ชัวร์ก่อนแชร์: การบังคับฉีดวัคซีนคือพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากนาซี จริงหรือ?

19 เมษายน 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Politifact (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. เป็นการอ้างโดย โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ นักรณรงค์แนวคิดต่อต้านวัคซีน ซึ่งภายหลังถูกประณามข้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์
  2. การฉีดวัคซีนเป็นความสมัครใจ แต่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวคืออาชญากรรม

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จที่กล่าวอ้างโดย โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ นักรณรงค์ต่อต้านวัคซีน ที่มาร่วมการชุมนุมประท้วงนโยบายบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันที่ 23 มกราคมปี 2022 โดยอ้างว่า การบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีนคือพฤติกรรมไม่ต่างจากที่นาซีทำกับชาวยิว โดยเปรียบเทียบว่า แม้แต่ในประเทศเยอรมนียุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวยิวยังสามารถหลบหนีออกนอกประเทศด้วยการข้ามเทือกเขาแอลป์ไปยังสวิสเซอร์แลนด์ได้ หรือซ่อนตัวในห้องใต้หลังคาเหมือนที่ แอน แฟรงค์ กระทำได้เช่นกัน

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการประเมินว่าชาวยิวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยฝีมือของนาซีไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน หนึ่งในนั้นคือ แอน แฟรงค์ เด็กหญิงเชื้อสายยิวผู้หลบซ่อนการไล่ล่าของนาซีในประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่ครอบครัวของเธอจะถูกพบและนำตัวไปยังค่ายกักกัน ส่งผลให้เธอต้องเสียชีวิตด้วยโรคไทฟอยด์ที่แพร่ระบาดในค่ายด้วยวัยเพียง 15 ปี

การเปรียบเทียบนโยบายบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 กับนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของนาซี ทำให้ โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ ถูกสถาบัน Auschwitz Memorial และมูลนิธิ Holocaust Memorial Museum ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณาม จน โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ ต้องยอมรับผิดในภายหลัง

แม้แต่ เชอรีล ไฮน์ส ภรรยาของโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ ก็ออกแถลงการณ์ว่า ตนเองไม่มีแนวคิดเหมือนกับสามี และคิดว่าการเปรียบเทียบของเขา “น่าตำหนิและไร้สำนึก”

อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบการบังคับฉีดวัคซีนกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี เป็นแนวคิดที่เผยแพร่โดยกลุ่มต่อต้านวัคซีนมานานหลายปี

เมื่อปี 2015 โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ เคยอ้างว่าวัคซีนทำให้เด็กป่วยเป็นโรคออทิสติกมากขึ้น และเปรียบเทียบการบังคับเด็กฉีดวัคซีนไม่ต่างจากการพฤติกรรมของนาซี ทั้งๆ ที่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนกับโรคออทิสติกแต่อย่างใด

ส่วนปี 2019 ที่โรคหัดระบาดในหลายประเทศทั่วโลก ก็มีแนวร่วมต่อต้านวัคซีนนำสัญลักษณ์ “ดาราแห่งดาวิด” ของชาวยิว มาประดับเพื่อประท้วงการฉีดวัคซีน

การรณรงค์วัคซีนและมาตรการโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุคที่ไวรัสโควิด 19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก ยิ่งทำให้การเชื่อมโยงนโยบายวัคซีนโควิด-19 กับนาซีแพร่หลายในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และอิสราเอล

การสำรวจของ Zignal Labs บริษัทสำรวจสื่อพบว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 คำว่า “นาซี” ถูกพบในบทสนทนาเกี่ยวกับโควิด-19 ในสื่อสังคมออนไลน์, เว็บไซต์ และสื่อดั้งเดิม มากกว่า 1 ล้าน 6 แสนครั้ง ส่วนคำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ก็ถูกพบในบทสนทนาเกี่ยวกับโควิด-19 เกือบ 1 ล้านครั้ง

ในช่วงที่นโยบายควบคุมโควิด-19 ถูกประกาศใช้ในสหรัฐฯ สื่อมวลชนบางแขนงและนักการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยม ต่างนำนโยบายดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับแนวทางกวาดล้างชาวยิวของนาซี

ทั้งการเปรียบเทียบบุคลากรทางการแพทย์กับเกสตาโปหรือทบวงตำรวจลับของนาซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

เปรียบเทียบการใช้วัคซีนพาสปอร์ตสำหรับใช้บริการในร้านอาหารในปัจจุบัน กับรอยสักของเชลยชาวยิวที่ถูกกักขังในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ สถานที่ซึ่งชาวยิวอย่างน้อย 1.1 ล้านคนต้องเสียชีวิต โดยส่วนใหญ่ถูกสังหารด้วยการรมแก๊สพิษ รวมถึงการตายจากความอดอยาก, โรคระบาด, หรือถูกนำไปทดลองทางการแพทย์

มีการเปรียบเทียบ แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIAID) กับ โยเซฟ เมงเกอเลอ แพทย์ประจำหน่วย SS ของนาซี เจ้าของฉายา “เทวทูตแห่งความตาย” จากพฤติกรรมเกณฑ์เชลยชาวยิวมาทดลองทางการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ทดลอง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องเสียชีวิตในระหว่างการทดลอง

มีการนำสัญลักษณ์สวัสดิกะของนาซี มาใช้เป็นป้ายโฆษณาหรือเป็นลวดลายบนหน้ากาก เพื่อประท้วงนโยบายโควิด-19 ของรัฐบาลโดยเฉพาะ

แม้นโยบายบังคับฉีดวัคซีนในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด จะสร้างความไม่สะดวกในการใช้บริการสถานที่สาธารณะแก่ผู้ที่ปฎิเสธการฉีดวัคซีน แต่การเปรียบเทียบนโยบายโควิด-19 กับมาตรการกวาดล้างชาวยิวของนาซี นอกจากจะเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังเป็นการลดทอนความสำคัญของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในสมัยสงครารมโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

เบนจามิน เฮทท์ นักประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย City University of New York อธิบายว่า มีความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ระหว่างการไม่มีสิทธิ์เข้าไปสังสรรค์ในบาร์เนื่องจากไม่มีวัคซีนพาสปอร์ตในช่วงที่ไวรัสแพร่ระบาด กับการเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผู้ที่คิดว่าสิทธิที่ผู้ปฎิเสธวัคซีนถูดริดรอนเทียบได้กับชะตากรรมที่ชาวยิวที่ถูกกดขี่โดยนาซี แสดงว่าคนผู้นั้นไม่มีความเข้าใจการเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แม้แต่น้อย และเข้าข่ายเป็นผู้ที่มีแนวคิดปฎิเสธการมีอยู่ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวได้เช่นกัน

มีการเปรียบเทียบว่า สมัยที่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเรืองอำนาจในปี 1933 มีชาวยิวอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนีจำนวน 700,000 คน โดยช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เปิดฉากในปี 1939 มีชาวยิวอพยพออกนอกประเทศไปกว่าครึ่ง กระทั่งสงครามปิดฉากลงในปี 1945 มีชาวยิวเหลืออยู่ในเยอรมนีเพียง 12,000 เท่านั้น

เบนจามิน เฮทท์ วิจารณ์ว่า การอ้างว่าชาวยิวในเยอรมนียุคนาซีสามารถหนีออกนอกประเทศได้ง่ายๆ เป็นความเห็นที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อย่างสิ้นเชิง

ปีเตอร์ เฮย์ส ศาสตราจารย์กิตติคุณ ภาควิชาประวัติศาสตร์และภาษาเยอรมัน มหาวิทยาลัย Northwestern University เปรียบเทียบว่า การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจ แต่การเป็นยิวที่ถูกทารุณโดยนาซีเป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ ไม่มีประเทศไหนที่ตำรวจควบคุมตัวคนไม่ฉีดวัคซีนออกจากบ้านเพื่อจับกุมแล้วนำไปสังหารเหมือนที่นาซีกระทำกับชาวยิว

คาลินา คาลไท นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Washington วิเคราะห์ว่า การเชื่อมโยงกลุ่มคนต่อต้านวัคซีนกับชาวยิวที่ถูกนาซีกดขี่ เป็นความพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ของผู้มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน จากคนสร้างปัญหาให้กับสังคม เป็นผู้ถูกกระทำจากอำนาจรัฐโดยมิชอบ

คาลินา คาลไท ยังมองว่ากลุ่ม Anti Vaxxer มักจะนำข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนมากลับมาเผยแพร่ซ้ำ เมื่อมีการรณรงค์วัคซีนชนิดใหม่ๆ ทั้งข้ออ้างที่ว่าวัคซีนทำให้เป็นโรคออทิสติก, วัคซีนทำให้เป็นหมัน, วัคซีนติดตั้งไมโครชิป เป็นต้น

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.politifact.com/article/2022/jan/27/why-holocaust-comparisons-anti-vaccine-activists-r/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้