fbpx

รมว.พณ.มั่นใจปีนี้ผลไม้ไทยรอด ราคาดี จากมาตรการรุกและลึก

ตลาดไท 15 พ.ค. – รมว.พาณิชย์ มั่นใจปีนี้ผลไม้ไทยรอด ไม่ล้นตลาด ชาวสวนได้ราคาดี ผู้บริโภคอาจซื้อแพงนิด เตรียมมาตรการทั้งเชิงรุกและลึกไว้แล้ว พร้อมจัดรถโมบายส่งตรงถึงหน้าบ้าน กว่า 7,000 ตัน ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-4 มิ.ย.นี้ ส่วนเรื่องราคาน้ำมันปาล์มขวดจะพยายามดูแลให้อยู่ขวดละ 65-68 บาท ให้นานที่สุด


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “พาณิชย์ Fruit Festival 2022” @ตลาดไท ว่า กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแนวทางรองรับฤดูกาลผลผลิตผลไม้ไทยที่จะออกสู่ตลาดไว้พร้อมหมดแล้ว ซึ่งทุกแนวทางจะเป็นแนวทางเชิงรุกและลึก เพื่อให้ผลไม้นานาชนิดของไทยปีนี้ไม่ล้นตลาดและมีราคาดี โดยเกษตรกรชาวสวนจะขายได้ราคาสูง แต่ทำให้ผู้บริโภคจะซื้อผลไม้ปีนี้แพงกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ให้สามารถขายผลไม้มีราคา และปลูกผลผลิตให้คนไทยและชาวต่างชาติได้กินผลไม้ไทยต่อไปได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผลไม้มีมากกว่าปีที่แล้ว 11% ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการระบายผลไม้ คือ กำหนดมาตรการเชิงรุก 17+1 มาตรการ และกำหนดรายละเอียดตั้งแต่ต้น นอกจากมาตรการเชิงรุกแล้ว ปีนี้ได้มอบเป็นนโยบายให้ใช้มาตรการเชิงลึกด้วย เพื่อดูแลตลาดผลไม้ไทยให้ราบรื่นที่สุด ซึ่งตลาดมี 2 ส่วน คือ 1. ตลาดในประเทศ คิดเป็น 45% ของผลผลิตทั้งหมด และตลาดต่างประเทศ คิดเป็น 55% ซึ่งต้องดำเนินการทั้งมาตรการเชิงลึกและเชิงรุก ควบคู่กันไป


สำหรับตลาดส่งออก ไปจีนถึง 90% จีนจึงเป็นตลาดที่มีความสำคัญที่สุด ได้มีการประชุมร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งส่วนราชการ ภาคเอกชน ล้ง ผู้ส่งออก เกษตรกร และส่วนราชการอื่นๆ หลายรอบ ล่าสุดเตรียมการปรับระบบโลจิสติกส์ จากปกติส่งออกผลไม้ไปจีนโดยเส้นทางทางบก 48% เหลือ 10.5% และเพิ่มทางเรือมากขึ้นจากปีที่แล้ว 52% เป็น 83% และทางอากาศจากปีที่แล้ว 0.5% ปีนี้เพิ่มเป็น 6.5-7% เตรียมไฟลต์รองรับเสร็จแล้ว ซึ่งถือว่าดีที่สุดยุคหนึ่ง คิดว่าส่งออกปีนี้จะเพิ่มมูลค่ามหาศาล ปีที่แล้วส่งออกไปจีนนำเงินเข้าประเทศ 160,000 ล้านบาท ปีนี้จะเพิ่มอีก 20% เป็น 190,000 ล้านบาท เฉพาะไปประเทศจีน

ขณะที่ตลาดในประเทศ ได้จัดทำพาณิชย์ Fruit Festival 2022 ที่ร่วมกับห้างสรรพสินค้าไปบ้างแล้ว และวันนี้ได้ร่วมกับตลาดไท ระบายผลไม้ไปตลาดในประเทศไม่ต่ำกว่า 7,000 ตัน โดยระบายผ่านรถขายผลไม้ 5,000 ตัน และที่ตลาดไท ขายปลีกในราคาขายส่งอีก 2,000 ตัน โดยจัดโปรโมชันเพื่อดึงคนมาซื้อผลไม้ไทยไปบริโภค โดยมีคูปองส่วนลดทุเรียน 50 บาท/ใบ และคูปองทุเรียนซื้อ 1 แถม 1 คิดเป็นมูลค่า 500,000 บาท และยังจัดจุดจำหน่ายผลไม้ไทยราคาพิเศษทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 10,000 จุด และอีกหลายแนวทาง จะทำให้ผลไม้รอดและราคาดี เพื่อช่วยเกษตรกรชาวสวนผลไม้ทั้งประเทศได้

นอกจากนี้ กรณีราคาน้ำมันปาล์มขวดที่มีราคาสูง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนนั้น กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งหากไม่มีการพูดคุยและขอความร่วมมือ ระดับราคาน้ำมันปาล์มขวดจะอยู่ที่ 72-75 บาท ซึ่งมีหลายปัจจัยที่หนุนให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดสูงขึ้นมาต่อเนื่อง โดยผลของการพูดคุยและขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ตรึงราคาน้ำมันปาล์มขวดไว้ ขายไม่เกิน 65-68 บาท ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี และจะพยายามตรึงราคาน้ำมันปาล์มขวดให้ได้นานที่สุด แต่สิ่งที่น่ากังวลใจต่อกรณีปัญหาสงคราม 2 ประเทศ คือ รัสเซียและยูเครน หากยืดเยื้อเนิ่นนานก็ต้องพิจารณาและติดตามกันต่อไป เนื่องจากผลกระทบจากสงครามดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำมันทั่วโลก ทำให้กระทบต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามกันต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ