ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 15

เวียดนาม 17 พ.ค. – ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทย เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต คว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 15 มาครองได้สำเร็จ


เซปักตะกร้อ ที่ฮองใหม่ ยิมเนเซียม ทีมเดี่ยวชายของไทย ชุดสีแดง ลงแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ พบคู่ปรับเก่า “เสือเหลือง” มาเลเซีย ทีมไทยส่ง “ซ้ายสั่งตาย” ศิริวัฒน์ สาขา เป็นตัวเสิร์ฟ “โน้ต” ภัทรพงษ์ ยุพดี เป็นตัวชง และ “ฟิว” จิระศักดิ์ ผักบัวเงิน เป็นตัวฟาด

ช่วงต้นเกมสูสี 2 ฝ่ายผลัดกันทำคะแนน จนมาเท่ากันที่ 11-11 แต่ทีมไทยอาศัยการฟาดของ จิระศักดิ์ ที่หนักหน่วง ก่อนที่ ศิริวัฒน์ จะเสิร์ฟปิดเซตแรกไปได้ที่ 21-18


เซตที่ 2 สูสี ไทยต้องเปลี่ยน “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงศ์ คำจันทร์ มาเป็นตัวเสิร์ฟ ก่อนจะเอาชนะไปได้ 21-13 รวม ไทย ชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต คว้าเหรียญทองซีเกมส์ สมัยที่ 15 และเป็นเหรียญทองซีเกมส์ที่ 18 ของ พรชัย ที่เป็นตัวสำรองด้วย

นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าโค้ช เผยว่า รอบรองและรอบชิงชนะเลิศที่พบ อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ที่ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ ทำให้จับยาก เพราะดันผู้เล่นใหม่มาหมด แต่นักกีฬามีประสบการณ์ จึงทำให้สามารถเอาชนะได้

สิทธิพงศ์ คำจันทร์ แบ็กที่ลงมาเป็นตัวสำรองและเปลี่ยนเกมให้ทีม เผยว่า โค้ชให้ดูเกมก่อนจะลงมาปรับรูปแบบของเกมเสิร์ฟ


เซปักตะกร้อหญิงเดี่ยว พบกันหมดนัดสุดท้าย ทีมชาติไทย แชมป์เก่า 10 สมัย พบ มาเลเซีย โดยทีมไทยลงสนามนัดที่ 4 หลังจาก 3 นัดแรก ชนะ เวียดนาม 2-0 เซต, ชนะ เมียนมา 2-0 เซต และชนะ กัมพูชา 2-0 เซต เกมนี้ไทยส่ง อติกานต์ คงแก้ว เป็นตัวเสิร์ฟลงสลับกับ วิภาดา จิตพรวน ส่วนตัวชงใช้ มัสยา ดวงศรี กัปตันทีม ขณะที่ตัวฟาด สมฤดี ปรือปรัก ลงสลับกับ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต 21-12 และ 21-9 เก็บชัยชนะ 4 นัดรวด มีคะแนนดีที่สุดใน 5 ทีมที่แข่งขัน คว้าแชมป์สมัยที่ 11 และเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมตะกร้อไทย ส่วนตะกร้อหญิงไทยจะลงแข่งขันประเภททีม 4 คน อีกรายการ

เทเบิลเทนนิส ประเภทคู่ผสม รอบก่อนรองชนะเลิศ “ไบรท์” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล กับ “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร แชมป์เก่าปี 2017 เสื้อสีฟ้า ที่ได้บายรอบแรก ตบเอาชนะ ดิน อัน ฮวง กับ เหงียน กั๊ว คาน จากเวียดนาม “เจ้าภาพ” ไปได้ 3-0 เกม 11-6, 11-9 และ 11-7 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ส่วนอีกคู่ “บอล” ภาคภูมิ สงวนสิน กับ “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง เสื้อสีฟ้า พบ เหงียน ดุ๊ก ตวน กับ บุ ฮ็อก ลัน จากเวียดนาม ผลปรากฏว่า ภาคภูมิ กับ อรวรรณ ตบเอาชนะไปได้ 3-1 เกม 11-6, 11-6, 6-11 และ 11-5 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เช่นกัน

ฟุตซอลหญิง ที่ฮานัม ยิมเนเซียม แข่งขันแบบพบกันหมด นัดที่ 2 ทีมชาติไทย พบ เมียนมา หลังจากนัดแรก สาวไทย ชนะ มาเลเซีย 4-0 ส่วน เมียนมา แพ้ เวียดนาม 0-6 เริ่มเกมเพียง 7 นาที ปทิตตา มูลโพธิ์ พยายามชาร์จหน้าประตู และไปโดน อี อี เฮ สกัดเข้าประตูตัวเองให้ไทยนำก่อน 1-0 ถัดมาเพียง 2 นาที ปทิตตา มูลโพธิ์ จิ้มบอลเลยไปถึง แพรพลอย หัวใจเพชร กดด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมให้ไทยนำห่าง 2-0 นาทีที่ 17 แพรพลอย หัวใจเพชร ได้ยิงไกลด้วยขวาเข้าไปให้ไทยนำห่าง 3-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 24 ไทยมาได้ประตูปิดท้าย มุทิตา เสนคราม ปาดเรียดเข้ากลาง แต่ นันต์ เมย์ ทาซิน สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง ช่วยให้ทีมฟุตซอลสาวไทย เอาชนะ 4-0 มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน โดยนัดต่อไป ทีมสาวไทย พบ เวียดนาม ที่ฮานัม ยิมเนเซียม ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น.

แบดมินตัน ที่สนามบั๊ก ซาง ยิมเนเซียม ประเภททีมหญิง รอบรองชนะเลิศ ทีมสาวไทยที่การันตีเหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว พบ สิงคโปร์ คู่แรก หญิงเดี่ยว มือ 1 “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 ของโลก ตบชนะ เหยา เจียหมิน มือ 18 ของโลก 2-0 เกม 21-17 และ 21-13 ช่วยให้ทีมสาวไทยขึ้นนำ 1-0 คู่

จากนั้น หญิงคู่ มือ 1 “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 ของโลก ชนะ ยูเจีย จิน กับ หว่อง เจีย หยิง คริสตัล คู่มือ 121 ของโลก 2-0 เกม 21-19 และ 21-15 ทีมไทยนำห่าง 2-0 คู่

ก่อนที่หญิงเดี่ยว มือ 2 “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มือ 21 ของโลก จะเอาชนะ อินชิระ คาน มือ 319 ของโลก 2 เกมรวด 21-15 และ 23-21 ช่วยให้ทีมสาวไทยเอาชนะไปได้ 3-0 คู่ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 8 พบ อินโดนีเซีย ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) เวลา 13.00 น.

จักรยานเสือภูเขา ที่เมืองฮัวบินห์ ชิงชัย 1 เหรียญทอง จากรายการครอสคันทรี ทีมรีเลย์ (ผลัดผสม) ระยะทางรวม 20.8 กิโลเมตร แต่ละทีมจะมีนักปั่นชาย 2 คน หญิง 2 คน โดยผู้ฝึกสอนจะวางแผนให้นักปั่นคนใดลงแข่งขันก่อนก็ได้ ซึ่งทีมไทยส่ง “โตมร” พูนศิริ ศิริมงคล ลงปั่นเป็นไม้แรก ตามมาด้วย “พลอย” วรินทร เพ็ชรประพันธ์ เป็นไม้ที่ 2 จากนั้น “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ เป็นไม้ที่ 3 และ “โดด” กีรติ สุขประสาท เป็นไม้สุดท้าย ปรากฏว่า ทีมเสือภูเขาไทยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 1.24.54 ชั่วโมง ได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมมาเลเซีย และเหรียญเงิน “เจ้าภาพ” เวียดนาม

สรุปผลงานของทีมเสือภูเขาไทย ได้ 1 เหรียญทอง จาก เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ จากดาวน์ฮิลชาย, 1 เหรียญเงิน จากจ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส จากดาวน์ฮิลหญิง และ 1 เหรียญทองแดง จากครอสคันทรี ทีมรีเลย์

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ณ เวลา 18.00 น.
อันดับ 1 เวียดนาม 93 เหรียญทอง 59 เหรียญเงิน 60 เหรียญทองแดง รวม 212 เหรียญ
อันดับ 2 ไทย 36 เหรียญทอง 38 เหรียญเงิน 61 เหรียญทองแดง รวม 135 เหรียญ
อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ 33 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 45 เหรียญทองแดง รวม 114 เหรียญ
อันดับ 4 สิงคโปร์ 26 เหรียญทอง 31 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง รวม 89 เหรียญ
อันดับ 5 อินโดนีเซีย 25 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 33 เหรียญทองแดง รวม 94 เหรียญ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้