร่ และจะเกิดการจ้างงาน 29,214 คนรวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 211.46 ลูกบาศก์เมตรต่อปี […]

“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชาถอย เป็นความสำเร็จเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชายอมถอย เป็นความสำเร็จจากการเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” และพูดคุยในทุกระดับ โยน กองทัพพิจารณามาตรการปิดด่าน เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลาย ย้ำถก JBC ยึดกรอบเดิม ไม่มีคุยปม 3 ปราสาท หวังความชัดเจนเส้นเขตแดน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะการทำสงครามมันไม่มีประโยชน์ ซึ่งตนได้แจ้งว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นผู้รับผิดชอบการสั่งให้รบกันมันง่าย แต่ความสูญเสียจะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างยุติ โดยไม่เกิดความสูญเสีย สิ่งสำคัญคือ เราอยากลดการเผชิญหน้า ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามี มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย จึงเหมือนว่าการคุยกันยังไม่ยุติ จึงต้องพูดคุยกันใหม่ […]

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย