ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 15

เวียดนาม 17 พ.ค. – ตะกร้อทีมเดี่ยวชายไทย เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต คว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 15 มาครองได้สำเร็จ


เซปักตะกร้อ ที่ฮองใหม่ ยิมเนเซียม ทีมเดี่ยวชายของไทย ชุดสีแดง ลงแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ พบคู่ปรับเก่า “เสือเหลือง” มาเลเซีย ทีมไทยส่ง “ซ้ายสั่งตาย” ศิริวัฒน์ สาขา เป็นตัวเสิร์ฟ “โน้ต” ภัทรพงษ์ ยุพดี เป็นตัวชง และ “ฟิว” จิระศักดิ์ ผักบัวเงิน เป็นตัวฟาด

ช่วงต้นเกมสูสี 2 ฝ่ายผลัดกันทำคะแนน จนมาเท่ากันที่ 11-11 แต่ทีมไทยอาศัยการฟาดของ จิระศักดิ์ ที่หนักหน่วง ก่อนที่ ศิริวัฒน์ จะเสิร์ฟปิดเซตแรกไปได้ที่ 21-18


เซตที่ 2 สูสี ไทยต้องเปลี่ยน “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงศ์ คำจันทร์ มาเป็นตัวเสิร์ฟ ก่อนจะเอาชนะไปได้ 21-13 รวม ไทย ชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต คว้าเหรียญทองซีเกมส์ สมัยที่ 15 และเป็นเหรียญทองซีเกมส์ที่ 18 ของ พรชัย ที่เป็นตัวสำรองด้วย

นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าโค้ช เผยว่า รอบรองและรอบชิงชนะเลิศที่พบ อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ที่ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ ทำให้จับยาก เพราะดันผู้เล่นใหม่มาหมด แต่นักกีฬามีประสบการณ์ จึงทำให้สามารถเอาชนะได้

สิทธิพงศ์ คำจันทร์ แบ็กที่ลงมาเป็นตัวสำรองและเปลี่ยนเกมให้ทีม เผยว่า โค้ชให้ดูเกมก่อนจะลงมาปรับรูปแบบของเกมเสิร์ฟ


เซปักตะกร้อหญิงเดี่ยว พบกันหมดนัดสุดท้าย ทีมชาติไทย แชมป์เก่า 10 สมัย พบ มาเลเซีย โดยทีมไทยลงสนามนัดที่ 4 หลังจาก 3 นัดแรก ชนะ เวียดนาม 2-0 เซต, ชนะ เมียนมา 2-0 เซต และชนะ กัมพูชา 2-0 เซต เกมนี้ไทยส่ง อติกานต์ คงแก้ว เป็นตัวเสิร์ฟลงสลับกับ วิภาดา จิตพรวน ส่วนตัวชงใช้ มัสยา ดวงศรี กัปตันทีม ขณะที่ตัวฟาด สมฤดี ปรือปรัก ลงสลับกับ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต 21-12 และ 21-9 เก็บชัยชนะ 4 นัดรวด มีคะแนนดีที่สุดใน 5 ทีมที่แข่งขัน คว้าแชมป์สมัยที่ 11 และเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมตะกร้อไทย ส่วนตะกร้อหญิงไทยจะลงแข่งขันประเภททีม 4 คน อีกรายการ

เทเบิลเทนนิส ประเภทคู่ผสม รอบก่อนรองชนะเลิศ “ไบรท์” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล กับ “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร แชมป์เก่าปี 2017 เสื้อสีฟ้า ที่ได้บายรอบแรก ตบเอาชนะ ดิน อัน ฮวง กับ เหงียน กั๊ว คาน จากเวียดนาม “เจ้าภาพ” ไปได้ 3-0 เกม 11-6, 11-9 และ 11-7 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ส่วนอีกคู่ “บอล” ภาคภูมิ สงวนสิน กับ “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง เสื้อสีฟ้า พบ เหงียน ดุ๊ก ตวน กับ บุ ฮ็อก ลัน จากเวียดนาม ผลปรากฏว่า ภาคภูมิ กับ อรวรรณ ตบเอาชนะไปได้ 3-1 เกม 11-6, 11-6, 6-11 และ 11-5 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เช่นกัน

ฟุตซอลหญิง ที่ฮานัม ยิมเนเซียม แข่งขันแบบพบกันหมด นัดที่ 2 ทีมชาติไทย พบ เมียนมา หลังจากนัดแรก สาวไทย ชนะ มาเลเซีย 4-0 ส่วน เมียนมา แพ้ เวียดนาม 0-6 เริ่มเกมเพียง 7 นาที ปทิตตา มูลโพธิ์ พยายามชาร์จหน้าประตู และไปโดน อี อี เฮ สกัดเข้าประตูตัวเองให้ไทยนำก่อน 1-0 ถัดมาเพียง 2 นาที ปทิตตา มูลโพธิ์ จิ้มบอลเลยไปถึง แพรพลอย หัวใจเพชร กดด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมให้ไทยนำห่าง 2-0 นาทีที่ 17 แพรพลอย หัวใจเพชร ได้ยิงไกลด้วยขวาเข้าไปให้ไทยนำห่าง 3-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 24 ไทยมาได้ประตูปิดท้าย มุทิตา เสนคราม ปาดเรียดเข้ากลาง แต่ นันต์ เมย์ ทาซิน สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง ช่วยให้ทีมฟุตซอลสาวไทย เอาชนะ 4-0 มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน โดยนัดต่อไป ทีมสาวไทย พบ เวียดนาม ที่ฮานัม ยิมเนเซียม ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น.

แบดมินตัน ที่สนามบั๊ก ซาง ยิมเนเซียม ประเภททีมหญิง รอบรองชนะเลิศ ทีมสาวไทยที่การันตีเหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว พบ สิงคโปร์ คู่แรก หญิงเดี่ยว มือ 1 “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 ของโลก ตบชนะ เหยา เจียหมิน มือ 18 ของโลก 2-0 เกม 21-17 และ 21-13 ช่วยให้ทีมสาวไทยขึ้นนำ 1-0 คู่

จากนั้น หญิงคู่ มือ 1 “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 ของโลก ชนะ ยูเจีย จิน กับ หว่อง เจีย หยิง คริสตัล คู่มือ 121 ของโลก 2-0 เกม 21-19 และ 21-15 ทีมไทยนำห่าง 2-0 คู่

ก่อนที่หญิงเดี่ยว มือ 2 “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มือ 21 ของโลก จะเอาชนะ อินชิระ คาน มือ 319 ของโลก 2 เกมรวด 21-15 และ 23-21 ช่วยให้ทีมสาวไทยเอาชนะไปได้ 3-0 คู่ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 8 พบ อินโดนีเซีย ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) เวลา 13.00 น.

จักรยานเสือภูเขา ที่เมืองฮัวบินห์ ชิงชัย 1 เหรียญทอง จากรายการครอสคันทรี ทีมรีเลย์ (ผลัดผสม) ระยะทางรวม 20.8 กิโลเมตร แต่ละทีมจะมีนักปั่นชาย 2 คน หญิง 2 คน โดยผู้ฝึกสอนจะวางแผนให้นักปั่นคนใดลงแข่งขันก่อนก็ได้ ซึ่งทีมไทยส่ง “โตมร” พูนศิริ ศิริมงคล ลงปั่นเป็นไม้แรก ตามมาด้วย “พลอย” วรินทร เพ็ชรประพันธ์ เป็นไม้ที่ 2 จากนั้น “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ เป็นไม้ที่ 3 และ “โดด” กีรติ สุขประสาท เป็นไม้สุดท้าย ปรากฏว่า ทีมเสือภูเขาไทยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 1.24.54 ชั่วโมง ได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมมาเลเซีย และเหรียญเงิน “เจ้าภาพ” เวียดนาม

สรุปผลงานของทีมเสือภูเขาไทย ได้ 1 เหรียญทอง จาก เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ จากดาวน์ฮิลชาย, 1 เหรียญเงิน จากจ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส จากดาวน์ฮิลหญิง และ 1 เหรียญทองแดง จากครอสคันทรี ทีมรีเลย์

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ณ เวลา 18.00 น.
อันดับ 1 เวียดนาม 93 เหรียญทอง 59 เหรียญเงิน 60 เหรียญทองแดง รวม 212 เหรียญ
อันดับ 2 ไทย 36 เหรียญทอง 38 เหรียญเงิน 61 เหรียญทองแดง รวม 135 เหรียญ
อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ 33 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 45 เหรียญทองแดง รวม 114 เหรียญ
อันดับ 4 สิงคโปร์ 26 เหรียญทอง 31 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง รวม 89 เหรียญ
อันดับ 5 อินโดนีเซีย 25 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 33 เหรียญทองแดง รวม 94 เหรียญ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]