ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 15

เวียดนาม 17 พ.ค. – ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทย เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต คว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 15 มาครองได้สำเร็จ


เซปักตะกร้อ ที่ฮองใหม่ ยิมเนเซียม ทีมเดี่ยวชายของไทย ชุดสีแดง ลงแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ พบคู่ปรับเก่า “เสือเหลือง” มาเลเซีย ทีมไทยส่ง “ซ้ายสั่งตาย” ศิริวัฒน์ สาขา เป็นตัวเสิร์ฟ “โน้ต” ภัทรพงษ์ ยุพดี เป็นตัวชง และ “ฟิว” จิระศักดิ์ ผักบัวเงิน เป็นตัวฟาด

ช่วงต้นเกมสูสี 2 ฝ่ายผลัดกันทำคะแนน จนมาเท่ากันที่ 11-11 แต่ทีมไทยอาศัยการฟาดของ จิระศักดิ์ ที่หนักหน่วง ก่อนที่ ศิริวัฒน์ จะเสิร์ฟปิดเซตแรกไปได้ที่ 21-18


เซตที่ 2 สูสี ไทยต้องเปลี่ยน “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงศ์ คำจันทร์ มาเป็นตัวเสิร์ฟ ก่อนจะเอาชนะไปได้ 21-13 รวม ไทย ชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต คว้าเหรียญทองซีเกมส์ สมัยที่ 15 และเป็นเหรียญทองซีเกมส์ที่ 18 ของ พรชัย ที่เป็นตัวสำรองด้วย

นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าโค้ช เผยว่า รอบรองและรอบชิงชนะเลิศที่พบ อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ที่ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ ทำให้จับยาก เพราะดันผู้เล่นใหม่มาหมด แต่นักกีฬามีประสบการณ์ จึงทำให้สามารถเอาชนะได้

สิทธิพงศ์ คำจันทร์ แบ็กที่ลงมาเป็นตัวสำรองและเปลี่ยนเกมให้ทีม เผยว่า โค้ชให้ดูเกมก่อนจะลงมาปรับรูปแบบของเกมเสิร์ฟ


เซปักตะกร้อหญิงเดี่ยว พบกันหมดนัดสุดท้าย ทีมชาติไทย แชมป์เก่า 10 สมัย พบ มาเลเซีย โดยทีมไทยลงสนามนัดที่ 4 หลังจาก 3 นัดแรก ชนะ เวียดนาม 2-0 เซต, ชนะ เมียนมา 2-0 เซต และชนะ กัมพูชา 2-0 เซต เกมนี้ไทยส่ง อติกานต์ คงแก้ว เป็นตัวเสิร์ฟลงสลับกับ วิภาดา จิตพรวน ส่วนตัวชงใช้ มัสยา ดวงศรี กัปตันทีม ขณะที่ตัวฟาด สมฤดี ปรือปรัก ลงสลับกับ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต 21-12 และ 21-9 เก็บชัยชนะ 4 นัดรวด มีคะแนนดีที่สุดใน 5 ทีมที่แข่งขัน คว้าแชมป์สมัยที่ 11 และเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมตะกร้อไทย ส่วนตะกร้อหญิงไทยจะลงแข่งขันประเภททีม 4 คน อีกรายการ

เทเบิลเทนนิส ประเภทคู่ผสม รอบก่อนรองชนะเลิศ “ไบรท์” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล กับ “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร แชมป์เก่าปี 2017 เสื้อสีฟ้า ที่ได้บายรอบแรก ตบเอาชนะ ดิน อัน ฮวง กับ เหงียน กั๊ว คาน จากเวียดนาม “เจ้าภาพ” ไปได้ 3-0 เกม 11-6, 11-9 และ 11-7 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ส่วนอีกคู่ “บอล” ภาคภูมิ สงวนสิน กับ “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง เสื้อสีฟ้า พบ เหงียน ดุ๊ก ตวน กับ บุ ฮ็อก ลัน จากเวียดนาม ผลปรากฏว่า ภาคภูมิ กับ อรวรรณ ตบเอาชนะไปได้ 3-1 เกม 11-6, 11-6, 6-11 และ 11-5 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เช่นกัน

ฟุตซอลหญิง ที่ฮานัม ยิมเนเซียม แข่งขันแบบพบกันหมด นัดที่ 2 ทีมชาติไทย พบ เมียนมา หลังจากนัดแรก สาวไทย ชนะ มาเลเซีย 4-0 ส่วน เมียนมา แพ้ เวียดนาม 0-6 เริ่มเกมเพียง 7 นาที ปทิตตา มูลโพธิ์ พยายามชาร์จหน้าประตู และไปโดน อี อี เฮ สกัดเข้าประตูตัวเองให้ไทยนำก่อน 1-0 ถัดมาเพียง 2 นาที ปทิตตา มูลโพธิ์ จิ้มบอลเลยไปถึง แพรพลอย หัวใจเพชร กดด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมให้ไทยนำห่าง 2-0 นาทีที่ 17 แพรพลอย หัวใจเพชร ได้ยิงไกลด้วยขวาเข้าไปให้ไทยนำห่าง 3-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 24 ไทยมาได้ประตูปิดท้าย มุทิตา เสนคราม ปาดเรียดเข้ากลาง แต่ นันต์ เมย์ ทาซิน สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง ช่วยให้ทีมฟุตซอลสาวไทย เอาชนะ 4-0 มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน โดยนัดต่อไป ทีมสาวไทย พบ เวียดนาม ที่ฮานัม ยิมเนเซียม ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น.

แบดมินตัน ที่สนามบั๊ก ซาง ยิมเนเซียม ประเภททีมหญิง รอบรองชนะเลิศ ทีมสาวไทยที่การันตีเหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว พบ สิงคโปร์ คู่แรก หญิงเดี่ยว มือ 1 “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 ของโลก ตบชนะ เหยา เจียหมิน มือ 18 ของโลก 2-0 เกม 21-17 และ 21-13 ช่วยให้ทีมสาวไทยขึ้นนำ 1-0 คู่

จากนั้น หญิงคู่ มือ 1 “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 ของโลก ชนะ ยูเจีย จิน กับ หว่อง เจีย หยิง คริสตัล คู่มือ 121 ของโลก 2-0 เกม 21-19 และ 21-15 ทีมไทยนำห่าง 2-0 คู่

ก่อนที่หญิงเดี่ยว มือ 2 “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มือ 21 ของโลก จะเอาชนะ อินชิระ คาน มือ 319 ของโลก 2 เกมรวด 21-15 และ 23-21 ช่วยให้ทีมสาวไทยเอาชนะไปได้ 3-0 คู่ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 8 พบ อินโดนีเซีย ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) เวลา 13.00 น.

จักรยานเสือภูเขา ที่เมืองฮัวบินห์ ชิงชัย 1 เหรียญทอง จากรายการครอสคันทรี ทีมรีเลย์ (ผลัดผสม) ระยะทางรวม 20.8 กิโลเมตร แต่ละทีมจะมีนักปั่นชาย 2 คน หญิง 2 คน โดยผู้ฝึกสอนจะวางแผนให้นักปั่นคนใดลงแข่งขันก่อนก็ได้ ซึ่งทีมไทยส่ง “โตมร” พูนศิริ ศิริมงคล ลงปั่นเป็นไม้แรก ตามมาด้วย “พลอย” วรินทร เพ็ชรประพันธ์ เป็นไม้ที่ 2 จากนั้น “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ เป็นไม้ที่ 3 และ “โดด” กีรติ สุขประสาท เป็นไม้สุดท้าย ปรากฏว่า ทีมเสือภูเขาไทยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 1.24.54 ชั่วโมง ได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมมาเลเซีย และเหรียญเงิน “เจ้าภาพ” เวียดนาม

สรุปผลงานของทีมเสือภูเขาไทย ได้ 1 เหรียญทอง จาก เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ จากดาวน์ฮิลชาย, 1 เหรียญเงิน จากจ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส จากดาวน์ฮิลหญิง และ 1 เหรียญทองแดง จากครอสคันทรี ทีมรีเลย์

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ณ เวลา 18.00 น.
อันดับ 1 เวียดนาม 93 เหรียญทอง 59 เหรียญเงิน 60 เหรียญทองแดง รวม 212 เหรียญ
อันดับ 2 ไทย 36 เหรียญทอง 38 เหรียญเงิน 61 เหรียญทองแดง รวม 135 เหรียญ
อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ 33 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 45 เหรียญทองแดง รวม 114 เหรียญ
อันดับ 4 สิงคโปร์ 26 เหรียญทอง 31 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง รวม 89 เหรียญ
อันดับ 5 อินโดนีเซีย 25 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 33 เหรียญทองแดง รวม 94 เหรียญ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]